แน่นอนว่าความสำเร็จในอัลบั้มนี้ ทำให้ยอดขายเทปทะลุล้านตลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทาทาจะทำอัลบั้มพิเศษ “Tata 1,000,000 Copies Celebration” และมีเพลงใหม่ “ฉันรักเธอ” เพื่อขอบคุณแฟนเพลง ซึ่งอัลบั้มนี้ยอดขายทะลุล้านตลับอีกเช่นกัน กลายเป็นนักร้องอายุน้อยที่สุดที่มียอดขายอัลบั้มเพลงทะลุล้านตลับ 2 อัลบั้มติดต่อกันในเวลานั้น และได้ฉายา “สาวน้อยมหัศจรรย์”

หลังจากนั้นในปี 2540 ทาทาออกอัลบั้มชุดที่ 2 Amazing Tata ชุด กระเป๋ามหัศจรรย์ มีเพลงดังๆ อาทิ ซักกะนิด, ขอถามสักหน่อย, รักเธอได้ไหม แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มแรก แต่ก็ยังคงมีแฟนเพลงติดตามอย่างเหนียวแน่น

อีกทั้งความสำเร็จในวงการเพลงของทาทาทำให้ได้รับโอกาสดีๆ มากมาย ทั้งในด้านผลงานภาพยนตร์ “จักรยานสีแดง” และ “โอ-เนกาทีฟ รักออกแบบไม่ได้” รวมถึงการร้องเพลงในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นตัวแทนประเทศไทยแสดงคอนเสิร์ตคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองการส่งมอบเกาะฮ่องกงคืน ฯลฯ

โกอินเตอร์ระดับเอเชีย

หลังจากนั้นในปี 2543 ทาทาไม่ต่อสัญญากับค่ายแกรมมี่ จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว แต่ทาทาก็ยังคงเดินหน้าหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ด้วยการเซ็นสัญญาเป็นนางแบบในสังกัดแบรนด์สินค้าดังอย่าง Chanel

รวมทั้งเซ็นสัญญากับค่ายเพลงบีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ 4 ปี ก่อนจะออกอัลบั้มชุดแรกภายใต้สังกัดใหม่ในชื่อ Tata Young ที่มีเพลงฮิต อาทิ ช็อต, อา-โบ-เด-เบ, เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม, หวานใจ ฯลฯ แค่เปิดตัวเพลงแรก “ช็อต” ก็สร้างกระแสฮือฮาด้วยมิวสิกวิดีโอสุดล้ำ ที่ดูแปลกมากในยุคนั้น

ก่อนจะออกอัลบั้มชุดที่ 2 Real TT ที่มีเพลงเปิดตัว “ซูเปอร์แฟน (Super Man)” รวมไปถึงเพลง “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน” ที่กลายเป็นเพลงดังมากของอัลบั้ม เพราะเนื้อหาเพลงที่ค่อนข้างแรงในเวลานั้น แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเพลงที่แฟนๆ ยังคิดถึงและฟังอยู่เสมอ บางครั้งเข้ากับสถานการณ์ในชีวิตจริงของตัวเอง

และความฝันโกอินเตอร์ที่นักร้องสาววาดหวังไว้ก็กลายเป็นจริง เมื่อทาทากลายเป็นศิลปินไทยคนแรกที่เซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบีย ในสังกัดของโซนี่ มิวสิก ในปี 2547 พร้อมทั้งออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรก I Believe วางขายในหลายประเทศในเอเชีย อาทิ ไทย, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินเดีย

มีเพลงดัง อาทิ Sexy, Naughty, Bitchy , I Believe, Cinderella ฯลฯ ซึ่งประสบความสำเร็จในด้านยอดขายทั่วเอเชียกว่า 1.2 ล้านชุด

