เอ็มมี่ “ที่โพสต์รูปวันนั้นเป็นการขอบคุณที่ เสกกับกานต์ ให้ตนเองได้เข้ามาดูแล เสือ แต่ผิดตรงที่ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ เสือ ไม่กล้าพูดคำนี้ออกมาเพราะมันทำตัวยากมาก เค้ามีโปรไฟล์ที่ดีอยู่แล้ว อีกอย่างพ่อเค้าเป็นศิลปินแนวหน้าของเมืองไทย เลยรู้สึกกดดัน 

รู้ว่าพ่อกับแม่ของ เสือ เค้ารักลูกมาก เราก็เลยจะรักลูกของเค้าเหมือนกัน ขอบคุณที่เค้ามั่นใจในตัวของเอ็มมี่ พี่กานต์เค้าไลน์มาหาเอ็มมี่ตอนตี 2 ครึ่ง แรกๆ ก็คิดว่ามีอะไร เลยไลน์ไปหา เสือ ว่าไปทำอะไรรึเปล่า แม่ถึงไลน์มาหา

ซึ่ง เสือ บอกว่า ไม่มีอะไรนะ ตนเองเลยโทรไปหา พี่กานต์ เค้าก็บอกว่าอยากให้ลูกชายเค้าโตด้วยตัวเอง อยากให้ทำอะไรเอง และ เสือ เค้าก็อยากเข้าวงการบันเทิง เล่นละคร และพี่เค้าก็บอกว่าอยากให้ เอ็มมี่ เป็นผู้จัดการส่วนตัว”

กานต์ “คืนนั้นก็ทักไปหาบอกว่า เอ็มมี่ช่วยเสือด้วย คือลูกชายอยากจะมุ่งมั่นทำงานในวงการบันเทิง ไม่ใช่เป็นแค่นักร้อง แต่ตนเองกับ เสก อยู่แค่ในวงการเพลง เลยอยากให้ เอ็มมี่ เข้ามาช่วย 

เอ็มมี่ “ซึ่งแรกๆ ตนเองยังไม่กล้าที่จะเซ็นสัญญาเพราะอยากพิสูจน์ตัวเองให้ พี่กานต์ เห็น เลยหางานอีเวนต์ให้ เสือ ก่อน 3-4 งาน จากนั้นก็หางานละครให้ลองไปแคสต์

ปรากฏว่า เสือ ได้งานนั้น จากนั้นก็เลยเอาสัญญาให้ดู สรุปก็ได้เซ็นสัญญาต่อกัน คือช่วงที่ได้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเสือ จริงๆ ก็ดูแลอย่างดีทุกอย่าง ให้เพอร์เฟกต์ก่อนจะพาออกงาน 

เชื่อว่า เสือ ต้องไปได้ไกลแน่นอน คือตอนแรกยังไม่อยากออกมาเปิดตัวว่าอยู่เบื้องหลังของน้อง เพราะอยากให้น้องประสบความสำเร็จก่อน แต่ด้วยความที่แม่เค้าเมตตามาก เลยตัดสินใจโพสต์รูปคู่กับแม่และครอบครัวเค้าเท่านั้นเอง”

เสือ “ตัวผมก็รู้สึกดี เพราะมุ่งมั่นที่อยากเข้าวงการบันเทิงมาสักพักแล้ว ตั้งแต่กลับจากอเมริกา แต่ว่าไม่มีใครที่เสนอตัวผมเข้าไปได้เต็มตัว ที่ผ่านมาผมก็พยายามหาคอนเน็กชั่นใหม่ๆ แต่ว่าไม่ได้จริงจังมาก ก่อนหน้าผมก็รู้จักกันพี่เอ็มมี่มาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว

แต่ก็กลับไปเรียนก่อน ไม่ได้รู้จักแบบสนิทกันมาก พอได้มารู้จักจริงๆ พี่เค้าดูแลดี และพอผมได้เข้ามาทำงาน ก็เป็นอะไรใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้ครับ ดีใจที่เราทำได้ วันข้างหน้าน่าจะมีงานเพิ่มเข้ามาพอสมควร ก็ตื่นเต้นกับโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นครับ

