อัปเดตอาการหลังจากที่รักษาเป็นวันที่ 15 พอดี หลังจากตรวจแล้วยังพบเชื้อโควิดอยู่นะครับ แต่อาการแทรกซ้อนยังไม่มีอะไร สุขภาพปกติดีทุกอย่าง เอกซเรย์ปอดยังปกติดี น่าจะเป็นซากเชื้อที่ยังเป็นบวกอยู่ ตามจริงสามารถกลับไปกักตัวต่อที่บ้านได้ แต่ตนเองตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อตรวจหาเชื้อเพิ่ม

พอไปดูสถานที่มาแล้ว ห้องอาหารสวยมาก เลยตัดสินใจที่จอง ตอนแรกจองไว้ 8 ที่ เอาแค่เพื่อนสนิท ยืนยันไม่ได้มีดารา มีแต่เพื่อนนอกวงการ กับคุณแม่ เลยถามเพื่อนว่ามีใครจะจองห้องพักบ้าง เลยเปิดห้องใหญ่ 3 ห้อง ซึ่งในห้องมีห้องรับแขก และห้องแยกอีก นอนได้ 6 คน พอถึงเวลาทุ่มครึ่งแขกที่นัดไว้ก็เริ่มมาทานข้าว

แล้วทานอาหารพร้อมกัน มีเพื่อนทักมาหา เลยให้เลขาจัดการสรุปเลยมีเพื่อนมาด้วยประมาณ 13-14 ที่ กลายเป็นโต๊ะยาว และบนชั้นดาดฟ้าที่ตนไปกินข้าวก็มีลูกค้าคนอื่นอยู่ด้วย ทางโรงแรมเสิร์ฟเป็นคอร์สอาหาร แยกเป็นจานๆ และเค้ามีมาตรฐานดีมาก ในการป้องกันโรค

พอทานกันเสร็จ ยืนยันไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอลล์ แล้วที่เห็นว่าเป็นเหมือนแก้วไวน์ มันเป็นแก้วม็อกเทล คือแก้วน้ำส้ม ทุกคนทานน้ำส้มกันหมด ไม่มีการสั่งเหล้า ห้องอาหารของทางโรงแรมได้ปิด 3 ทุ่มตรง ซึ่งคนที่อยู่ข้างบนก็ยังอยู่กัน ยังไม่ได้ลงมา ซึ่งลิฟต์ที่จะลงไปทางห้องพักมันต้องผ่านล็อบบี้โรงแรม ก็เจอน้องๆ ที่มาหาแล้วเค้าเอาดอกไม้มาให้ ส่วนเพื่อนที่กลับบ้าน ตนเองไปส่งที่รถ ส่วนเพื่อนที่เค้าพักที่โรงแรมเค้าขึ้นไปก่อน แล้วตนเองก็ตามขึ้นไป

ตามข่าวที่บอกว่า มีเปิดห้องปาร์ตี้ต่อ ไม่ได้มีการปาร์ตี้แต่อย่างใด ส่วนตนเองก็อยู่ในห้องของตัวเอง ทำกิจกรรม อาบน้ำ วิดีโอคอลกับเพื่อนๆ ส่วนเพื่อนๆ ที่จะมาหาที่ห้องอาหาร เค้ามาไม่ทัน เค้าก็เอาของขวัญมาให้ที่ล็อบบี้และกลับ

ความจริงที่อยากจะพูดก็คือ เรื่องราวของการดื่มแอลกอฮอล์ในห้อง ยอมรับว่ามีจริงๆ มีการดื่มเหล้าจริงๆ แต่เพื่อนเอามาเอง ไม่ได้สั่งทางโรงแรมแต่อย่างใด เพราะปกติตนเองมักจะได้ของขวัญเป็นดอกไม้ เค้ก และเหล้า ยอมรับว่าทำผิดเองจริงๆ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าใครเริ่มเปิดเหล้า