หลังจากนั้นปี 2548 ทาทาออกอัลบั้มเพลงภาษาไทยอีกครั้งในชื่อชุด Dangerous Tata ก่อนจะออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 2 Temperature Rising ในปี 2549 ซึ่งมีนักแต่งเพลงชื่อดังมาร่วมแต่งเพลงมากมาย อาทิ ไดแอน วาเรน, พอล แม็กคาร์ตนีย์, นาตาชา เบดิงฟิลด์

ก่อนจะออกอัลบั้มภาษาไทย “One Love” ในปี 2551 และอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 3 Ready For Love ในปี 2552 ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดล่าสุดของเธอ และจากความสำเร็จในวงการเพลง ทาทาเป็นนักร้องหญิงที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยกว่า 800 ล้านบาท และมียอดจำหน่ายอัลบั้มแล้วกว่า 14 ล้านชุด

ฝ่ามรสุมป่วยโรครุมเร้า

แม้เรื่องงานเพลงกำลังไปได้ไกลถึงขั้นโกอินเตอร์ แต่ความฝันของทาทากลับต้องสะดุดลง เพราะต้องเผชิญมรสุมชีวิตคืออาการป่วยโรคไทรอยด์ชนิดอ้วน (Hypothyroid) หรือภาวะต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนออกมาน้อย

ทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ต่อมใต้สมองจึงสร้างฮอร์โมน Thyroid stimulating hormone เพื่อกระตุ้นต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น ต่อมไทรอยด์จึงมีขนาดโตขึ้น

โดยทาทาเริ่มมีอาการป่วยมาตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งอาการเริ่มแรกคือมีอาการเพลียอย่างไม่มีสาเหตุ เหนื่อย ทานน้อยก็อ้วน ไม่ทานก็อ้วน โดยมีอาการเหล่านี้มานานกว่า 3 เดือน ทาทาจึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอ และได้คำแนะนำในการดูแลตัวเองทั้งในเรื่องอารมณ์ต่างๆ อาหารการกิน ฯลฯ

และในปี 2556 ทาทาป่วยโรครุม 3-4 โรค เพราะอาหารเป็นพิษและแพ้ยาจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ภูมิต้านทานต่ำ เป็นกล่องเสียงอักเสบขั้นรุนแรง จนทำให้เจ้าตัวจิตตกมาแล้ว

นอกจากนี้ในปี 2557 ทาทายอมจ่ายเงินกว่าครึ่งล้านไปกับการฉีดเฟรชเซลล์ เพื่อรักษาอาการป่วยจากการใช้ยารักษาโรคไทรอยด์ และทำให้กลับมาเป็นสาวสวยหุ่นเป๊ะขึ้น ซึ่งทาทาเปิดเผยว่าจากการรักษาดังกล่าวและดูแลตัวเองทำให้น้ำหนักลดไปถึง 15 กก. กลายเป็นที่ฮือฮาไม่น้อยในเวลานั้น

และล่าสุดเมื่อต้นปีปี 2563 ที่ผ่านมา ทาทาก็ต้องเผชิญกับอาการป่วยรุมเร้าอีกครั้ง เป็นทั้งไซนัสอักเสบ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ รวมทั้งผ่าตัดเท้าข้างขวาเพราะหัวแม่เท้าเอียงผิดปกติ

แต่ถึงแม้จะต้องเผชิญกับอาการป่วยแค่ไหน ทาทาก็ยังพร้อมที่จะมอบความสุขให้กับแฟนๆ ของเธอผ่านทางเสียงเพลงอยู่เสมอ ดังจะเห็นได้จากคอนเสิร์ตต่างๆ ในช่วงหลัง รวมถึงซิงเกิลเพลงประกอบละครและซีรีส์ต่างๆ

รักที่ไม่สมหวังของสาวมั่น

แม้จะเคยประสบความสำเร็จเรื่องงานเพลงจนสามารถก้าวสู่ระดับเอเชียมาแล้ว แต่เรื่องความรักกลับไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร โดยแรกเริ่มเข้าวงการ ทาทาเคยตกเป็นข่าวกับ ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช หลังฝ่ายชายเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงพรุ่งนี้…ไม่สาย รวมถึง เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ นักร้องหนุ่มรุ่นพี่ค่ายอาร์เอสในเวลานั้น แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ

