ยกหูเคลียร์ เจนนี่ ปมแชตหลุด ไล่เด็กออกจากค่าย


ให้คะแนน


แชร์

ยกหูเคลียร์ เจนนี่ ปมแชตหลุด ไล่ “น้องซีน บัตเตอร์ฟลาย” ออกจากค่าย โต้ เสียงหนักแน่น น้องมีปัญหาเข่าจริง ถ้ารักษาหายแล้วยินดีต้อนรับกลับมาเป็นศิลปิน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากเหตุการณ์ที่มีศิลปินในค่าย ได้หมดถ้าสดชื่น ลาออก2คน นั่นก็คือ น้องฝ้าย และ น้องซีน 1ในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป Butterfly เจ้าของเพลง “บัตเตอร์ฟลายรายงานตัว”

โดย เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่าย ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมาโพสต์ออกมาชี้แจง ต่ไปนี้ Butterfly ได้หมดถ้าสดชื่น จะเหลือเพียง 4 คน คือ น้องอังเปา, น้องได๋ , น้องเบบี้มายด์ และ น้องสมายด์ เพราะ น้องซีน ตรวจเจอก้อนเนื้อที่เข่า และคุณหมอให้น้องพักและรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้องซีน จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดเดินตามความฝัน เพื่อรักษาเข่าให้หายขาด

ก่อนที่ภายหลังจะมีแช็ตหลุดผ่านโซเชียล เป็นบทสนทนาที่เจนนี่คุยกับศิลปินในสังกัด เผยว่า สิ้นปีนี้จะมีการคัดศิลปินออก 2 คน นะคะ เหตุผลอยากให้ทุกคน กลับมาทุ่มเทและเต็มที่กับหน้าที่มากกว่านี้ และเป็นเด็กน่ารักเหมือนเดิม

จะดูโอ้ หรือ เกิร์ลกรุ๊ปมีสิทธิ์ โดนตัดออก ทุกคน ที่พี่ต้องทำแบบนี้ เพราะช่วงนี้ พี่ควบคุมทุกคนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน และมีหลายคน ที่ทำตามใจตัวเองมากกว่าการรักษาโอกาสที่ได้รับ ต้องใช้วิธีเพื่อเป็นตัวอย่างให้น้องๆรุ่นต่อๆไปลงชื่อรับทราบ” ท่ามกลางกระแสสังคมที่มองว่าที่แท้เจนนี่ไล่เด็กออก

ล่าสุด 16 ก.พ.64 ข่าวสดออนไลน์ ต่อสายตรงเคลียร์ประเด็นดังกล่าวกับเจนนี่ทันที

เราเห็นข่าวเรื่องแชตหลุดแล้วใช่ไหม

“มันไม่ใช่แชตหลุด เพราะว่ากลุ่มนี้มันไม่ได้เป็นความลับขนาดนั้น แล้วเนื้อหาก็ไม่ได้เป็นการไล่น้องออกเลยนะ ถ้าลองอ่านกันดูดีๆ มันเป็นคำพูดที่ดึงสติสำหรับน้องที่ดื้อ ก็จะมีบ้างบางคนที่เหลวไหลติดเที่ยว ติดแฟน การที่อยู่เป็นค่ายหนูก็ต้องมีวิธีในการสอนน้องๆ ในค่าย มันไม่เชิงว่าเป็นแชตหลุด คือถ้าเป็นแบบกรณีปีที่แล้วอันนั้นแชตหลุดจริงๆ ซึ่งหลักจากนั้นมา หนูก็จะระวังตัวตลอดเวลาที่จะคุยอะไรต้องเซฟตัวเอง เพราะถ้าวันนึงแชตหลุดออกมาสู่สาธารณะเราจะได้ไม่บาดเจ็บ”

ตอนที่เห็นข่าวเรารู้สึกยังไง

“เห็นพาดหัวข่าวบอกว่าหนูไล่เด็กออก หนูยังไม่ได้ไล่ใครเลยนะคะ อันนี้ขอแจงเลย”

