ชาวเน็ตชื่นชม พิมรี่พาย ควักเงิน 5 แสน ช่วยเด็กดอยที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า
ล่าสุดเจ้าตัวขอแบ่งปันให้กับสังคม เดินทางไปให้ของขวัญวันเด็กกับเด็กๆ ในหมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ด้วยการนำแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า โทรทัศน์จอยักษ์มาติดตั้งที่ลานหมู่บ้าน ทำแปลงผักเพื่อสอนให้ชาวบ้านปลูกกินและนำไปขาย รวมถึงของใช้ต่างๆ ที่จำเป็น
ข่าวแนะนำ
โดยพิมรี่พายได้โพสต์คลิปโมเมนต์สุดประทับใจ “สุขสันต์วันเด็ก พิมรี่พายจัดใหญ่ให้น้องบนดอยสูง” ลงในยูทูบ พิมรี่พาย ซึ่งในคลิปดังกล่าวพิมรี่พายนั่งรถกว่า 300 กม. จากตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปที่หมู่บ้านแม่เกิบ กว่าจะไปถึงต้องผจญกับถนนหนทางสุดลำบาก
และในหมู่บ้านนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ แม้แต่ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต ทีวี ก็เข้าไปไม่ถึง อีกทั้งคนในหมู่บ้านไม่รู้จักวิธีการปลูกผักขาย เพราะด้วยความที่อยู่ในโลกแคบๆ ถึงเวลา 1 ทุ่มก็เข้านอนหมดแล้ว เพราะไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ
เมื่อมาถึงหมู่บ้าน พิมรี่พายได้ข้อมูลจาก ครูเจตน์ สนธิคุณ คุณครูประจำหมู่บ้าน ที่ต้องดูแลนักเรียนกว่า 40 คน ซึ่งบอกเล่าถึงความยากลำบากของเด็กๆ และคนในหมู่บ้านนี้ไว้ว่า
“เด็กที่นี่ไม่มีความฝัน เพราะว่าเค้ามองภาพอะไรไม่ออกครับ หมู่บ้านเนี้ยครับ ยังไม่มีใครเรียนจบถึง ม.ต้น เลยสักคนครับ เค้านึกจินตนาการไม่ออกว่าถ้าไปเรียนต่อมันจะเป็นยังไงต่อ เนื่องด้วยที่นี่เขาไม่ได้ดูทีวี ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอะไร ที่เราจะสามารถเอามาเผยแพร่ให้เค้าดูได้ เค้าก็อยู่แต่โลกแคบๆ ของเค้าครับ”
จากนั้นพิมรี่พายก็ลองชิมฝีมือการทำอาหารของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งทำ แกงหนูนา มาให้เจ้าตัวได้ทาน ซึ่งมีส่วนผสมแค่ 3 อย่าง คือพริก เกลือ และผงชูรส ซึ่งหนูนาเป็นอาหารชั้นเลิศของที่นี่ ส่วนน้ำพริกของที่นี่มีพริกกับผงชูรส เกลือ แล้วกินกับข้าว ก่อนที่พิมรี่พายจะถามเด็กในหมู่บ้านว่า “หนูเคยกินไข่เจียวมั้ยลูก” คำตอบที่ได้รับคือ “ไข่เจียวไม่เคยกิน”
เมื่อถามครูเจตน์ถึงเรื่องความสะอาดของเด็ก ครูเจตน์บอกว่า “ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผู้หญิงที่จะสะอาดครับ ผู้ชายจะสะอาดเฉพาะเด็กโตครับ ป.3 ลงมายังมอมแมมมากครับ เด็กที่นี่จะอาบน้ำทั้งเสื้อผ้า อาบเสร็จปุ๊บถือว่าซักผ้าในตัว ด้วยจากที่นี่พ่อแม่ไม่มีรายได้ รองเท้าบางทีขาดแล้วก็เอาเชือกมาผูกมามัด ให้มันได้ใส่ไปก่อน”
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2009464
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2009464