จากนั้นทาทาในวัย 17 ปี ก็มีข่าวคบกับ หมอ ฉัตรอดุลย์ สีนะพงษ์พิพิธ ก่อนที่จะลดความสัมพันธ์เหลือแค่พี่น้อง และเคยคบกับไฮโซหนุ่มตี๋ ปิ๊ก ศรัณย์ วิชยาภัย แต่ก็เลิกรากันไป

ก่อนจะพักหัวใจไปพักใหญ่และเปิดใจคบกับ อั๋น โอลิเวอร์ พูพาร์ท ได้พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็เลิกราไปอีก ก่อนจะมีข่าวกับ เอ็ม อภินันท์ รวมไปถึง หวังลี่หง นักร้องหนุ่มชาวไต้หวัน แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวโปรโมตผลงานมากกว่า

แต่ที่กลายเป็นกระแสร้อนคือตอนที่ทาทาคบกับ บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสหนุ่มสุดออต แต่พอมีข่าวคบกันไม่ทันไรก็มีกระแสแอนตี้จากแฟนคลับฝ่ายชายที่หาว่าตั้งแต่คบกับทาทาทำให้ฝีมือการเล่นเทนนิสไม่ดีเหมือนก่อน แถมยังมีข่าวเม้าท์แม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม ก่อนจะเลิกรากันไป

และกลายเป็นประเด็นร้อนฮือฮาอีกครั้งเมื่อทาทาคบกับเปรม บุษราคัมวงษ์ ทายาทค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ พอคบกันได้ 2 ปี เปรมก็ขอหมั้นพร้อมทั้งสินสอดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทเมื่อ 11 พ.ย. 2550 แต่สุดท้ายรักนี้ก็ต้องจบลงในปี 2551

แม้จะเพิ่งผ่านความช้ำใจมาได้ไม่นาน ทาทาก็กลับมาหัวใจสีชมพูอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวกลับมาคบกับ หมอ ฉัตรอดุลย์ อีกครั้ง แต่แล้วในปี 2553 ฝ่ายชายย้ายไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต จึงต้องลดความสัมพันธ์อีกครั้ง

ทำให้ทาทาเฮิร์ตหนักจนน้ำหนักลดไป 10 กก. แต่หลังจากนั้นทาทาก็คบกับ ยูเค หนุ่มชาวญี่ปุ่น ก่อนจะเลิกราและคบกับวิกเตอร์ แฟนหนุ่มชาวโรมาเนีย สุดท้ายก็เลิกราไปอีก

จากนั้นทาทารีเทิร์นหัวใจกลับมาคบกับหมอ ฉัตรอดุลย์ อีกครั้ง จนตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์เมื่อ 22 ก.ค. 2557 ที่ จ.ภูเก็ต ชีวิตคู่เหมือนจะไปได้ดี เผยความหวานให้ได้เห็นมาตลอด แถมยังมีน้องเร ลูกชาย เป็นโซ่ทองคล้องใจของทั้งคู่

แต่แล้วก็มีข่าวลือช่วงกลางปี 2563 ทาทา-หมอ เลิกรากันแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมาย

จนกระทั่ง 23 ธ.ค. 2563 ทาทาก็ได้ออกมายอมรับว่าเลิกรากับหมอแล้วจริงๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงสาเหตุที่เลิกรา ปิดฉากชีวิตคู่ยาวนาน 6 ปี แม้จะไม่ใช่ผู้หญิงที่ลักกี้อินเลิฟ แต่ทาทาก็ยังคงเป็นสาวมั่นและคุณแม่สุดสตรองของลูกชายสุดรักอย่างน้องเรอยู่เสมอ.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ : นสพ.ไทยรัฐ, อินเทอร์เน็ต
กราฟิก : Theerapong Chaiyatep