ในฐานะเจ้าของงานวันเกิด ขอออกมายอมรับผิดเพียงคนเดียวในกรณีนี้ ไม่รู้ว่าจะโดนข้อกฎหมายไหนบ้าง ยืนยันจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และทางเจ้าหน้าที่ได้มาเอาหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับตนเองไปหมดแล้ว ตามที่รัฐแถลงเลย

อันนี้คือตนเองหละหลวมและผิดเอง ถ้าเกิดตนเองไม่อนุญาตให้เพื่อน หรือไม่ทำให้การดื่มเหล้าเกิดขึ้น ก็คงจะไม่มีการแพร่ระบาด จริงๆ การ์ดตก ซึ่งจริงๆ เพื่อนไปในพื้นที่มีเชื้อ และเอามาติดในกลุ่ม

เราไม่ได้อยากจะมาปกปิดข้อมูลการดื่มเหล้า และได้มีการเปิดเหล้าจากมินิบาร์จริงๆ ขอโทษอย่างไม่มีแก้ตัวใดๆ เลย ถ้าเกิดวันนั้นตนเองไม่นัดเพื่อนมากินข้าวและรวมตัวกัน ก็คงไม่เกิดการแพร่เชื้อ รู้ว่าเป็นความผิดที่ยากต่อการให้อภัย อยากให้สิ่งที่ออกมาพูดเป็นประโยชน์ต่อหลายๆ ฝ่ายได้

พอมาทราบข่าวว่า เพื่อนติดจากวันเกิดตนเอง พอทราบข่าวตนเองก็รีบตรวจทันที และรีบอัปคลิปแจ้ง ไม่ได้จะปกปิดอะไร พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว พอมีกรณีวันเกิดขึ้นมา ก็ยากที่จะให้อภัย รู้สึกแย่มากๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ส่วนไทม์ไลน์ ย้ำว่าไปเชียงใหม่มาจริง แต่ยืนยันไม่ได้ไปสถานที่บันเทิง เหตุที่เกิดการแพร่ระบาดทั้งหมด เริ่มมาจากงานวันเกิดตัวเอง 9 ม.ค. เพื่อนที่เค้าไปในพื้นที่เสี่ยง และเค้าติด เค้าก็มาแพร่ในงานวันเกิดของตนเอง

ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อจากงานวันเกิดตนเองมีทั้งหมด 8 คน เป็นคนที่รู้จักและสนิท ส่วนคนใกล้ชิดที่ไม่ได้ติด เค้าก็กักตัว พอครบก็ไปตรวจมาแล้ว คนที่ติดเชื้อ 8 คน ได้ออกจากโรงพยาบาล และหายดีแล้ว

ส่วน ข้าวโอ๊ต ตนเองไม่รู้มาก่อนจริงๆ ว่าข้าวโอ๊ตเป็นดารา เค้าเป็นแฟนของน้องสาวชื่อ แอ๋ม เค้าเป็นคนที่มาเซอร์ไพรส์วันเกิด เคยเจอมา 3-4 ครั้ง ไม่เคยถามว่าเป็นดารารึเปล่า เพิ่งจะมารู้พร้อมทุกคนว่าเค้าเป็นศิลปิน ขอโทษน้องด้วยที่ทำให้ติด

ยอมรับผิด ในฐานะเป็นเจ้าของวันเกิด ผิดอย่างหาข้อแก้ไขไม่ได้ ถ้าเลือกที่จะอยู่บ้านในวันเกิดตัวเอง ก็จะไม่เกิดเรื่องนี้ ถ้าใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ไม่ได้ เพราะเรารู้อยู่แล้ว อันนี้ฟังไม่ขึ้น จะบอกว่าหละหลวมก็ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้น ขอใช้คำว่า ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม รู้สึกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ไม่น่าจะเกิดกับบุคคลสาธารณะเลย

วันนี้ได้รับคำตักเตือน ด่าทอมากมายจากสังคม มันแฟร์ ตนเองทำผิด สมควรได้รับโทษ ถ้ามีข้อกฎหมายอะไรตามมา ก็พร้อมที่จะไปรับฟังข้อกล่าวหาและรับโทษทุกๆ อย่าง ผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมรับผิด เพราะทำให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้น ถ้าทำให้ใครไม่พอใจก็ขอโทษมากๆ

ส่วนข่าวโจมตีต่างๆ อันดับแรก คือ เรื่องที่มีคนออกมาพูดว่า ไม่ได้จัดงานวันเกิดแค่ 10 คน แต่ในรูปมีคนมาเป็นร้อย รูปนั้นคือวันเกิดของปีที่แล้ว ไม่ใช่ปีนี้ เป็นรูปเก่าของปีที่แล้ว อยากให้หยุดแชร์ เพราะจะทำให้คนในภาพเสียหาย

และที่มีคนออกมาโจมตีว่า ตนเองติดโควิดมาตั้งแต่ พ.ย. ของปีที่แล้วนั้น ถ้าเกิดตนเองติดตั้งแต่เดือน พ.ย. นี่เดือน ก.พ. ปอดของตนเองคงไม่เหลือแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยตัว เพราะก็กลัวตายเหมือนกัน ไม่มีทางที่จะรู้ก่อน พอรู้ว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็รีบไปตรวจ และแจ้งให้ทุกคนทราบ นอกจากนี้ มะตูม ก็ได้ยืนยันว่า ไม่มีการใช้สารเสพติด อย่างที่มีข่าวลือออกมาแน่นอน

เรื่องเรียกเด็กเอนฯมา มีนายแบบ 4 คน เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพราะทุกคนก็รู้ว่าตนเองมีรสนิยมแบบไหน วันนั้นไม่ได้เจอนายแบบเลยสักคนตั้งแต่ปีที่แล้ว น้องบางคนไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ที่มีคนบอกว่า ตนเองไปปาร์ตี้ที่บ้านย่านรังสิต มีคนมาร่วมงาน 60-70 คน และมีจัดเซ็กซ์หมู่ ไม่เป็นความจริง ไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงเจอคน 60-70 คนอยู่แล้ว ปล่อยผ่านไปเลย และข่าวที่โทรสั่งลา รุ่นพี่ในวงการ ใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่รักษาตัวมา ตนเองยังไม่เคยใส่ท่อช่วยหายใจเลย

คำว่า ขอโทษครับ จากปากตนเอง มันอาจจะฟังบ่อยมาก แต่ ตูม ขอโทษครับ ไร้ความรับผิดชอบ และสามัญสำนึก ขอโทษที่ทำให้หลายคนเดือดร้อนจากเรื่องนี้ ขอโทษต้นสังกัด แกรมมี่ และขอโทษเพื่อนในวงการทุกคนที่ต้องกักตัว ทำให้รายได้หาย เดือดร้อน รวมถึงพนักงานที่โรงแรมบันยันทรี 30-40 ชีวิต ที่เค้าต้องกักตัว และถูกสอบสวน

และคนที่อยากขอโทษมากๆ ที่สุดคือ ประชาชนตาดำๆ ทั่วไปที่ปฏิบัติทุกอย่างตามเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกคนที่ทำดีทุกอย่าง แต่โรคยังไม่หมดไปสักที เพราะมีคนเห็นแก่ตัวขอตัวเอง ตูม โคตรอายกับสิ่งที่ ตูมทำเลยครับ และสมควรได้รับคำด่าทอ มันแย่มากครับ ตูมไม่สามารถทำให้คนที่เกลียดชัง หรือโมโห มาเข้าใจหรือมารับฟัง

ตูมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะติดโควิด เพราะตนเองแข็งแรง โควิดมันไม่ได้เลือกนะครับว่าเราเป็นใคร ตอนนี้มันกำลังแพร่ระบาดในบ้านเรา วันนี้ตูมติดแล้ว เกิดจากความผิดพลาดของตัวเอง เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนอย่าการ์ดตกเลย มันไม่คุ้ม เอาเป็นว่าช่วยกันดูแลสุขภาพนะครับ

โดยในไลฟ์สดก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาร่วมฟังเป็นจำนวนมาก มีทั้งให้กำลังใจ และตำหนิกับการกระทำของ ดีเจมะตูม.