‘แอน’สวยแซ่บวัยเลข5 ชีวิตสนุกกว่าสมัยเป็นสาว


ให้คะแนน


แชร์

คอลัมน์ สกู๊ปบันเทิง

‘แอน’สวยแซ่บวัยเลข5 – สาวสวยอมตะ ‘แอน’ สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ที่วัยเลข 5 นำหน้าแต่ยังคงสวย แซ่บทุกองศาและมีความสุขกับชีวิต ซึ่งวันนี้เจ้าตัวมีเคล็ดลับดีๆ มาบอก

แถมไม่ได้มาคนเดียว แต่ควงคู่สามี ‘จัสติน’ มาเปิดเผยมุมมองเรื่องรักอีกด้วย

อัพเดตชีวิตตอนนี้?

แอน – “ก็เรื่อยๆ บทบาทการแสดงเปลี่ยนไป ตอนกลับมาใหม่ๆ เกร็งเหมือนกัน สมัยนั้นแอนถ่ายหนัง ละคร โชว์ตัวแค่นั้น แต่สมัยนี้นักแสดงมีอาชีพเสริม สังคมตอนนั้นยังไม่มีโซเชี่ยล ก่อนที่แอนจะกลับมาก็ปรับตัวเยอะ ต้องศึกษาว่าเด็กเจน Z เขาทำอะไร ใช้ชีวิตยังไง แอนมองว่าทุกอย่างเปลี่ยน ไม่มีอะไรอยู่นิ่ง เราเองต้องปรับให้เข้ากับยุค เข้ากับโลก”

การใช้ชีวิตแตกต่างขนาดไหน ระวังตัวมากขึ้นจากเมื่อก่อนที่ยังไม่มีโซเชี่ยลมั้ย?

แอน – “ไม่ขนาดนั้น แอนมองว่าคนปัจจุบันต้องการความจริง จะทำโน่นนี่สร้างกระแสให้ดูดีไม่ได้แล้ว เขาจะยอมรับเราในบทบาทไหน ถ้าเป็นความจริงมันก็เป็นความจริงวันยังค่ำ”

ทำไมเลือกไปอยู่ต่างประเทศพักหนึ่ง?

แอน – “เป็นขาลง หมดจากการเป็น นักแสดง เป็นตัวเอก ก็เปลี่ยนบทบาทเป็นพิธีกร เป็นเหมือนช่วงวัยจังหวะล้นกับอาชีพการแสดง อิ่มตัวมากๆ อยากลองอะไรที่ไม่เคยบ้าง เลยตามไปดูแลลูกที่โน่น เป็นเรื่องท้าทายและตื่นเต้นมาก ไปใช้ชีวิตที่ไม่เคยได้ใช้ ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษ กว่าจะปรับตัวได้ก็ 2-3 ปี”

ได้กลับมาทำงานในวงการอีกครั้ง พร้อมสิ่งแปลกใหม่?

แอน – “ใช่ค่ะ กลับมาก็รับบทนางร้าย (หัวเราะ) พลิกดีค่ะ ได้มีโอกาสเป็นคอมเมนเตเตอร์ ได้ทำอะไรใหม่ๆ จากนั้นก็เป็นตัวร้ายมาตลอด แสดงว่าหน้าให้ (หัวเราะ) มุมมองวิธีคิดเปลี่ยนเลย ตอนเป็นนางเอกห่วงสวย แต่พอเป็นนางร้ายปุ๊บ รู้สึกว่าจะเล่นยังไงให้คนจำว่าการแสดงของเรามันฉีกไป”

ในไอจีช่วงหลัง มีลงภาพเซ็กซี่มาก?

แอน – “ใช่ แอนรู้สึกว่าปัจจุบันผู้หญิงวัย 50 ไม่จำเป็นต้องมีไลฟ์สไตล์แบบเดิมๆ เราใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ สิ่งที่ผ่านมามันหล่อหลอมให้เราโตขึ้นและเรียนรู้ว่าจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มันสนุกกว่าตอนเป็นสาวๆ มากเลย ตอนสาวๆ กังวลโน่นนี่”

คนชมว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไรแอนได้ มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ยังสวยแซ่บได้ขนาดนี้?

แอน – “แอนว่าวิธีคิดค่ะ พออายุเลข 5 เราสามารถมีความสุขแล้วดำเนินชีวิตให้ไร้กังวลได้ อาหารการกินก็คงต้องระวังมากขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นซีเรียสว่าอันนั้นอันนี้กินไม่ได้ และออกกำลังกายบ้าง สิ่งที่แอนดูแลมันเกี่ยวกับการปรับฮอร์โมนด้วย ผู้หญิงที่จะก้าวสู่วัยทองต้องดูแล เพราะร่างกายกับสมองลิงก์กัน ถ้าเราไม่เครียดมาก เราก็ดำเนินชีวิตต่อไปง่ายๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุข แอนว่าแค่นี้พอแล้ว”

ผลงานล่าสุด โฟโต้บุ๊ก?

