แพท ปรับตัวไม่ได้เมารถ-อึ้งโลกยุคใหม่ เล่านาทีช็อกหลงร็อกดังพัวพันยา


ให้คะแนน


แชร์

มีไอดอลร็อกสตาร์พัวพันยาทำชีวิตพลิก เปิดใจหลังอยู่ในเรือนจำกว่า 16 ปี แพท พาวเวอร์แพท ต่างจากในหนังสิ้นเชิง ขอโอกาสสังคม ออกสู่โลกกว้างยังปรับตัวไม่ได้ เมารถเวียนหัว หลังอยู่แต่ที่แคบ อึ้งเทคโนโลยีใหม่สมาร์ทโฟนไม่เคยเห็น เผยชีวิตพลิกมีร็อกสตาร์ไอดอลยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ยังเด็กแยกแยะไม่ออกถลำลึก ถูกชักจูงล่อลวง ช็อกศาลตัดสินจำคุก 50 ปี สู้คดี 7 ปี รับโทษ 16 ปี 8 เดือน

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

“แพท พาวเวอร์แพท” เปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ครั้งแรก เผยความในใจถึงครอบครัวอันเป็นที่รัก หลังพ้นโทษจำคุก 16 ปี 8 เดือน เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษพ่อและแม่ ที่ไม่ได้ปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดี ทำให้ทุกคนลำบาก หลังจากวันนี้ไป วินาทีนี้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ จะชดเชยสิ่งที่พลาดไป ไม่ได้ทำสิ่งดีๆให้ครอบครัวพ่อแม่ จะกลับไปดูแลให้ดีในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่

“กลับออกมาอบอุ่นเดินทางไปพบญาติๆให้การต้อนรับให้กำลังใจมาก ยังไปไม่ครบ เพราะเวลาเดินทางตอนนี้มีปัญหาเมารถ ไม่ได้เดินทางนาน ระยะสายตาในการมอง มองแต่ที่แคบ พอมานั่งรถวิ่ง วิสัยทัศน์ไกลขึ้น เวียนหัว”

เจ้าตัวยอมรับยังปรับตัวไม่ได้ กำลังพยายาม อยู่ข้างใน 16 ปี 8 เดือน เทคโนโลยี สภาพสังคมเปลี่ยนหมด ยังตั้งตัวไม่ติด ถามว่าของที่ออกมาเห็นแล้วช็อกสุดสมัยนี้มีแบบนี้ด้วยหรือคืออะไร แพท บอกว่า สมาร์ทโฟน สมัยก่อนเป็นแบบธรรมดาๆ ข้างในเรือนจำไม่ให้มีมือถือ พอออกมาจากเรือนจำ ครอบครัวได้เตรียมโทรศัพท์ไว้ให้ ลองใช้ สอนเล่นไลน์ง่ายๆ หลานชายกับพี่เขยค่อยๆสอน เริ่มหัดไลน์ยังไม่ค่อยคล่อง หัดส่งสติกเกอร์

เผยช่วงชีวิตพลิกเข้าเรือนจำ แพท เผยว่า จากเด็กโลกส่วนตัวสูง เล่นดนตรี ชอบดนตรีร็อก มีไอดอลร็อกสตาร์ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เราชื่นชอบเขา เราแยกแยะไม่ออก อยากใช้ชีวิตแบบเขา เราอายุยังน้อย ตอนนั้นคุยกับใครไม่รู้เรื่อง เวลามีปัญหาไม่รู้จะพูดคุยกับใคร ใช้ยาเสพติดเป็นเพื่อน

“ถลำจนชีวิตพัง ถามว่าติดหนักแค่ไหน ทุกวันที่ลืมตาตื่นขึ้นมา เพื่อน พี่พยายามดึง ครอบครัวห่วง แต่เราไม่ฟัง เราหัวดื้อ มีชุดความคิดบางอย่างไม่ค่อยถูกต้อง เราเสพยาจิตใจจะอ่อนไหวง่าย ถูกชักจูงล่อลวงไปโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เราไม่ได้รู้เรื่องการขายทั้งสิ้น เราถูกชักจูง เอาไปฝากเรานะ เราใช้ไปเลย เราติดยามีของเสพก็โอเค”

ถามว่าเราถูกจับตอนที่เขาเอาของฝากให้เรา แพท เผยว่า ใช่ ตำรวจตามเขามาตอนที่เขามาเอาของ ก็รวบเลย เขาก็โดน ช็อกมาก ณ วินาทีนั้นตกใจเกิดขึ้นจริงหรือ คิดว่าพังแล้ว ทุกอย่างพัง คิดไม่ออก ตื้อไปหมด ปฏิเสธคงลำบากเพราะมันก็อยู่กับเรา ของกลาง พูดอะไรมากไม่ได้ เขาคงไม่เชื่อ จะบอกไม่ใช่ของผม เขามาฝาก แก้ตัวไม่ขึ้น