จังหวะพอดีกับศิลปินในค่ายออก 2 คน

“อันนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีของซีน เพราะว่าน้องเจ็บเข่ามานานมากแล้ว น้องเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยนึง แล้วน้องตกลงมาแล้วเข่ามีปัญหามานาน แล้วเมื่อวานน้องส่งข้อความมาว่า คุณหมอตรวจพบก้อนเนื้อในเข่า คุณหมอบอกให้หยุดเต้น ให้พัก หนูเสียดายและเสียใจมากๆ เพราะว่าน้องซีนเป็นน้องที่เก่งคนนึงของค่าย พอน้องต้องหยุดเราก็ต้องทำใจยอมรับ เพราะว่ามันเกี่ยวกับเข่า ถ้าเราไปฝืนน้อง มันก็จะเป็นอันตรายกับน้องได้ในอนาคต หนูก็โอเค แต่ถ้าวันนึงน้องหายแล้ว และน้องจะกลับมาหนูก็โอเค เราก็อยากได้น้องมาร่วมงานในค่าย ตัวน้องก็เสียใจมาก ส่วนน้องฝ้ายจะออกก่อนน้องซีนประมาณ 2 อาทิตย์ สาเหตุที่ออกน้องเขามีเหตุผลส่วนตัวของเขา พอมันเป็นเรื่องเหตุผลส่วนตัว เราก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกสาธารณะ เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผลส่วนตัว สำหรับเรื่องแชตทำไมถึงหลุดออกมา หนูขี้เกียจมานั่งเช็กว่าใครเป็นคนปล่อย หนูเอาเวลามาทำอะไรต่อไป เพราะถ้าหนูเอาเวลามาอยู่ตรงนี้น้องที่อยู่เขาก็จะเครียดไปด้วย เลยปล่อยวางไปแล้ว”

“แล้วแชตนี้ที่หนูก็เขียน คือช่วงนั้นมันมีน้องๆบางคนที่ติดแฟน ติดเที่ยว แล้วก็แอบเหลวไหล ผิดกฎค่าย ซึ่งหนูก็ต้องพูดนะพี่ในฐานะเจ้าของค่าย ซึ่งแชตนี้ป็นแชตที่เอาไว้สำหรับศิลปินในค่าย ซึ่งหนูก็เซฟคำพูดไว้แล้ว คือรู้ว่าถ้าวันหนึ่ง เด็กออกไปหรือมีปัญหา ยังไงก็สู่สาธารณะ ดีนะที่หนูไม่เจาะจงลงไปว่าใครทำอะไรบ้าง ไม่งั้นน้องที่หนูเจาะจงลงไปอาจจะเสียหายได้นะคะพอมันมีแชตหลุดออกมาอย่างนี้”

เราไม่ได้มีเจตนาที่จะคัดศิลปินออก

“ใช่ค่ะ อย่างหนูเนี่ยนะจะไล่เด็กออก ขนาดหนูทำรายการ หนูต้องการเด็กแค่4คน หนูยังเอาทุกคนไว้เลย เพราะหนูสงสารทุกคน คือถ้าใครทำดีหน้าสงสารและเต็มที่กับอาชีพ หนูไม่มีทางปล่อยน้องไปแน่นอน”

น้องซีนออก จาก 5 สาว ก็จะเหลือ4สาว

“ก็คุยกับน้องๆหลังบ้าน ทุกคนก็ไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่ แต่เสียใจที่ขาดซีนพี่ที่ดีที่สุดของวงไป คือตอนแรกที่ตั้งใจทำเกิร์ลกรุปก็ตั้งใจแค่4คนอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเราเอ็นดูเด็กไม่อยากตัดใคร ก็เลยเอาเป็น5คน”

ถือเป็นกลุ่มศิลปินที่เราภูมิใจเพราะตั้งใจมาก

“ตั้งใจมากค่ะ หลายคนบอกว่าทำเกิร์ลกรุปมันยาก แต่เรามองว่าอะไรที่มันยาก มันจะท้าทายเสมอ หนูว่ายากกว่าการทำเกิร์ลกรุปคือการเป็นเจ้าของค่ายมากกว่า ด้วยความที่เราอายุ25 ถามว่าโตไหม ก็ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยประสบการการทำงานของเรามันยังน้อย หนูต้องค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าอนาคตหนู อาจจะดึงใครไว้อยู่ในค่ายไม่ได้ แต่ต่อให้เหลือ2คนสุดท้ายที่อยู่ในค่าย หนูก็ต้องทำให้มันเต็มที่ เดี๋ยวสัญญาหมดทุกคนก็ต้องออกกันไป ซึ่งหลายคนก็มักจะสงสัย ว่าทำไมเจนนี่ปล่อยให้คนนั้น คนนี้ออก คือชีวิตของใคร เขาก็ต้องกำหนดเอง คือเราไม่ยื้อ แต่จะมีคำพูดทิ้งท้ายไว้เสมอว่า คิดดีๆนะ”

