“ณวัฒน์” พร้อมดูแลมิสแกรนด์เมียนมา “ฮาน เลย์” หลังทางการน่าจะหมายหัวไว้ ทำให้กลับไม่ได้

วันที่ 31 มี.ค. 2564 เวลา 16:00 น.

“ณวัฒน์” ให้มิสแกรนด์เมียนมา “ฮาน เลย์” อยู่ไทยต่อ 2 เดือน พร้อมออกค่าใช้จ่ายและหางานให้

หลังจากที่ตัวแทนสาวงามวัย 20 ปี จากประเทศเมียนมา “ฮาน เลย์” ได้กล่าวสุนทรพจน์ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศเมียนมาบนเวทีประกวด Miss Grand International 2020 ในคืนรอบตัดสินเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564 โดยหัวข้อคือ “ยุติสงครามและความรุนแรง (Stop the War and Violence)”

ซึ่งหัวข้อก็ดูเข้ากับสถานการณ์ในบ้านเกิดของเธอตอนนี้ เพราะหลังจากที่เมียนมาเกิดเหตุรัฐประหารภายใต้การนำของกองทัพ “พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย” เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และสถานการณ์ก็ดูจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตระหว่างการปะทะกันพุ่งสูงเป็นหลักหลายร้อยตลอดเกือบสองเดือนมานี้ และล่าสุดก็เพิ่งมีชาวเมียนมาถูกคร่าชีวิตไป 64 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเพียงเยาวชน ทำให้ “ฮาน เลย์” ตัดสินใจพูดความในใจออกมาบนเวที

หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของเธอนั้น ทำให้กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างล้นหลาม และผู้คนจำนวนมากได้แสดงความเป็นห่วงในความปลอดภัยของเธอ ว่าอาจจะร้ายแรงถึงขั้นไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตนเองได้ โดยทาง “ฮาน เลย์” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธออาจจะอยู่ที่ประเทศไทยไปก่อนสักระยะหนึ่ง เพราะหากกลับไป เธอคงถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษจากรัฐบาลทหารเมียนมาร์

และล่าสุดทางผู้อำนวยการกองประกวด Miss Grand International “คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ได้ออกมาเผยว่า ตอนนี้ “ฮาน เลย์” อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเข้ามารับผิดชอบดูแลทุกอย่างขณะอยู่ที่ประเทศไทยเพื่อตัดความเสี่ยงทุกอย่าง โดย “ฮาน เลย์” จะอยู่ที่ประเทศไทยต่ออย่างน้อย 2 เดือน จะอยู่ที่โรงแรม มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด คอยขับรถให้เวลาไปไหน และ “ฮาน เลย์” จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับทีมมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย

ส่วนใครที่อยากติดต่อกับ “ฮาน เลย์” สามารถติดต่อได้ผ่านทางอินสตาแกรม จะมีเบอร์ผู้ประสานงาน และจะมีเจ้าหน้าที่กองประกวดคอยกลั่นกรองก่อนเพื่อความปลอดภัย และหลังจากครบกำหนด 2 เดือนจะหาทางให้น้องกลับประเทศอย่างปลอดภัย และตอนนี้ได้แต่งตั้งให้ “ฮาน เลย์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนางงาม และจะมอบรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระหว่างที่เธอเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์หลังหักค่าใช่จ่ายแล้วให้แก่เธอด้วย