อะไรที่เสียดายที่สุดตอนนั้นชื่อเสียงครอบครัว แพท เผยว่า ทุกอย่าง มันจบไปหมดเลย โทษคดีของผมโดนตัดสินตลอดชีวิต 2 ครั้ง ให้การเป็นประโยชน์ต่อศาลในการรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือ 50 ปี ตอนอายุ 23-24 ปี พ่อแม่รู้ข่าวจากสื่อ เพราะตอนนั้นออกมาอยู่เองไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่ ก็บอกพ่อแม่ตามจริง เขาก็หาทนายมาให้

“เห็นแม่ร้องไห้ผมก็รับไม่ได้ ทำไมเราเป็นลูกที่เลวขนาดนี้ ทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง เขาก็ไม่ต่อว่าเรานะ เขาเงียบเรายิ่งรู้สึกผิดที่สุด แม่บอกว่าทำไม่มีเรื่องไม่บอก ครอบครัวสามารถช่วยได้ ทำไมไม่มาปรึกษา”

แพท เผยชีวิตในเรือนจำค่อนข้างแตกต่างจากในหนังโดยสิ้นเชิง นาทีแรกเดินใส่ตรวนเข้าสถานบำบัดกลางฯ ตอนเย็นแล้ว 2 ข้างทางมืดมาก เห็นแต่ตะแกรงมีเสียงเฮจากตึกข้างทางรับผมจนตกใจคืออะไร ค่อยเรียนรู้เป็นตึกนอนเก็บผู้ถูกคุมขังไว้

โดนเพื่อนผู้ต้องขังจับจ้องยังไงเราเป็นนักร้องดังเข้าไป แพท บอกว่า เขาคิดว่ามีนักร้องนักดนตรีเข้ามาเรือนจำน่าจะมีความบันเทิง เขาน่าจะมาหาความบันเทิงจากเรา ตอนนั้นเราไม่พร้อมจะสร้างความบันเทิงให้ใคร แต่เพื่อนมานั่งรอกันเป็นร้อยก็ต้องร้องเพลง เล่นดนตรีเลยวันแรก

มีคนมาชอบไหมในเรือนจำ แพท กล่าวว่า หมายถึงเพศทางเลือกก็มี เขียนใส่กระดาษฝากมาบอกเรา เราก็ฝากเขาไปบอกว่าเราไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้ แต่เป็นเพื่อนกันได้

ตอนศาลตัดสินจำคุก 50 ปีตกใจ นั่งคิดว่าเราจะอยู่ยังไงในเรือนจำให้ได้นั่งทบทวนตัวเอง ต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ ทำให้เป็นคนดีกว่าเดิม พัฒนาตัวเองให้ได้ เราต้องสู้ ครอบครัวให้กำลังใจตลอด ไม่เคยทิ้งเลย ให้ทำตัวให้ดี สู้คดี 7 ปี ใช้เงินน่าจะเยอะ ครอบครัวจ่าย เขาไม่บอกว่าเท่าไหร่

จากนั้นเริ่มเรียนทางไกลเรียนต่อปริญญาตรี เรียนจิตรกรรมของกศน.วาดภาพออกมาสวยมากๆ ดีเจพีเค พิธีกร ขอซื้อไป 1 รูป 10,000 บาท นอกจากนั้นยังแต่งเพลงไว้หลายเพลงช่วงอยู่ในเรือนจำ เนื้อหาความหมายดีมากๆ

ถามว่ากลัวกลับมาครั้งนี้สังคมอาจไม่ให้อภัยไหม แพท เผยว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น คิดว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเมตตาให้อภัย ผมตั้งใจจริงที่จะกลับตัวเป็นคนดี ตั้งใจดีที่จะใช้ชีวิตจากนี้พิสูจน์ จากนี้จะสร้างแต่ความดี สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เชื่อว่าหลายคนได้เห็นแล้ว ความคิดเหล่านั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น

“ตัวอย่างของตัวเองที่เจอมาไม่อยากให้เกิดกับใครหรือครอบครัวใคร ให้ดูผมเป็นบทเรียน เยาวชนควรเชื่อฟังครอบครัวพ่อแม่ เป็นคนที่หวังดีและเป็นห่วงเราที่สุด ใครที่กำลังคิดทำสิ่งไม่ดีไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อยากให้เลิก มันไม่คุ้มค่ากัน อาจคิดว่าจะได้ผลประโยชน์อะไร พลาดไปอยู่ข้างใน ชีวิตจบ ไม่มีเงินจำนวนใดที่จะมาชดเชยชีวิตที่สูญเสียไปในนั้นได้ อยากจะฝากไว้” พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโอกาสสังคม ตั้งใจจะเป็นคนที่ดีกว่าเดิมให้ได้ จะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมเป็นคนดีกว่าเดิมแล้ว เชื่อว่าคนไทยใจดี ยินดีจะให้โอกาสกับผม

ขอบคุณที่มา คุยแซ่บShow

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5677024
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5677024