สวยมงลงขนาดนี้เลยต้องจีบสาวบิ๊นท์ขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” มาพร้อมแฟชั่นสวยๆ เก๋ๆ จากแบรนด์ milin@milin_brand เมกอัป อาร์ติสต์ : จอย-ฐรัศมิ์ โพธา @J_Tharas แฮร์ สไตลิสต์ : เก้-ธงชัย สุริยวรรณ @mataharee เนรมิตความหวานซ่อนเปรี้ยว ดูแปลกตา มาพร้อม “อินเนอร์” นางแบบเกินร้อย พร้อมโพสท่าคล่องแคล้วไม่มีความเคอะเขิน ให้ช่างภาพ เป็ด-สุรกิจ แก้วมรกต ลั่นชัตเตอร์ เก็บภาพสวยๆมาฝากแฟนๆ ฟินแบบจุกๆ

“ถ่ายแฟชั่นวันนี้สนุกดีค่ะ มีความเซ็กซี่เล็กๆรับรองไม่เคยเห็นจากบิ๊นท์แน่นอน ปกติลุคหวานๆ ใสๆ ซนๆ วันนี้มีความเปรี้ยวเป็นเล็กน้อย ส่วนเรื่องท่าโพสก็จัดเต็ม ต้องนิดนึง (หัวเราะ) เดี๋ยวแฟนคลับนางงามเครียด โอ๊ย เป็นนางงามตั้งกี่ปี โพสไม่ได้ได้ยังไง คือปกติชอบโพสถ่ายรูปแต่ชอบแนวสตรีทลุยๆ เท่ๆมากกว่า แต่พอเป็นนางงามก็จะเป็นลุคหวานๆทำให้เราได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ปกติเป็นเด็กเหมือนผู้ชายซนๆ พอเป็นนางงามสอนความเป็นผู้หญิง สอนถึงการวางตัวซึ่งมันดีนะคะทำให้เราเข้าสังคมได้ดีขึ้น” 

ชิมลางแฟชั่นแนวเซ็กซี่ก็ได้อยู่นะ “บอกเลยขนลุก (หัวเราะ) เอาจริงๆให้เอาดี ทางสายเซ็กซี่ยากมากเพราะบิ๊นท์รู้เป็นคนยังไง เซ็กซี่จือปากยังยาก เซ็กซี่บางทีอยู่ที่อินเนอร์นะ อินเนอร์เราชอบทำงาน ลุยๆ ซนๆ”

เชื่อว่าซนจริงเพราะแฟชั่นครั้งนี้ชุดที่ใส่บิ๊นท์ทำซิปแตกด้วย สาวบิ๊นท์รีบปฏิเสธ ไม่จริ๊งไม่จริง ซิปแตกเอง ตั้งแต่ยังไม่ทันรูดซิปซะหน่อย เป็นแฟชั่น 3 เซต 3 ลุค แต่มีความเป็นมืออาชีพทำให้ทำงานผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเอ่ยปากชม “ดีอยู่” เล่นเอาบิ๊นท์บอกไม่ได้ๆ เพราะภาษาของชาวสาวสอง “ดีอยู่” แปลว่า “ไม่ดี” นะจ๊ะ อันนี้ไม่เอาไม่พูด…เลยได้แต่ร้องอ้าว…ววววว ยาวๆ ต้องแก้คำใหม่ “เวรี่ กู้ด” แทน

