ล่าสุด เจนนี่ ได้เปิดใจผ่าน nineentertain ว่า ก่อนหน้านี้คอนเสิร์ตเต็มทุกวัน แต่พอโควิดกลับมาระบาดอีกระลอก ก็ทำให้เจ้าภาพเลื่อนไปไม่มีกำหนด ทำใจที่รายได้หายไปหลักล้าน ทำยังไงก็ได้ให้คนในค่ายอยู่ได้ แต่ตนเองนั้นมีเงินเก็บไว้บางส่วนอยู่แล้ว แต่ยังมีนักดนตรี แดนเซอร์ ที่เขามีครอบครัวต้องดูแล ก็เลยต้องหาอะไรมาให้เขาทำ เลยได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ขึ้นมา 

ตอนนี้ก็ยังดูแลทีมงานทุกคนในค่ายเหมือนเดิม มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนทั้งหมดประมาณ 7 หลัก แต่ก็ยังมีรายได้เข้ามาบางส่วนจากการรีวิวสินค้า อาจจะไม่ได้พอมีเงินเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่พอสำหรับค่ากินค่าอยู่ของคนในค่าย คงไม่ปล่อยให้ใช้เงินเก็บทั้งหมด ก็ต้องพยายามหาอะไรทำให้เงินเข้ามาอยู่ดี 

เลยได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ขึ้นมา เพื่อที่จะได้เลี้ยงนักดนตรีและแดนเซอร์ โดยตั้งใจว่าจะทำเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอต่อการเลี้ยงคนในค่ายทั้งหมด และตนเองก็หวังว่าจะได้เงินจากคอนเสิร์ตนี้ประมาณหลักแสนปลายๆ 

ส่วนเรื่องพวงมาลัยออนไลน์ จะได้ให้ เนเงิน เป็นคนรับผิดชอบ ทำบัญชีแยกไปเลย โดยมีแม่ยกโอนเงินมาให้ระบุว่าให้ใครเท่าไหน ทีมงานก็จะทำพวงมาลัยแล้วมอบให้นักร้องคนนั้น ซึ่งจำนวนเงินจากพวงมาลัยออนไลน์ก็เยอะพอสมควร ต้องขอบคุณแม่ยกมา ณ ที่นี้ด้วย 

นอกจากนี้ในคอนเสิร์ต เจนนี่ ยังได้เชิญศิลปินที่มีชื่อเสียงในภาคใต้มาเป็นแขกรับเชิญอีกด้วย ตอนนี้มีคนที่รอดูประมาณ 6,000 คนแล้ว จากที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 คน และ เจนนี่ บอกอีกว่า ดีใจมากที่ตนเองผ่านมรสุมแล้ว แต่ทุกคนยังรัก ถ้าคนไม่รักก็ไม่เป็นไร เคยบอกทุกคนไว้ว่าอยากให้รักน้องๆ ในค่าย เพราะดราม่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เด็กๆ ไม่เกี่ยวอะไรเลย 

เมื่อถามกว่ากลัวจะเจอดราม่าว่าเป็นขอทานออนไลน์มั้ย ที่ทำพวงมาลัยออนไลน์ขึ้นมา เจนนี่ บอกว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ได้เป็นผู้คิดค้น แต่เป็นกลุ่มแม่ยกที่เขาได้ส่งแชตมาหา เนเงิน ว่าอยากให้เด็กๆ ได้พวงมาลัย เพราะช่วงนี้เขาไม่มีรายได้ และการเป็นนักร้องก็ได้พวงมาลัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว ซึ่งตนเองไม่ใช่ขอทาน และก็ไม่ได้ซีเรียส ถ้ามัวแต่ซีเรียส น้องๆ อดกันพอดี