ส่วนใหญ่คนที่ออกไปคือหมดสัญญาใช่ไหม

“ไม่ค่ะ คือการออกในที่นี้ สัญญาก็คงต้องเป็นไปตามสัญญา ก็จะเป็นไปในเรื่องของกฎหมายของทนาย หนูจะไม่พูดถึงดีกว่าเพราะเรายังไม่ต้องถึงขั้นนั้น แต่รู้แค่ว่าทุกคนยังมีสัญญาปกติ เพราะว่าเหตุผลที่เขาออก เขาไม่ได้จะย้ายค่าย แต่มันมีเหตุจำเป็นจริงๆที่ต้องหยุดอยู่บ้าน แล้วถ้าวันหนึ่งเขาจะกลับมาทำเพลง หรือกลับเป็นศิลปิน หลังเคลียร์เรื่องส่วนตัวจบแล้ว ก็น่าจะมาทำตามสัญญาเหมือนเดิม จนครบ4ปีที่ เราเซ็นกันไว้”

เรามีข่าว มีปัญหากับเด็กในค่ายบ่อย ด้วยความที่หลายคนคือวัยรุ่น

“ใช่ค่ะ คือมันค่อนข้างควบคุมยาก ลองจินตนาการดู 25 คน มีตั้งแต่ 15-21ปี คือเป็นวัยรุ่น วัยที่กำลังเที่ยว กำลังมีแฟน มันจะควบคุมยาก ซึ่งการปกครองของหนูแน่นอนว่าหนูไม่ได้มีประสบการณ์มากมาย เราก็ใช้ใจในการปกครอง”

แต่บางคนก็เกือบรุ่นเดียวกันกับเรา

“ใช่ค่ะ เยอะสุดก็น้องซีนเนี่ยแหละ ที่อายุเยอะที่สุด เอาตรงๆเลยว่าหนูไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับปกครองมากมาย หนูใช้ใจในการทำงาน เหมือนที่หนูทำกับลินลี่ เพราะลินลี่เป็นน้องสาว ใช้ใจในที่นี้ก็คือ อยู่กันแบบครอบครัว มากกว่าอยู่กันแบบเจ้าของค่าย ถามว่ามีดุมีโหดบ้างไหม มีบ้างเวลาที่ทำงาน แล้วเด็กดื้อ เด็กไม่ฟัง มันก็มีหลายโหมด โหมดใจดี โหมดเพื่อน โหมดบอส แต่แชตที่หลุดไป ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในโหมดใจดี ถ้าในความคิดของหนู หนูก็อยากจะบอกทุกคนว่าการเป็นศิลปินมันไม่ได้ง่ายนะคะ การเปลี่ยนศิลปินไม่ง่ายแล้ว การเป็นเจ้าของค่ายไปด้วย เป็นศิลปินไปด้วยมันไม่ง่ายเข้าไปอีก ในฐานะที่หนูเป็นเจ้าของค่ายหนูก็ต้องรับอีกบทหนึ่ง การเป็นศิลปินหนูก็ต้องรับอีกบทหนึ่ง”

เรียกว่าต้องสวมมงกุฏบทบาท

“ใช่ค่ะ ต้องแยกให้ออกว่าเวลาเราเป็นศิลปินเราต้องเป็นอีกแบบนะ เวลาเราเป็นเจ้าของค่ายก็ต้องเป็นอีกแบบนะ มันไม่ได้ง่ายค่ะ ซึ่งหนูก็บอกทุกคนเสมอว่า ถ้าใครจะอยู่ต่อคืออยู่ที่เราเป็นเรา ใครจะอยู่ให้บอก ใครจะไปก็ขอบคุณ คำว่าขอบคุณคือขอบใจนะแกที่ยังอยู่กับชั้น คำว่าขอบคุณที่ออกไป คือขอบคุณที่มาร่วมทาง ขอบคุณที่เคยแวะมาอยู่ในสังกัดได้หมดถ้าสดชื่น ตอนนี้ยังมี 25 คน ยังเหลืออีก 23 รวมหนูเป็น 24 คน”

มีน้องคนไหนจะไปจะมาอีกไหม

“ไม่หนูเหมือนกันนะพี่ บอกไม่ได้เลย เพราะคนที่เพิ่งออก เราก็เพิ่งรู้เหมือนกัน เซอร์ไพรส์เหมือนกัน เอาเป็นว่าหนูอยากให้ทุกคนรู้ว่าอนาคตทุกคนไม่ได้อยู่กับหนูไปตลอดชีวิตแน่นอน ทุกคนต้องมีทางเดินเป็นของตัวเอง ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ ปีนี้ ปีหน้า ทุกคนก็ต้องแยกจากหนูไป หนูอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการที่เราเดินการที่เราเดินแยกจากกัน มันไม่ได้แปลว่าเราต้องทะเลาะกันทุกครั้งนะคะ บางคนเขาอาจจะมีเหตุผลส่วนตัว มีเหตุผลทางบ้าน มีเหตุผลเรื่องสุขภาพร่างกาย”