ส่วนละครซิทคอมเรื่องแรกของสาวบิ๊นท์ รับบทเป็นแม่หญิงพิกุล หลังละครออน ไปปุ๊บมีกระแสมาปั๊บว่าเล่นเป็นตัวเอง เอาตัวเองมาเล่นหรือเปล่าเนี่ย!! “บิ๊นท์โชคดีที่ได้บทใกล้เคียงกับตัวเอง แต่ก็ต้องมีปรับนิดหน่อยแต่น้อยมาก เพราะพิกุลเป็นลูกคุณหลวง ต่อให้กระโดกกระเดกยังไงก็ยังมีมุมเรียบร้อย ร้อยมาลัย มีความเป็นแม่หญิงแต่ล้ำสมัย กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ และเรื่องนี้บิ๊นท์ได้ทำอะไรใหม่ๆเยอะมาก อยากเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้เป็น อยากเรียนมวยก็ได้เรียน มีท่าฤาษีบดยาเอาศอกเฉาะหัวพี่เอ๋ เชิญยิ้ม ด้วย พออนุญาต พี่เอ๋บอกเอาเลยๆใส่เต็มแรงได้เลย กับพี่ๆนักแสดง ไม่ว่าจะ เป็นพี่สุ่ย-พรนภา, พี่ปุยฝ้าย-ณัฏฐพัชร์, พี่จอย ชวนชื่น ด้วยความเป็นผู้หญิงเลยคุยกันง่าย สนิทกันเร็วมาก พี่เอ๋ เชิญยิ้ม, พี่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ด้วยความเป็นรุ่นพี่แรกๆ เกร็งค่ะ เพราะกลัวว่าเราทำพังหรือเปล่า แต่อยู่ด้วยกัน พอสนิทกันก็กล้าเล่นกันมากขึ้น รับมุกทันบ้างไม่ทันบ้าง บิ๊นท์จะโดนแซวเรื่องจังหวะมุกบ้าง”

ปล่อยมุกแบบไม่ห่วงสวย ทำให้แทบไม่เหลือภาพ “นางงาม” ยืนสวยๆสง่าๆให้ เห็น ซึ่งเจ้าตัวยอมรับมันเป็นอย่างนั้น จริงๆ “ใช่ค่ะ ความเป็นนางงามจะใกล้ความเป็นเภสัชมากกว่า แต่การแสดงใกล้บิ๊นท์ตัวจริงใช้ชีวิตกับครอบครัวกับเพื่อนมากกว่าถามว่า ตอนนี้บิ๊นท์ติดใจการแสดงมั้ย ยอมรับ ติดใจนะ ชอบมาก เป็นศาสตร์ใหม่ เพราะบิ๊นท์เป็นคนชอบเรียนรู้ ถ้าเกิดสนใจจะเรียนให้สุด พอเราได้เรียน หลังจาก ซิทคอมออกอากาศฟีดแบ็กตอนแรกดีมากๆ คนรอบข้างบอกตลกมาก เหนือความคาดหวัง ทำให้เราแฮปปี้มาก แน่นอนมีทั้งคำชมและติเพื่อก่อก็มี หนูชอบ เราต้องพัฒนาต่อไป”

โดนแซวความนางงามเยอะมั้ย “เยอะค่ะ ตอนแรกคิดเยอะนะ เป็นนางงามแล้วมาเล่นละครซิทคอมจะแตกต่างกันเกินไปมั้ย เราประเมินชีวิตเรามีจุดมุ่งหมายหลายอย่างหนึ่งในนั้นคือการแสดง สองสิ่งนี้คือตัวบิ๊นท์ทั้งคู่ การเป็นนางงามบิ๊นท์ใช้ความจริงจัง อีกหมวดมีความเป็นนักแสดงเหมือนในซิทคอม โก๊ะบ้าง เป็นคนง่ายๆ บิ๊นท์โชคดีการเป็นนางงามคนไม่ติดภาพความสวยเป๊ะ ตั้งแต่การเป็นนางงาม เค้าเห็นภาพโก๊ะ ภาพหลุด หรือหน้าสดอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกมันฉีกไปหน่อย ตอนประกวดมีอะไรบิ๊นท์คาดไม่ถึงตลอดค่ะ”

