เป็นไอดอลของบรรดาชายไทยหัวใจรักเมียทั้งหลาย ที่ชอบโชว์รักเมีย อวยเมีย แอ๊วเมีย ออกสื่อให้คนหมั่นไส้ เอ๊ย ให้คนชื่นชมตลอดๆสำหรับ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ แต่ล่าสุดก่อนปีใหม่เพิ่งเจอคุณเมียสุดสวย เอ๋-พรทิพย์ ทำบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้ โดยเชื้อเชิญคนที่รักและสนิทสนมกับป๋อ มารวมตัวกันในงานปาร์ตี้วันเกิดทำเอา ป๋อ ปลื้มหนักมาก

จนมาเจอ ป๋อ เดินสายมาโปรโมตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร SKJ PRO ที่เจ้าตัวเป็น CEO และพัฒนาผลิตภัณฑ์มากกว่า 2 ปี จึงได้คว้าตัวมาอัปเดตชีวิตช่วงนี้ เริ่มจากงานวันเกิดที่ภรรยาจัดให้นั่นแหละ “ปกติผมไม่ค่อยจัดงานอะไร วันเกิดก็กินกันในครอบครัว ไปทำบุญกัน แต่เอ๋เค้ารู้สึกว่าผมสมควรที่จะได้รับการจัดงานใหญ่ๆ แบบนี้บ้าง ผมมีเพื่อนเยอะทำไมไม่ชวนมา คือจริงๆคือผมขี้เกรงใจ ก็ต้องขอบคุณเอ๋นะ เพราะมันเปิดโลกผมมากเลย ทำให้เพื่อนๆมาเจอกัน เพื่อนๆที่เพชรบุรี ตอนเรียนที่อังกฤษ ที่ ม.รังสิต มากัน จนเหมือนมางานเลี้ยงรุ่น กลายเป็นงานที่ไม่มีใครสนใจใคร สนุกกันเอง ดาราศิลปินเยอะมาก 15 คน ก็งงเอ๋ไปเอามาได้ยังไง ซี-ศิวัฒน์, สิงโต ฯลฯ ไม่ได้เมียผมทำไม่ได้ ผมเกรงใจ คิดเยอะ ดีแล้วที่เราเป็นคู่ชีวิตกันเพราะเค้าทำในสิ่งที่เราทำไม่ได้”

คนมองว่าเราเป็นไอดอลคนรักเมีย?

“ผมมองว่าสถาบันครอบครัวสำคัญ ด้วยความที่ผมมีลูกด้วย เลยรู้สึกว่าเด็กจะเติบโตเป็นต้นไม้ต้องมีดินที่ดี มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ที่ทะเลาะกันหรือหย่าร้างไม่ดี ทุกคนมีปัญหาของตัวเอง ถ้าเราทำสิ่งที่ทำได้ เช่น แอ๊วเมีย จีบเมียบ่อยๆเพื่อเหมือนเติมน้ำหวาน เติมชีวิตรัก มันไม่ใช่หน้าที่แต่เป็นสิ่งที่ผมต้องทำ ผมแค่มาเล่าให้ทุกคนฟังว่าผมจีบเมียอีกแล้ว วันนี้สวยจัง บางทีเค้าก็รำคาญ แต่ผมเชื่อว่าเค้าก็ดีใจที่คบกันมาสิบกว่าปีก็ยังชมกันอยู่ และผมก็บอกเค้าว่าผมจะชมเค้าไปยัน 50 60 จีบเค้าไปอย่างนี้เรื่อยๆ และอยากจะเล่าให้คุณผู้ชายฟัง แต่ต้องบอกว่าเพื่อนๆผู้ชายผมก็เกลียดขี้หน้าไปหลายคน (หัวเราะ) อยากบอกว่าคุณผู้ชายรักเมียเถอะครับ เราไม่ได้กลัว แต่เรารักเคารพเค้าว่าเค้าเป็นชีวิตคู่ของเรา ไม่มีเค้าเราก็เป็นคนที่ดีแบบนี้ไม่ได้”

แล้วพูดชมเมียแค่ปาก หรือว่าเรามองว่าสวยจริงๆ?

“สวยจริงๆครับ ต้องบอกว่าผมมีสายตาคมกริบตั้งแต่เลือก ผมมองแล้วว่าเอ๋เนี่ย ต้องเป็นทรง ฮันนี่-ภัสสร ตุ๊ก-ดวงตา ระดับอาจิ๋ม-มยุรฉัตร อายุเยอะก็สวยอยู่ ถ้าให้บรรยายความสวยของเมีย เค้ามีดวงตาที่ทรงพลัง เวลาอ่อนโยนก็อ่อนโยนมาก แต่เวลาแข็งกร้าวเค้าก็ดุดื้อรั้นไม่ยอมใคร ปากที่อวบอิ่มที่เสน่ห์บางอย่างที่ผู้ชายมองหา ผู้ชายจะชอบผู้หญิงมีลักษณะรูปหน้าแบบนี้ มีจิตรกรเคยวาดรูปนางในวรรณคดีเป็นเอ๋ คือสวยมาก ผมชอบผู้หญิงตาโตแต่ไม่ผอมเกินไป มีทรวดทรง และที่สำคัญเอ๋เค้าเป็นคนรักพ่อแม่มาก ผมชอบตรงนี้ เลยคิดว่าถ้ามีลูกเค้าคงรักลูกมาก หลังๆเค้าทุ่มเทให้ลูกไม่ค่อยรักผม(หัวเราะ)”

แต่งงานมากี่ปีแล้ว?

“น่าจะ 8 ปีแล้ว”

เคยมีช่วงเหม็นหน้าหรือหัวเลี้ยว หัวต่อมั้ย?

“เคยมีที่คิดว่าวันนึงหย่าแน่ ตอนนั้นมีลูกแล้วด้วย ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวง จนมามีช่วงนั้นรู้สึกว่าพูดอะไรก็ไม่เข้าหูกันทั้งคู่ ไม่ค่อยอยากคุย คุยกันก็ไปทางลบแบบไม่มีสาเหตุ คือผมคบเค้ามา 8 ปี แล้วแต่งงานสัก 4 ปี เข้าปีที่ 11-12 มันเริ่มมีอารมณ์เบื่อ เค้าเริ่มทนเราไม่ไหว เคยทนได้แต่วันนึงเค้าทนเราไม่ได้ เราเองก็ไม่เข้าใจ เราเคยไปหาพระท่านบอกว่าไปเซ็นใบหย่ากันเลย แล้วค่อยกลับมาแต่งกันใหม่ เราก็ไปพร้อมกันเลย มันเหมือนไปกันไม่รอดแต่ก็ไม่อยากจบแบบนี้ วินาทีที่เราจะเซ็นใบหย่า ผมสะอึกเลยนะ แม้มันจะเป็นการหย่าปลอมๆ แต่มันคิดว่าถ้าเกิดอีก 5 เดือนมันไม่เหมือนเดิมล่ะ เราจะขาดกันแล้วนะ ถ้าเค้าไปจริงๆล่ะ นั่งคิดๆไปคิดมา เข้าไปเซ็นต่อหน้าหัวหน้าเขตเลย กลับมาบ้านก็มาพูดกันว่า ระหว่างที่เซ็นพี่คิดอะไร แต่โชคดีว่าเราก็กลับมาเซ็นเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ว่าจะดีกันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรากลัว และทำให้ผมคิดได้ว่าการทะเลาะมันทะเลาะกันได้ แต่การหย่าร้างคือเรื่องใหญ่ และคือความล้มเหลวของครอบครัวและมันจะส่งผลกระทบกับลูก ซึ่งผมไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น ผมก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อะไรที่จู้จี้มากเราต้องลดลง อะไรหงุดหงิดก็มองไปทางอื่น อะไรที่เราอยากพูดให้เค้าเจ็บปวดก็ไม่พูด เป็นการประคับประคองกัน สุดท้ายก็มาคุยกันว่าเราต้องช่วยกัน ลูกสองคนแล้ว ผมก็ไม่ได้แก้ทั้งหมดนะ ทุกวันนี้เราก็มีงอนบ้างทะเลาะกันบ้าง แต่สิ่งที่คิดเสมอคือถ้าเปลี่ยนเค้าไม่ได้เราต้องเปลี่ยนตัวเอง เรานั่งเรือกันมาลำเดียวกันแล้ว เราไม่ยอมให้มันแตกง่ายๆ เมื่อผ่านจุดนั้นมาเราก็ฉุกคิดว่าจะไม่เอาตัวเองไปอยู่จุดนั้นแล้ว เรามาไกลแล้ว”.