จบๆเรื่องดราม่า วันวาเลนไทน์เป็นยังไงบ้าง

“วันวาเลนไทน์ก็ได้ดอกไม้ธรรมดาค่ะ ช่อหนึ่ง นี่ขนาดหนูได้ดอกไม้มาช่อหนึ่ง หนูยังโดนด่าเลยอะ ว่าแบบสร้างภาพ ตั้งกล้อง จัดสคริปต์ การที่เรายื่นดอกไม้ให้ใครสักคน ถ้ามันจะต้องจัดสคริปต์ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น หนูว่ามันก็เวอร์ไปนะ หนูก็ยังโดนด่าเหมือนเดิม”

แต่ของเราเบานะ สู้ลิลลี่ไม่ได้เลย

“สู้ลิลลี่ไม่ได้เลยจ้า (จะเอามาเป็นรถเป็นกระบะ) ใช่ค่ะ เป็นความโชคดีของน้องฟลุ๊ค น้องลิลลี่ที่เขามีแม่ยกที่ใจดีมาก ซึ่งเซอร์ไพรส์ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้เป็นคนคิดเองนะ แม่ยกของฟลุ๊คลิลลี่เขาเป็นคนคิดให้ หนูเองยังชอบเลยอะ ขนาดหวงลิลลี่เรายังอินไปด้วยเลย ขอบคุณมากค่ะ”

เห็นอยู่นะ ว่าต้องคิดแหละเรามีต้องมีบ้าง

“ก็มีบ้าง หนูรักน้องมาก ลิลลี่ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจยังไง เรามีหน้าที่แค่ดูแลเขาแหละค่ะ(เขามีปรึกษาเราบ้างไหม) ตลอดค่ะ สองคนนี้จะอยู่ในสายตาเราตลอด มีน้องอยู่คนเดียวเนาะ ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด”

เราจะเข้มงวดกับเขาขนาดไหนเรื่องความรัก

“จริงๆหนูก็หวงนะคะ แต่หนูบอกกับทุกคนแล้วว่าถ้ามันถึงเวลาที่สมควร ไม่ว่าลิลลี่จะเลือกใคร เราก็เคารพการตัดสินใจจากน้อง เหมือนตอนนี้ที่เราต้องมีคุมๆขัดๆบ้าง ด้วยความที่ยังเรียนหนังสือกันอยู่ แล้วก็อนาคตกำลังรุ่งทั้งลิลลี่ทั้งฟลุ๊คค่ะ เราก็อยากให้อยู่ในสายตา อะไรที่มันสมควรเราก็อนุญาต อะไรที่มันไม่สมควร เราก็ไม่อนุญาต”

คือมีอะไรบอกพี่ก่อน

“ถูกต้องค่ะ”

ฟลุ๊คเขากลัวเราไหม

“น่าจะเกรงใจมากกว่า เรามีหลายบทบาท หัวหน้าค่ายพี่สาว เป็นนักร้อง เป็นลูกของแม่ เป็นคนที่ดีของแม่(หัวเราะ) ลิลลี่เขาจะเป็นห่วงเรามากกว่าเพราะว่าช่วงนี้เขาจะรู้ว่าเหมือนถ้ามีใครออกจากค่ายอีกคน เขาก็จะทักมาว่าไหวนะ ซึ่งโชคดีที่หนูผ่านอะไรมาเยอะแล้ว มันก็เลยทำให้หนูรู้สึกโตขึ้นแล้วก็มีสติมากขึ้นค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีคอมเมนต์ด่า หนูเครียดตายเลยนะเนี่ย”

ผ่านปีที่แล้วมาได้ ก็สบายใจ

“ใช่ จะรีบตอบโต้ รีบไลฟ์สด แต่ทุกวันนี้เรารู้สึกว่าเราต้องนิ่งนะ เพราะว่าอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าวันหนึ่งค่ายมันพังแล้วจริงๆ ไปต่อไม่ได้แล้ว โดนเหยียบย่ำ โดนสังคมประณาม ขนาดว่าค่ายไปไม่ได้ เราก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของค่ายเราก็ต้องทำอาชีพอื่นที่มันสามารถดำเนินไปได้ แต่หนูแค่อยากทำตรงนี้ให้มันเต็มที่ให้ดีที่สุดก่อน ให้มันแบบว่า กูไม่ไหวแล้วนะ จะฆ่าตัวตาย จะไม่เอาแล้ว ไม่ทำแล้ว ให้มันถึงจุดนั้นก่อน แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ มันยังไหว”

ยังมีงานอยู่นะ

“คอนเสิร์ตเดือนมีนาคมก็ยังเหมือนเดิม(เต็มเลยใช่ไหม)ใช่ค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5965726
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5965726