งานที่พี่เค้าหาไม่ได้มั่ว แต่เค้าหางานที่เหมาะกับเราจริงๆ คือที่ผ่านมาในความรู้สึกผม ผมมองว่าเค้าเป็นผู้จัดการที่ดี ทั้งหางานให้ พาไปแคสต์ละคร ดูแล ปรับบุคลิกภาพ เค้าเทคแคร์ดีจริงๆ ทักหาตลอด ทำงานเป็นระบบมากๆ ครับ ส่วนงานเพลงก็ยังทำกับทีมงานของตัวเองอยู่ครับ พี่เอ็มมี่เค้าจะมาช่วยดูแลแค่เรื่องงานแสดง”

เอ็มมี่ “เซ็นสัญญา 3 ปีค่ะ ตอนแรกเซ็นแค่ 2 แต่มาคุยกันใหม่เปลี่ยนเป็น 3 ปี ส่วนเรื่องเงินเราก็แบ่ง 70-30 เหมือนทั่วไปค่ะ แต่ว่าก่อนที่จะเซ็นสัญญากันเราก็ให้น้อง 20 ไปเลยค่ะ แล้วบางงานก็ให้เค้าโอนให้น้องเลย เค้าฟังหมด เค้าไม่ดื้อเลย งานที่เค้าไปแคสต์มาเค้าเป็นพระรองค่ะ ส่วนงานอันใหม่ที่ผู้ใหญ่กำลังจะให้มาเค้าเป็นพระเอกค่ะ”

กานต์ “เราปล่อยเลย จะไม่ยุ่ง ที่ให้เอ็มมี่เข้ามาดูแล เพราะไม่อยากให้ติดภาพ กานต์กับเสก อยากให้ดูผลงานกันมากกว่า เราจะไม่เข้าไปยุ่งเลย”

เอ็มมี่ “ที่ผ่านมาคนอาจมองว่าหนูเป็นแค่ตัวตลกในวงการ ไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง เลยทำให้รู้สึกกดดัน”

เสือ “ที่คนมองว่าเป็นพ่อของลูกในท้องพี่เอมมี่ ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่พอคนเริ่มมาพูด มาบอก ก็เริ่มคิดแล้ว แต่ก็อยากฝากบอกว่า ก่อนที่เราจะมาคอมเมนต์อะไรแบบนี้ ก็ควรคิดก่อนว่ามันจะเป็นจริงได้รึเปล่า คือการที่ผู้หญิงผู้ชายมาทำงานร่วมกัน เป็นแค่พี่น้องก็ได้

อย่าไปคิดอะไรมากกว่านั้นเลย ผมกับพี่เอ็มมี่ก็เป็นพี่น้องกัน ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้มันไม่น่าคิดเลยครับ ที่ผมเครียดคือมีคนรู้จักมาถามว่าข่าวนี้จริงมั้ย เลยทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจ ก็บอกเค้าว่ามันไม่จริง”

กานต์ “เรามองว่าคุณยังไม่รู้จักเค้าเลย ทำไมถึงกล้ามาด่าเค้าได้นยังไง คนเราไม่ได้ดูแค่เฉพาะที่โพสต์ อย่างกานต์ก็ไม่เคยรู้จักเอ็มมี่มา ก็เพิ่งมารู้ตอนนี้ เค้าเป็นคนจริงจังเรื่องงาน เป็นคนที่รับผิดชอบ เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ปกติไม่เคยติดตามข่าวใครเลยนอกจากตัวเอง เค้าก็ดีกับเราค่ะ ส่วนที่มีคนคอนเมนต์ลามไปถึง เสก อันนั้นเพ้อเจ้อ บ้ารึเปล่า(หัวเราะ)”.