ถือเป็นละครเรื่องแรกที่เปิดตัวมาพระเอกก็บอบช้ำเลย

“ใช่ครับ ช่วงตอน 2 ตอนแรกเนี่ยเปิดมาหน้ายับเลย (ยิ้ม) ก็มีคนแซวเหมือนกันประมาณว่าเปิดมาก็หน้า เสียโฉมเลยนะ แต่พอแผลหายเปิดมาก็หน้าใสปิ๊งแล้วนะครับ ผมว่าก็เป็นแนวใหม่ๆที่อาจจะยังไม่เคยเห็นพระเอกคนไหนเริ่มต้นกับลุคแบบนี้ ท้าทายสำหรับคนที่เล่น และแฟนๆก็ได้เห็นความต่างไปจากที่ผ่านมา การทำงานเรื่องนี้สนุกดีครับ ทั้งตัวพี่ชู (บุญธร กิติพัฒฑากรณ์) ผู้กำกับ นักแสดงทุกคน และทีมงานคือทุกคนอารมณ์ดี อย่างพี่แซมมี่ก็เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกด้วย พี่แซมมี่เป็นคนน่ารัก ชอบแกล้งด้วย แต่เวลาทำงานเค้าตั้งใจมาก ซึ่งพอเราได้อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ ทำให้เราทำงานแล้วสนุก มีความสุขเวลาไปกองถ่าย ซึ่งส่วนใหญ่ 80% จะยกกองกันไปถ่ายที่ทะเลด้วย เป็นการทำงานที่เหมือนเราได้พักผ่อน แต่ถ้าเอาจริงๆ ถ้าให้ไปเที่ยว ผมชอบภูเขามากกว่า เพราะบรรยากาศจะเย็นๆไม่ค่อยร้อน แต่ได้ไปทะเลก็โอเค ส่วนมากจะอยู่แถวๆระยองและพัทยา มีไปถ่ายทำกันกลางทะเลด้วย”

ยากไหมต้องทำงานกลางทะเล

“ยากครับ เราถ่ายทำกันอยู่ 2 วัน เวียนหัวด้วยเพราะเราต้องอยู่บนเรือกลางทะเล ต้องทานยาแก้เมาคลื่นด้วย การถ่ายทำก็ค่อนข้างยาก ทั้งการมาร์กจุด ทั้งตากล้องที่จะต้องชำนาญมากจริงๆ ผมถือว่าเป็นการทำงานที่ไม่ง่าย แต่ทุกคนตั้งใจมากเลยได้ภาพสวยๆอย่างที่ตั้งใจครับ”

อยากให้มิกค์เล่าประสบการณ์เที่ยวทะเลในความทรงจำ

“ผมอยากย้อนไปสมัยเด็กๆเลย เป็นการไปทะเลกับครอบครัว ผมได้ไปพักที่เกาะพีพีกับคุณพ่อ ไปค้างคืนกันสนุกมาก วันทั้งวันก็จะเล่นน้ำ ตอนเช้าก็รีบตื่นขึ้นมาดูน้ำทะเลที่ลดลงจนกลายเป็นสันทรายเชื่อมระหว่างเกาะ สามารถเดินไปมาได้ เพราะตอนเย็นน้ำจะขึ้นจะเดินไม่ได้แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นผมไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบนี้เท่าไหร่ครับ จะมาทะเลก็คือมาทำงานบ้าง มาถ่ายละครบ้าง โอกาสที่จะได้พักนานๆ แบบนั้นค่อนข้างยาก”

นึกว่าจะตอบถึงทริปทะเลล่าสุดบนเรือที่ไปกับสาวโบว์ซะอีก

“(หัวเราะ) ไม่ครับ ทริปนั้น ไม่มีอะไร”

ในเรื่องของการทำงาน มิกค์มองว่าวันนี้ตัวเองเดิน ทางมาถึงเส้นชัย ที่เคยคิดไว้หรือยัง

“ผมมาถึงแล้วครับ เป้าหมายของผมในวันแรกจริงๆ คือตั้งใจที่อยากจะดูแลตัวเองให้ได้ เป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลครอบครัวได้ เป้าหมายของผมมีเท่านั้นเลยจริงๆ คือถ้าเราดูแลตัวเองและครอบครัวได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร เท่านั้นสำหรับผม ผมว่าโอเคแล้ว นั่นก็เลยทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมมาถึงเส้นชัย มาถึงเป้าหมายที่ผมตั้งไว้ ผมทำได้สำเร็จ”

แล้ววันนี้ล่ะ มีเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นไหม

“มันก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นมาในเรื่องของการทำงาน และในเรื่องของความมั่นคงในอนาคตต่อไปนะครับว่าเราจะทำอย่างไรให้การงานของเรามั่นคงต่อไป ผมเป็นคนที่วางแผนชีวิตระยะสั้น จะไม่วางไกลๆ คือคิดไปไกลมาก เรามีแผนการใช้ชีวิตในระยะสัก 2-3 ปี คือวางแค่ 2-3 ปีนี้ เราจะเป็นแบบนี้ มันโอเคมั้ย แล้วค่อยทำตามแผนเป็นช่วงๆ แบบนั้นผมจะไม่กดดันตัวเองมาก เรียกว่าเป็นความท้าทายที่เราจะต้องพัฒนาตัวเองไปในทิศทางไหนที่ดีที่สุด อย่างในเรื่องของการทำงาน แน่นอนพอเรามีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น บทบาทที่เราได้รับก็จะแตกต่างกันออกไป สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้เพื่ออนาคตความมั่นคงของเราข้างหน้าก็คือการทำการบ้าน การตั้งใจ เราจะเล่นอย่างไรให้ตัวละครที่เราได้รับคนดูรู้สึกได้ว่ามันแตกต่างกัน ผมค่อนข้างโชคดีด้วยบทที่ผมได้รับในละครหลายๆ เรื่องจะแตกต่างกัน ดังนั้น มันก็ทำให้เราสามารถเล่นอะไรที่แตกต่างกันออกไปได้อีก”

2–3 ปีนี้ต้องบอกว่าเป็นปีทองของมิกค์ ทั้งโอกาสงานที่เข้ามาต่อเนื่อง และการได้ร่วมงานกับซุปเปอร์สตาร์ของช่อง 7HD หลายๆคน

“สำหรับผมกว่าจะมาถึงจุดนี้ถามว่านานมั้ย? ก็นานครับ แต่ไม่ได้นานมากจนเราท้อ ผมทำงานมาเรื่อยๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ และตอนนี้พอเราได้รับโอกาสมากขึ้น ผมคิดว่ายิ่งจะต้องตั้งใจมากขึ้นกับทุกโอกาสที่เข้ามา เพราะถ้าเราละเลยเมื่อไหร่ นั่นก็แสดงว่าเราไม่พร้อมที่จะทำงานตรงนี้ อย่างที่บอกครับ ผมมองว่าอาชีพนักแสดงคืออาชีพที่ต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลาและสิ่งสำคัญคือผมอยากขอบคุณทุกๆโอกาสที่เข้ามาทำให้ผมได้มีโอกาสพัฒนาตนเองแบบตอนนี้ครับ”

ถามเรื่องสถานะกับโบว์ เมลดา กันดีกว่า ตอนนี้เหมือนจะชัดเจนขึ้น

“ผมว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีที่สุดครับ คือเราก็ผ่านอะไรมาพอสมควร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะและเวลา เพราะตอนนี้สำหรับผม ผมว่าทุกอย่างโอเค แฮปปี้ดีครับ เรียกว่ามีคนที่คอยช่วยเป็นกำลังใจดูแลกันและกันไปครับ”

การอยู่ต่างสังกัดมีผลกระทบกับความสัมพันธ์บ้างมั้ย

“ไม่มีหรอกครับ ผมมองว่าความสัมพันธ์มันอยู่ที่ว่าเราคุยกันแล้วเราเข้าใจกันขนาดไหน แน่นอนว่าเราอาจจะมีเวลาให้กันไม่ได้เยอะมาก เวลามีน้อยเพราะต่างคนต่างทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือความเข้าใจครับ ถ้าเราทั้งคู่เข้าใจและให้กำลังใจกันเท่านั้นผมว่าก็โอเคนะ ส่วนการเจอกันก็มีเจอกันบ้าง ไม่ใช่ว่าไม่เจอกันเลย เจอกันเมื่อมีโอกาสเจอกันครับ”

