"จิ๊บ" ไม่รอแล้วควง "จ๊ะจ๋า" วิวาห์ฝ่าโควิด วางแผนใหม่ปรับรูปแบบนิวนอร์มอล


ให้คะแนน


แชร์

“ปีนี้แต่งแน่ครับ อยากให้เป็นตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้เราก็คุยรายละเอียดตกผลึกกันมาเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะเป็นงานลักษณะที่ต้องเรียนว่าปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ จริงๆจากครั้งแรกที่คุยกันไว้ตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องของโรคระบาดโควิด เราก็คุยกันไว้ในรูปแบบหนึ่ง สเกลหนึ่ง ทีนี้พอมันเกิดความห่วงกังวลในสถานการณ์ที่ไม่หายไม่จบสักที ผมก็เลยคุยกับคุณจ๊ะจ๋าว่าขอไปต่อเถอะ ไม่รอแล้วนะ ไม่อย่างนั้นก็ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์สักทีก็คงเป็นการปรับรูปแบบให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเราถือความสบายใจและความรับผิดชอบต่อสังคมต่อคนรอบข้างเป็นหลัก ว่าจะไม่ให้มีใครต้องมากังวลเรื่องการมาร่วมงานว่าเดี๋ยวจะติดเชื้อกันมั้ย จะมีโอกาสเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่า ตรงนี้ก็คงจะต้องให้เป็นรูปแบบที่ปลอดภัยที่สุด เพราะว่าแขกที่คุยกันไว้แต่แรกก็มากมายหลายกลุ่ม มีทั้งรุ่นผู้ใหญ่ บางทีถ้าเราจะไปกราบเรียนเชิญมาตอนนี้ ต้องคิดถึงครอบครัวจิตใจเค้าด้วย ถ้าเกิดไปเชิญแล้ว ไม่มาเดี๋ยวจะเกรงใจกัน เลยจะเป็นในเรื่องของความค่อยเป็นค่อยไปก่อน จัดเป็นภายในกันก่อน แล้วก็จะขยายความต่อๆกันไป แต่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ได้จัดครั้งเดียวแน่ๆ”

ข่าวแนะนำ

เรื่องวันเวลา?

“เรื่องวันเวลาเดี๋ยวบอกปุ๊บรู้เลย น่าจะไม่นานหลังจากนี้”

ต้องจำกัดคนมากขนาดไหน?

“คืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีครอบครัวของเราแน่ๆ แล้วอาจจะมีผู้ใหญ่บางท่านซึ่งเราเคารพนับถือ แต่เรื่องของการเรียนเชิญมางานหรือไม่อย่างไร หรือเราจะไปกราบขอพร ท่านผู้ใหญ่เหล่านั้นในที่ทางของท่านเองก็กำลังทำแผนกันอยู่”

ความพร้อมตอนนี้พร้อมแค่ไหนหรือยังกังวลอะไร?

“พร้อมมานานแล้วครับ ไม่มีอะไรกังวลเลย กังวลอย่างเดียวคือเรื่องของสถานการณ์ เรื่องรูปแบบวิธีการต่างๆ พร้อมเมื่อไหร่จะเรียนให้ทราบแน่นอน”

ค่ามัดจำโรงแรมที่จ่ายไปก่อนหน้านี้?

“ก็ยอมเสียครับ เสียแล้วเสียเลย แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ทุกคนทุกฝ่ายยอมรับ เราก็ไม่ต้องการให้ใครมารู้สึกว่าชักเข้าชักออก อะไรที่มีกฎเกณฑ์อยู่เราก็เคารพแล้วก็ปฏิบัติตาม สมมติเกิน 3 หรือ 6 เดือนจะโดนยึดมัดจำไปเลย เราก็เต็มใจให้ เหมือนช่วยกันด้วยในเวลาที่ยากลำบากช่วงนี้ ก็จ่ายไปแล้วเป็นหลักแสน”

เครียดมั้ย?

“คงมีคนที่เครียดกว่าผมและคุณจ๊ะจ๋าอีกเยอะ เพราะตอนนี้ภาพรวมของเศรษฐกิจทุกฝ่ายโดนกันหมด ในส่วนของเราบังเอิญเป็นงานมงคล ซึ่งควรจะมีบรรยากาศรื่นเริง แล้วมาโดนจังหวะนี้พอดี ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ จริงๆมันมีช่วงจังหวะนิดหนึ่งที่จัดงานได้ ประมาณ 5-6 เดือนในปีที่แล้ว หลายๆท่านก็ได้จัดกันไป เราก็คิดว่าน่าจะโอเคแล้ว แต่พอจะลงตัวก็กลับมาอีกรอบ เพราะตอนแรกจะจัดช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราก็เลยต้องปรับเปลี่ยน ผมยึดถือความรับผิดชอบต่อสังคมมาเป็นอันดับหนึ่ง”

แต่งแล้วมีทายาทเลยมั้ย?

“คงต้องเป็นเรื่องที่คุยกันอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่ตอนนี้โลกก็อยู่ไม่ง่ายนะ ขอให้วางแผนไปทีละขั้นตอน บางทีไปวางแผนอะไรล่วงหน้ามากๆเป็นเรื่องที่เครียดกดดันตัวเองด้วย อยากให้ขึ้นอยู่กับหลักที่ผมและคุณจ๊ะจ๋าพูดอยู่เสมอ คือหนึ่งมีความสุข สองสบายใจ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2021049
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2021049