แอน – “พออายุ 50 เป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้แอนเป็นแอน เลยอยากทำอะไรที่บ่งบอกว่าสาวอายุ 50 ยังใช้ชีวิตสนุกๆ ได้ อยากทำให้คนที่รักแอน ชื่อหนังสือ The Proposal บ่งบอกถึงตัวเราเอง แบบขอแม่แซ่บหน่อยเถอะ (หัวเราะ)”

ถามถึงความรักปัจจุบัน เจอกันกับคุณจัสตินได้ยังไง?

แอน – “เจอกันที่แทมเมอรีนรีสอร์ต แอนไปเช่าพัก เขาไม่รู้ว่าเป็นดารา เข้ากันได้ไลฟ์สไตล์เหมือนกัน จริงๆ ต้องบอกว่าตอนแรกไม่ชอบฝรั่งเลย รู้สึกเหมือนมนุษย์ต่างดาวหรืออะไรสักอย่าง ไม่เหมือนเรา แล้วตัวเองเป็นลูกครึ่งโดนล้อมาตลอด เลยไม่ชอบ แต่เขาเป็นฝรั่งบุคลิกไทย จากไม่ชอบก็อยากคุย อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วย คุยไปมาก็ได้เป็นสามีเลย”

จัสติน – “ผมใช้เวลา 2 ปี เธอไม่รับโทรศัพท์ผม แล้วเราไปเจอกันโดยบังเอิญที่ลอนดอน ในสวนสาธารณะ ไม่ โรแมนติกเลย เพราะเราเหงื่อออก หลังจากนั้นแน่นอนคำตอบก็คือใช่”

แอน – “ไปจ๊อกกิ้งเจอกัน เขาตัวเลอะเหงื่อแตก นี่เองก็หน้าสด ก็แลกเบอร์กันที่อังกฤษ มีนัดทำนู่นทำนี่ รู้สึกแฮปปี้มีความสุขค่ะ”

จัสติน – “เจอกันเดือนม.ค. 2010 แล้วเจอกันอีกทีอีก 2 ปีครึ่ง แล้วหมั้นเดือนพ.ย. 2014 อันนั้นเป็นไฮไลต์ผมเอ็น จอยมาก แล้วฉลองงานแต่งที่ลอนดอน”

แอน – “เขาชอบงานหมั้น จัดที่ไทยนี่แหละ และไปฉลองงานกลางคืนที่อังกฤษ แต่อันนั้นแอนชอบ สลับกัน คนละบรรยากาศ”

วัฒนธรรม ศาสนาไม่เป็นอุปสรรค?

แอน – “ไม่ค่ะ ค่อนข้างราบรื่น เป็นความรักที่โตแล้ว ไม่มีเรื่องหึงหวง มีแต่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยังไงให้มีความสุข ซึ่งเราก็เห็นตรงกันว่าความรักที่ถาวรที่จะทำให้อยู่กันไปจนแก่เฒ่าคือการให้อภัย สิ่งสำคัญคือรักเดียวใจเดียว เน้นความซื่อสัตย์ต่อกัน”

เวลาเห็นรูปเซ็กซี่เขามีฟีดแบ็กยังไง หวงบ้างไหม?

แอน – “เขาไม่ชอบลุกส์เซ็กซี่”

จัสติน – “ผมชอบลุกส์สวยสง่าของเธอมากกว่า”

แต่งงานกันมายังคงความสวีตยังไงกันบ้าง?

จัสติน – “เป็นการผสมผสานที่ดีระหว่างไทยกับยูเค คุณชอบความเป็นส่วนตัวตอนอยู่ที่ลอนดอน ได้เปลี่ยนวิวทิวทัศน์ ชอบฤดูกาลที่นั่น เคยไม่ชอบหนาว แต่คุณเริ่มชอบอากาศหนาวแล้ว”

แอน – “ที่ทำให้ความรักดูสดชื่นตลอดเวลา น่าจะเป็นเพราะเดินทางบ่อย การใช้ชีวิตที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา เป็นการดูแลซึ่งกันและกัน แอนว่ามันมีความหมายมากกว่าคำว่าแก้เบื่อ ไม่ใช่ว่าทุกการเดินทางจะราบรื่น มันต้องเจออะไรต่างๆ นานา”

“ชีวิตตอนนี้ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองเป็นหลัก แต่ที่แน่ๆ คือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ให้เราสามารถเรียนรู้และอยู่ในโลกปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ขอให้พวกเรามีความสุขกับมัน อย่าไปเครียดมาก เดี๋ยวมันก็ต้องผ่านไป มันต้องมีวันฟ้าใสสำหรับโลกใบนี้เร็วๆ นี้ ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนมากกว่าค่ะ”

วีรนุช จันทำ

พลเทพ สารภิรมย์

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6280133
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6280133