เพิ่งเข้าวงการบันเทิงไม่นานแต่บิ๊นท์เก็บหอมรอมริบ จากน้ำพักน้ำแรง ด้วยการซื้อ “บ้าน” หลังงามเป็นของขวัญใหญ่ที่สุดในชีวิตให้พ่อแม่ สาวบิ๊นท์ เล่าว่า “ตอนแรกยังไม่คิดซื้อค่ะ อยู่ดีๆ กิจกรรมวันอาทิตย์ของพวกเราคือการทัวร์หมู่บ้าน ต่างๆ ที่นี่สวย เราเลยรู้สึกถึงเวลาเราจะต้องหาซื้อบ้านให้ป๊ากับแม่แล้วล่ะ แต่เค้าไม่ได้พูด แต่เค้าเริ่มมีความสุขในการดูเราก็รู้แล้ว เรามีเงินก้อนนึง ก็ซื้อช่วงโควิดแถวๆบ้านที่อยู่บ้านเดิม ย่านรามอินทรา ติดตลาดจะมี ความวุ่นวายนิดนึง เราอยากอยู่บ้าน ที่สงบๆ แล้วบ้านที่ซื้อก็เลยตอบโจทย์ ป๊าแม่ทำงานเสร็จกลับบ้าน มามีสวนสบายๆ รดน้ำต้นไม้ บิ๊นท์บอกป๊ากับแม่ว่าซื้อมั้ย? บิ๊นท์ว่าไหวนะ คุยกันๆ โอเคตกลงซื้อ เพราะดูด้วยกันมาเยอะแล้ว ก็ถือว่าของขวัญชิ้นใหญ่ สำหรับบิ๊นท์ เราอยากเติบให้ครอบครัวก่อน จริงๆ เป็นคนประหยัดมากๆ แบรนด์เนมตัดทิ้งไปเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำพรุ่งนี้จะเป็นยังไง เราจะไปก่อนหรือเปล่าไม่รู้ อะไรที่เราทำได้ก็อยากทำ”

ดวงงานกำลังรุ่ง แต่ความรักกับแฟนหนุ่ม นอกวงการกลับไปไม่ถึงดวงดาว เศร้าเสียใจแต่ต้อง “มูฟออน” ไวมีชัยไปกว่าครึ่ง สาวบิ๊นท์เล่าว่า “พี่ถามว่าเป็นเพราะบิ๊นท์ดังหรือเปล่าเลยทำให้เลิกกัน จะพูดว่าเป็นเหตุผลแบบนั้นก็ได้ค่ะเพราะเริ่มมีชื่อเสียง เวลาก็เริ่มน้อยลงเลยกลายเป็นว่าเค้าเริ่มทนไม่ไหว ไม่ได้โทษว่าเค้าผิดแต่ว่าคนเราไม่ เหมือนกัน เมื่อก่อนเราทำงานบริษัทยาค่อนข้างมีเวลาเยอะ เลิกงานหกโมงมีเวลากินข้าว พอเป็นนางงามได้ตำแหน่งมาใหม่ๆ ได้ทำงานทั้งวันจนไม่ได้แตะมือถือเลย เค้าเริ่มไม่เข้าใจ เว่อร์หรือเปล่า? ทำงาน จนไม่มี เวลาแตะมือถือแป๊บเดียวไม่ได้เลยเหรอ จากจุดเล็กๆตรงนั้น เรื่อยๆผ่านมา 3-4 เดือนให้หลังที่ได้รับมง เราพยายามยื้อนะ สุดท้ายเราเลิกยื้อไปเอง วันที่บอกเลิก ชัดเจนมันไม่เสียใจแล้ว มันร้องไห้ระหว่างทางเยอะแล้วคงต้องปล่อยไป เพราะคงไม่ใช่เนื้อคู่ คิดแบบนี้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันเพราะยังทำธุรกิจร่วมกันอยู่ค่ะ”

ส่วนสถานะหัวใจตอนนี้สาวบิ๊นท์ลั่นโสดสนิทจริงๆ แต่ยอมรับมีคนเข้ามาคุย เข้ามาจีบบ้างไรบ้างตามประสานคนสวย เสน่ห์แรง “พอเราโตจุดโฟกัสเป็นงานทำโน่น ทำนี่ โฟกัสเลยไม่ใช่เรื่องความรัก เน้นคุยไปเรื่อยๆไม่ได้ไขว่คว้า ไม่ได้เป็นคนรีบขนาดนั้น ถ้ามาแล้วใช่โดน ก็คบกันไปค่ะ ถามว่าเคยดูดวงเนื้อคู่ ไม่ค่อยค่ะ ก่อนหน้าที่เค้าทำนายเค้าบอกว่าเนื้อคู่บิ๊นท์น่าจะต่างชาติหรือลูกครึ่ง อาจจะไม่ได้เจอตอนอายุน้อยๆ ทำงานสักพักก็ดี ระยะเวลาเหมาะสม แต่ตอนนี้คนที่เข้ามาคุยก็คุยเป็นเพื่อน เพิ่งเริ่มเลยไม่รู้ตอบอะไรค่ะ”.

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต