‘จีน่า’พิสูจน์ตัว-รอวันปังเครียดเจอบทหนักชีวิตดำดิ่ง


ให้คะแนน


แชร์

คอลัมน์ อาทิตย์ใส

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

‘จีน่า’พิสูจน์ตัว-รอวันปังเครียดเจอบทหนักชีวิตดำดิ่ง – นางเอกสาวดาวรุ่งช่อง 3 ‘จีน่า’ ญีนา ซาลาส ลูกครึ่ง ไทย-คิวบา ก้าวข้ามความท้าทาย พิสูจน์ฝีมือแสดงกับบททนายความสาว ‘ปลายฝน’ ในละคร “บาปอยุติธรรม” ประกบคู่พระเอกสายเกรียน ‘บอย’ ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

ซึ่งกว่าจะผ่านบทบาทดังกล่าวมาได้เธอต้องเสียน้ำตากับความยากลำบากและความกดดันมากขนาดไหน ไปฟังกัน

เรื่องนี้เรียกว่าได้รับบทบาทท้าทายความสามารถ?

จีน่า – “ค่ะ ท้าทายมาก ในเรื่องรับบท ปลายฝน เป็นทนายจบใหม่ที่ต้องไปช่วยพระเอกออกจากคุก เพราะเป็นปมในใจเรา เมื่อ 11 ปีก่อน ที่ยากเพราะเป็นทนายด้วย และท่าทางคำพูดของการเป็นทนายต้องเป๊ะทุกคำ ต้องถูกหลักของเขา ศัพท์กฎหมายต้องเป๊ะทุกอย่าง ยิ่งทำให้เราต้องทำการบ้านหนักมากๆ แล้วจะต้องศึกษา ไปดูซีรีส์ไปดูตัวละครที่คล้ายคลึงตัวปลายฝน ปลายฝนจะไม่ใช่สาวทนายมั่นๆ แค่นั้น แต่จะมีอะไรข้างในใจ ความรู้สึกสีหน้าแววตา เป็นตัวละครที่เก็บความรู้สึกค่อนข้างเยอะ เราอยากจะแก้ปมในใจเราให้จบ ก็คือไปช่วยพระเอกออกมาแค่นั้น แต่พอไปช่วยแล้วมันไม่จบ ดันไปเชื่อมโยงกับ พี่บอมบ์ (ธนิน) พี่โยเกิร์ต (ณัฐฐชาช์) เชื่อมโยงพี่ชายเรา คือพี่กวาง (เอบีนอร์มอล) เชื่อมโยงทุกคน กลายเป็นว่าเราเป็นจุดศูนย์กลาง ต้องเก็บความลับทุกอย่างไว้เยอะมาก ทำให้ตัวละครนี้ ทุกครั้งที่เจอพระเอกจะรู้สึกผิดในใจตลอดเวลา ถึงช่วยเขา ออกมาได้แล้วแต่ก็ยังมีความลับที่บอกเขาไม่ได้ กลายเป็นว่าพอมา มีความรู้สึกรักกันจะเหมือนโทษตัวเองตลอดเวลา มีความซับซ้อน ทางอารมณ์เยอะพอสมควร”

เห็นว่าเราโดนดุเยอะเหมือนกัน?

จีน่า – “เยอะค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่มันเป็นตัวละครที่ ค่อนข้างโหดพอสมควร เราเองก็ใหม่มากๆ ไม่เคยเจอละครที่นางเอกเป็นตัวดำเนินเรื่อง ปกติเล่นมานางเอกจะดำเนินตามหลังพระเอกตลอด หรือเป็นตัวประกบพระเอก แต่พอต้องเป็นตัวที่อยู่ตรงกลางก็ดำเนินเรื่องไปด้วยพร้อมๆ กับตัวพระเอกมันยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ความเป็นทนายกับสาววัย 21 ปีมันดูไกลตัวมากๆ แล้วตัวเราไม่ได้บุคลิกเรียบร้อย เวลาไปถ่ายก็ต้อง คีพตัวเองนิดนึง ก็จะโดนดุช่วงแรกๆ ที่ยังไม่เข้าใจตัวละคร”

“แต่หนูเข้าใจสไตล์การทำงานของพี่แอ้ว (อำไพพร จิตต์ไม่งง) ไม่ได้รู้สึกว่าการที่เขาดุเขาสอนเป็นสิ่งไม่ดี มันเป็นสิ่งดีหมดเลยด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่พี่แอ้วต้องมากำกับละครบู๊ คือทุกคนใหม่หมด เราก็ใหม่ พี่แอ้วก็ใหม่ เราจะต้องหาจุดจูนเข้าหากัน พี่แอ้วเป็นคนพูดตรง พูดแรง แต่เขาไม่ได้คิดอะไรหรอก เขา หวังดี ตัวเราบางทีก็เก็บเอาไปคิดไปเครียด บางวันกินข้าวไม่ลง สงสารตัวเอง มันมีฟีลถึงขั้นไปนั่งร้องไห้คนเดียวเลยนะ เครียดมาก กดดันมากเราเป็นมือใหม่ด้วย ไม่อยากทำให้ทุกคนช้า”

“แต่โชคดีที่คนรอบข้างรอบตัวให้กำลังใจ อย่างพี่บอย (ปกรณ์) จะให้กำลังใจหนูตลอด เขาจะบอกไม่เป็นไร จะเทกกี่รอบจะพูดผิดเล่นไม่ถูกใจพี่แอ้วกี่รอบ เอาจนกว่าพี่แอ้วจะโอเค ทำไปเลย พี่โอเคทุกอย่าง เขาจะคอยเซฟเราอยู่ห่างๆ พอเลิกกองเขา เริ่มรู้แล้วว่าเราเริ่มนิ่งเริ่มเงียบ คือช่วงแรกๆ หนูจะสดใส แต่พอเครียดมากๆ กลายเป็นสดใสไม่ออก พอโดนดุปุ๊บจะลืมทุกอย่าง ลืมบทอะไรหมดเลย วิตกกังวลเองไปอีก วันไหนที่เรานิ่งเงียบ ข้าวไม่ค่อยกินดู สะโหลสะเหลเริ่มไม่ไหวแล้ว เขาก็จะทักมา พี่เข้าใจน้องนะ มันยาก อยากให้สู้ๆ แล้วหนูไม่พิมพ์อะไรกลับไป ถ่ายรูปร้องไห้ส่งไปให้เขาดู (หัวเราะ) อ้อนพี่ชาย เราไม่รู้จะไปอ้อนใคร ก็อ้อนพี่บอย”

ถึงกับกินข้าวไม่ลง อยู่ในอารมณ์นั้นนานไหม?

จีน่า – “พักใหญ่ๆ เลยค่ะ ประจวบกับหนูเปิดกล้องเรื่องใหม่ พิศวาสฆาตเกมส์ พอดี ที่เล่นคู่กับพี่เจมส์ จิรายุ เล่นเป็นโรคซึมเศร้า แม่ตายต่อหน้าต่อตา พอโตขึ้นมาอาการกำลังดีขึ้น กำลังจะได้แต่งงานมีครอบครัว แฟนโดนรถชนตายอีก กลายเป็นแผลซ้ำเศร้ามากจุดดิ่งในชีวิตแทบจะเหมือนเป็นโรคจิตพร้อมระเบิดตลอดเวลา แล้วมาเจอเรื่องนี้อีก ถ่ายควบกัน 2 เรื่อง น้ำหนักจาก 50 กว่า เหลือ 46 กิโลฯ ชุดหลวมไปหมดเลย แต่พอมันเข้าที่ จับจุดได้ เริ่มรู้ว่าตัวปลายฝนจะต้องไปในแนวทางไหน พี่แอ้วก็จะไม่เคี่ยวเหมือนตอนแรกๆ แล้ว พอเขารู้ว่าเราทำได้ เริ่มจับตัวละครได้ไปในแนวทางที่เขาต้องการ เทกสองเทก ก็ผ่านแล้ว พอถูกใจเขาก็คือพอแค่นั้น”

ช่วงที่เจอบทหนักๆ ทั้ง 2 เรื่อง ทำให้อารมณ์ในชีวิตจริงดำดิ่งลงไหม?

จีน่า – “โอ้โห ที่สุดค่ะ กลายเป็นคนเศร้าไปเลย คนรอบตัวสัมผัสได้ แม่ พี่ชาย บางทีกลับไปนอนร้องไห้คนเดียว ด้วยความที่เรากดดันด้วยแหละ ยิ่งทำให้เศร้าไปกันใหญ่ แต่ดีที่คนที่บ้าน คอยเชียร์ ไม่เป็นไรลูก แม่เชื่อว่าหนูทำได้ คุณแม่หนูสายให้ กำลังใจสายเชียร์อยู่แล้ว อย่าไปกลัวแค่นี้เอง”

ผ่านจุดนั้นมาได้ เห็นการพัฒนาฝีมือทางการแสดงหรือการเติบโตของตัวเองยังไงบ้าง?

จีน่า – “หนูจำวันที่ปิดกล้องตัวละครปลายฝนได้ หนูร้องเฮ้อออกมาดังๆ เลย (หัวเราะ) ในที่สุดสิ่งที่เราตั้งใจ สิ่งที่ผ่านมามัน ได้เสร็จสิ้น สิ้นสุดลงแล้ว ถึงสถานีของมันแล้ว จากที่เดินทาง กันมายาวนานตลอดทั้งปี พอถึงวันที่เราถ่ายเสร็จ มันโล่งมาก พี่หนุ่ม กฤษณ์ ผู้จัดบอกว่าออกมาดี เรายิ่งใจชื้นขึ้นมาเลย อย่างน้อยสิ่งที่เราโดนว่าโดนดุโดนสอน พอภาพออกมาดี หนูเข้าใจที่เขาดุ เพราะด้วยความที่หนูใหม่ แล้วเขาไม่อยากให้เราออกไปด้วยความรู้สึกแบบเด็กใหม่ได้แค่นี้เหรอ เขาอุตส่าห์ให้โอกาสได้เล่นกับพระเอกเบอร์ต้นๆ ทำไมได้แค่นี้ เขาก็ฝากความหวังไว้ที่เรา เราต้องทำให้เต็มที่”

เป็นนางเอกได้ร่วมงานกับพระเอกฮอตๆ ตลอด?

จีน่า – “ก็ได้รับโอกาสที่ดีค่ะ ถือว่าผู้ใหญ่รักและเอ็นดูมากๆ ดีใจมากๆ ค่ะ เพราะจะมีสักกี่คนที่ได้รับโอกาสแบบนี้”

หลายคนอิจฉาเรา เป็นนางเอกแต้มบุญสูง ประกบพระเอกหล่อฮอตของช่อง 3 ทั้งนั้นเลย คนแซวเยอะไหม?

จีน่า – “เพื่อนจะชอบกรี๊ด ได้เล่นกับพี่เจมส์ จิรายุ พี่บอย ปกรณ์ ให้เป็นสแตนด์อินให้มั้ย (หัวเราะ) เราก็บอกไม่ต้องๆ เล่นเองได้”

เล่นกับพระเอกฮอต บทที่ได้รับก็โหด มองว่าหนักไปไหมกับเราที่ยังเป็นนางเอกใหม่?

จีน่า – “ช่วงแรกกดดันค่ะ มันมีความ คาดหวังฝากไว้อยู่ ตรงไหล่เราค่อนข้างเยอะ เป็นเดอะแบกค่อนข้างเยอะพอสมควร แบกความหวังของผู้ใหญ่ ความหวังของครอบครัว ความหวังของทุกคน ทุกอย่างมันจะแบกกันอยู่ตรงนี้ ช่วงแรกๆ ก็คิดนะว่ามันไม่เปรี้ยง มันไม่ปัง หรือว่ามันเป็นเพราะเรายังไม่โอเคหรือเปล่า แต่พอคิดไปคิดมา หนูว่ามันอยู่ที่จังหวะ วันหนึ่งใครจะไปรู้อยู่ๆก็ดัง มันไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าเราเล่นเรื่องนี้แล้วจะดัง มันอยู่ที่จังหวะที่ช่วงเวลา หนูเพิ่งจะ 21 ยังไปได้อีกไกล ถือว่าได้โอกาสดีเราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด แค่รอจังหวะและโอกาสที่มันจะมา แค่นั้น”

เรามองบวก ไม่ได้น้อยใจว่าผลงานที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เปรี้ยงปร้าง?

จีน่า – “ไม่ค่ะ ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร เพราะตัวเราเองยังได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในช่องอยู่ คนที่อยู่รอบตัวเรา เขายังให้โอกาสยังสนับสนุนคอยผลักดันเรา เพราะเขาเห็นถึงความตั้งใจหลายๆ อย่างในตัวเรา ถือว่าเราได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในส่วนหนึ่ง แต่ในเรื่องการแสดงมันเป็นเรื่องของการใช้เวลาไปเรื่อยๆ มันอยู่ที่จังหวะ ถ้าบทมันใช่ เวลามันใช่ ทุกอย่างลงตัว สักวันหนึ่งต้องเป็นวันของเรา เราก็รอ เราจะไม่อยู่อย่างนี้แน่นอน”

ถามเรื่องหัวใจ มีหนุ่มมาจีบหรือมีหนุ่มคุยแล้วหรือยัง?

จีน่า – “ไม่มีเลยค่ะ คือมีคนเข้ามาคุย ทักทายเซย์ไฮตลอด แต่ยังไม่คลิกกับใคร แค่รู้สึกว่ายังไม่ใช่ก็เลยยังไม่ไปดีกว่า ทำงานไปก่อน ตัวหนูเองติดแม่ติดที่บ้าน รู้สึกว่าการมีแฟนอาจจะ หายเหงาบ้างในบางเวลา แต่สิ่งที่เติมเต็มจริงๆ คือครอบครัว ยังไม่มีก็ได้ แต่ก็มีคุย วัยรุ่นก็คุยกันนิดๆ หน่อยๆ หอมปาก หอมคอกันไป”

มีหนุ่มมาจีบเยอะไหม เฟรนด์ลี่แบบนี้?

จีน่า – “อาจจะดูเหมือนเฟรนด์ลี่นะคะ แต่จริงๆ เวลาไปเจอคนแปลกใหม่ คนที่ไม่รู้จัก เพิ่งเจอครั้งแรก หน้าหนูจะนิ่งเก็บทรงทันที อยู่ๆ ก็มีมาดขึ้นมา ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ง้องๆ แง้งๆ บ๊องแบ๊งอย่างนี้ (หัวเราะ) อาจเพราะด้วยความที่เราอยากให้เฟิร์สต์ อิมเพรสชั่นมันดี ไม่อยากไปแบบเฮฮา ให้เขาคิดว่าอะไรอ่ะ เจอครั้งแรกก็แบบนี้เลย เมื่อก่อนจะคีพลุกส์ไว้ แต่เดี๋ยวนี้ช่างมัน เป็นยังไงก็เป็นอย่างนี้แหละ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ”

ผู้ชายแบบไหนที่ทำให้เราเก็บทรงไม่อยู่?

จีน่า – “ตายแล้วแบบไหนนะ หนูชอบคนพูดเพราะ ไม่ชอบคนพูดเสียงดัง ชอบคนมีมารยาท เอาจริงๆ ไม่ได้ว่านะ บางคนที่เคยเจอมาเขาไม่มีมารยาทจริงๆ เขาจะโหวกเหวกโวยวาย มันไม่ได้จริงๆ ความหล่อของคุณจะหายไปทันทีถ้าคุณเป็น แบบนั้น”

แล้วอย่างพระเอกที่ร่วมงานด้วย มีมาจีบมาหยอดบ้าง หรือเปล่า?

จีน่า – “ไม่มีค่ะ ส่วนใหญ่พี่ๆ เขาก็เล่นกับหนูง้องแง้งๆ กันไป คือเรายังเด็กด้วยแหละ การที่พี่ๆ เขาจะมาอะไรกับหนูมันก็เป็นความเสี่ยงระดับหนึ่ง ต่างคนต่างต้องเซฟตัวเอง”

แพลนอนาคตตอนนี้วางไว้ยังไง?

จีน่า – “ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน เพิ่งถ่าย บาปอยุติธรรม จบไป มีแพลนจะกลับไปเรียน เพราะดร็อปไว้ หนูเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต ตอนนั้นถ่ายละคร 2 เรื่อง มันไม่มีเวลาจริงๆ เลยพักไว้ก่อน ตอนนี้เพิ่งว่างก็จะกลับไปเรียน คิดว่าให้สัก 4 ปีครึ่ง ถ้าทำได้นะคะ หนูไม่ได้ซีเรียสว่าต้องจบตอนไหนหรือต้องรีบจบ คือให้ทำงานได้ด้วยเรียนไปด้วย ไม่ได้เสียอย่างใดอย่างหนึ่งไป ให้มันควบคู่กันไปค่ะ”

วีรนุช จันทำ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6338762
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6338762