กลับมาที่ทริปล่าสุดเห็นโพสต์ภาพคู่ด้วย นี่คือยืนยันชัดเจน

“ก็มีบ้างครับ ถามว่าชัดเจนไหม ก็คือชัดเจนล่ะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้อะไรเยอะมาก ไม่ได้โพสต์เยอะมาก แค่เราก็อยากให้มีอะไรอยู่ในไอจีบ้าง เก็บเป็นภาพความทรงจำนิดหน่อยครับ”

แฟนๆเข้าไปเชียร์ และแซวหนักมาก

“ครับ (ยิ้ม) เชียร์หนักจริงๆ ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่เข้ามาแซว เข้ามาให้กำลังใจเราทั้งคู่ บางคนบอกว่าเราคือพลังบวกให้กับเขา แต่จริงๆพวกเขาเองก็คือพลังบวกให้กับเราเหมือนกันนะครับ”

ถ้ามองวันนี้ถือว่ามิกค์ลักกี้อินเกม และอินเลิฟ ยังมีสิ่งไหนที่อยากทำอยู่บ้าง

“ยังไม่ได้วางแผนอะไรเยอะมากครับ กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือด้วยโรคโควิด-19 ด้วย อาจจะต้องรอให้มันซากว่านี้ คือทุกอย่างโอเคกว่านี้ แล้วค่อยทำอะไรขึ้นมาสักอย่าง”

แต่ก็เห็นหันมาขายหมูยออยู่พักนึง

“ครับ หมูยอ ‘บ้ายอ’ ครับ ผมเริ่มทำตอนโควิด-19 ระบาดเมื่อปีก่อน ถามว่าโอเคไหม ก็โอเคนะครับ มันเดินหน้าด้วยตัวของมันเองได้แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ฮือฮาเท่าช่วงแรกๆ อย่างที่บอก ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็อาจจะขยับขยายในส่วนของแบรนด์บ้ายอนี้ พัฒนาเพิ่มเติม ต่อยอดต่อไป หรือเพิ่มธุรกิจไลน์ใหม่ อันนี้ขอดูสถานการณ์ก่อนครับ”

มิกค์ก็เป็นอีกคนที่มองว่าทุกวันนี้จะทำงานแค่อาชีพนักแสดงอย่างเดียวไม่ได้

“ใช่ครับ ผมมองว่าเราควรจะมีอาชีพเสริม เพราะอาชีพนักแสดงมีระยะเวลา อาจจะไม่แน่นอนหรือมั่นคงในอนาคต ควรจะต้องหาอาชีพอื่นมาซัพพอร์ต เพื่อที่เราจะได้เติบโตต่อไปได้ แต่ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเริ่มต้นทำความคุ้นเคยทำความรู้จักในสิ่งสิ่งนั้นให้ดีที่สุดก่อน อย่างตัวผมที่หันมาจับธุรกิจอาหาร เพราะว่าผมเป็นคนชอบทาน ผมชอบกินหมูยอ ผมก็เริ่มต้นจากสิ่งที่ผมชอบ”

ท้ายที่สุดฝากผลงานถึงแฟนละคร

“ตอนนี้ทะเลลวงกำลังเข้มข้นเลยครับ มาช่วยกันลุ้นกันนะครับว่า เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร สนุกแน่นอน อย่าลืมเปิดทีวีนะครับ เวลา 2ทุ่มครึ่ง ทุกวันจันทร์ อังคาร ทางช่อง 7HD และนอกจากเรื่องนี้ก็จะมีละครเรื่องบ่วงวิมาลา ซึ่งเป็นละครพาร์ตต่อจากเรื่องโซ่เวรี ที่กำลังเตรียมตัวถ่ายทำอยู่ เรื่องนี้ผมร่วมงานกับน้องเปรี้ยว-ทัศนียา และน้องปูเป้-เกศรินทร์ เป็นครั้งแรก บทค่อนข้างจะเชือดเฉือนมากๆครับ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