ติ๊ก อดีตภรรยา หนุ่ม ศรราม เปิดใจ ไม่จำเป็นต้องแย่งลูกในชั้นศาล


ให้คะแนน


แชร์

2 เม.ย. 2564 11:18 น.

หัวอกของคนเป็นแม่ ย่อมคิดถึงและห่วงลูกอยู่แล้ว เมื่อพูดๆ ถึงลูกสาว น้องวีจิ ก็น้ำตาซึม จึงถึงร้องไห้ไปแล้ว ติ๊ก กนิษฐรินทร์ อดีตภรรยาของพระเอกดัง หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ หันมารับงานแสดงใหม่อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานมากๆ ได้ร่วมเล่นในซีรีส์แนวสยองขวัญเรื่อง มั่งมีศรีศพ โดยเพิ่งมีการเปิดตัวไปแล้วที่ โรงหนังเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซา อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 

ข่าวแนะนำ

ติ๊ก กนิษฐรินทร์ ให้สัมภาษณ์กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ “เรื่องลูกเป็นไปตามที่ตกลง ได้เจอลูก อาทิตย์ละครั้ง” อยากจะขอเพิ่มวัน ได้เจอลูกสาวอีกมั้ย? “โห!!! ถ้าได้แบบนนั้นก็ดีค่ะ หัวอกความเป็นแม่เนอะมันจะปลื้มปริ่มมาก แต่เราก็เข้าใจได้ว่า สิ่งที่เราได้ทำมาหนักอยู่เหมือนกัน ในความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย ในส่วนตัวเราก็ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ในความเป็นแม่แหละ อยากนอนกอดลูกได้ค่ะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็ได้ ก็รอเวลาอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพี่หนุ่มตัดสินใจค่ะ ต้องเป็นไปแบบนั้น”

เคยคิดอยากจะฟ้องร้อง เพื่อได้สิทธิ์ดูแลลูกมั้ย? “คนเราเคยรักกัน ถูกมั้ยค่ะ วันนี้เราแยกทางกันเดิน มันไม่จำเป็นต้องมาฆ่าฟันกัน แย่งลูกในชั้นศาลนะคะ ติ๊กคิดว่า ยืนบนพื้นฐานของความรักคือ ไม่ต้องเป็นผัวเมียกันก็ได้ แต่ติ๊กก็ยังรักและเคารพพี่หนุ่มอยู่เสมอเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น ติ๊กรอให้พี่หนุ่มได้มีความไว้วางใจเรา แล้วก็เห็นใจเรา ที่ลูกจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา

“คือเราได้ทำความไว้วางใจ ที่มีต่อเราหมดลงไป ตอนนี้พี่หนุ่มคิดว่า ยังไม่วางใจเรา ลูกอยู่กับเราจะเป็นยังไงมั้ย หรืออะไรยังไง เอาเป็นว่า เป็นไปตามขั้นตอน ถ้าสเตปนั้นนานเกินไป เราค่อยมาคุยกันอีกที”

เคยมีการพูดคุยกัน ถึงเรื่องเงื่อนไขระยะเวลา ของการปรับปรุงตัวเราบ้างมั้ย ว่าจะเท่าไหร่ กี่เดือน กี่ปี จึงจะโอเค? “อันนี้หนูก็ไม่ทราบจริงๆ พูดตามความจริงเลยนะ จริงๆ หนูก็อยากจะทราบเหมือนกัน เมื่อไหร่ ยังไง การที่เราจะแก้ไขตัวเอง อยากไปรู้เลยว่า จะมีกำหนดเวลาเมื่อไหร่ อย่างไร เพราะหนูรู้จักพี่หนุ่ม ว่าไม่ใช่คนใจร้าย ถ้าวันหนึ่งหนูแก้ไขตัวเอง เป็นแม่ที่ดีได้ วันนั้นลูกจะได้นอนกับหนูแน่นอน แต่ว่ามันก็ดีขึ้นตามลำดับขั้นตอน

“หนูไม่ได้หายไปไหน อยู่ในโซเชียลตลอด จากเมื่อก่อน มีคนด่าเต็มเลย แต่ตอนนี้มีคนให้กำลังใจ มีผู้ใหญ่ให้โอกาสให้งานทำ หนูมีความรู้สึกว่า มีแรงมีกำลังใจมากขึ้น ต้องขอบคุณด้วยค่ะ เรื่องลูกอยู่ในลมหายใจเข้าออก หนูเป็นแม่คนเนอะ รักลูกอยู่แล้ว (น้ำตาซึม)”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2062011
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2062011