แอปเปิ้ล ชี้แจงหลังสามีตัดพ้อ บอกได้รับผลกระทบ ยาหมดอายุใช้งานไม่ทัน


ให้คะแนน


แชร์

ล่าสุด แอปเปิ้ล สีสะเหงียน สีหาราช ภรรยาคนสวยของหนุ่มฟลุคก็ได้ออกมาชี้แจงอีกครั้ง โดยเธอให้รายละเอียดว่า

ข่าวแนะนำ

“ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆกำลังใจนะคะ ตอนนี้ทุกคนแย่หมด รวมถึงพวกเราด้วยค่ะ จะบอกว่ามีคนที่แย่กว่าเราแล้วให้เรานั่งไม่ทำอะไรเลย ให้สบายใจกับสถานการณ์นี้แล้วก็ยอมรับชะตากรรมก็คงไม่ได้

ตอนนี้เครียดและวางแผนรับมือทุกอย่างเพื่อครอบครัวและพนักงานของพวกเรา ทุกคนมีพี่ฟลุคเป็นต้นไม้ใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลในบริษัทมาตลอดหลายปี เราเจอสถานการณ์นี้มา 1 ปีกว่าแล้วค่ะ เราพยุงมาจนถึงตอนนี้ อย่าบอกว่าทำกำไรเลยค่า

เอาเป็นว่า ทำให้ทุกคนอยู่รอดมากกว่า ตอนนี้พี่ฟลุคและเราทุกคนทำทุกอย่างที่ทำได้พยายามช่วยพนักงานก่อน support แมสก์ support แอลกอฮอล์ ซื้อประกันโควิดให้พนักงานทุกคน

ทำกับคนอื่นพี่ฟลุคก็ทำนะคะ ล่าสุดซื้อชุด PPE 100 ชุด ส่งให้หมอ และเรากำลังติดต่อส่งน้ำโนแคลไปให้กำลังใจหมอและพยาบาลอีกหลายโรงพยาบาล แต่เราอาจจะไม่ได้ประกาศอะไร

คือเราทุกคนพยายามมากๆ แล้วจริงๆ พอโดนสั่งปิดร้าน ก็เข้าใจดี และยินดีมากๆ ที่จะให้ความร่วมมือ แต่ตัวยาของคลินิกเรา ไม่ได้เปิดได้นาน และเราใช้ยาที่ใหม่เสมอ

และ 14 วันที่จะต้องปิดร้านก็เลยทำให้ยาหมดอายุเยอะมากค่ะ เพราะประกาศเพียง 1 วัน เตรียมการอะไรไม่ทันทั้งนั้น

เรามีเวลาจัดการ 1 วัน เบรกซื้อของทั้งหมดแทบไม่ทัน ทันบ้างไม่ทันบ้าง ตัวยาที่เปิดพร้อมใช้งาน ต้องฉีดให้พนักงานทั้งหมด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่งั้นก็ต้องทิ้ง เพราะเราต้องรีบเคลียร์ การตัดสินใจที่ต้องมาทันทีว่า

พนักงานแต่ละคนสแตนบายทำงานที่บ้าน ต้องทำอะไรล่ะ เพราะปกติต้องรับลูกค้า แล้วอยู่บ้านทำไรดี ตอบไลน์@ช่วยพี่ๆ ละกัน แล้วกี่คนที่จะมานั่งช่วยตอบ มันไม่มีอะไรให้เค้าทำจริงๆ

ปกส ให้พนักงาน 50% ของจำนวนวันที่สั่งปิด แต่นั้นก็แค่ค่าแรง มันมีรายได้พวกคอมมิชชั่นต่างๆ อีกเยอะแยะมากมาย ที่พนักงานขายหายไป เพราะเราก็ไม่ได้เปิดร้าน เท่ากับยอด 0 บาท แล้วในนามคนที่ต้องตัดสินใจทั้งหมด จะตอบพนักงานยังไงให้ทุกคนโอเคที่สุด

ค่าเช่าอีก ต่อมาก ก็โดนเจ้าหน้าที่ห้างหงุดหงิดใส่เหมือนไปขอเงินเค้า ทั้งๆ ที่เหตุผลก็เห็นๆ กันอยู่ ตอนนี้เปิดเหลือแค่สาขาอุดร ซึ่งเราก็โดนกระทบอย่างหนักมากว่า 1 ปี เพราะด่านลาวปิด และยังไม่มีกำหนดเปิด การแบกความหวังของคนหลายๆ คนไว้ มันเครียดและหนักมากจริงๆ”

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจค่ะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน เป็นคำพูดที่พูดกับพนักงานและครอบครัวและคนที่เราให้กำลังใจเสมอ แต่พูดครั้งนี้รู้สึกพูดได้เบาลงเรื่อยๆ เพราะทำไมมันไม่ผ่านไปสักที สู้ๆ”

พร้อมกับระบุแคปชั่นไว้อีกว่า “เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งให้ครอบครัวเรานะคะ ตอนนี้ส่วนตัวเราเรายังโอเคมากๆกับชีวิตและเลี้ยงลูกอ้วงๆ อีก2คน

แต่ก็เครียดคือเครียดแทนพนักงานและธุรกิจมากๆ เพราะเราคือความหวังของเค้า มันหนักตรงนี้ แล้วที่บอกเราเป็นความหวังของเค้าเนี่ย มันเจ็บใจตรง เราก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะดีที่สุดก็แค่เท่านี้

พอร้านปิด ก็คือ แขนขาขาดไปแล้ว ตอนนี้ก็เปิดร้านออนไลน์ได้เท่านั้น เอาจริงๆ ตอนเปิดคลินิกก็ไม่ได้ว่าดีหรอกช่วงนี้ แต่อย่างน้อยๆ พนักงานเค้าได้มีอะไรทำ มีงานทำ มามีความหวังที่ร้าน

แต่งตัวใส่ยูนิฟอร์มมาทำงาน เดินทาง ได้มีการประสานงานพูดคุยกันทุกวัน มันก็ยังรู้สึกมีงานทำอ่ะมีความหวังในทุกๆวัน เห้อ ไม่เป็นไร 14 วันเอง ต้องสู้ไปด้วยกัน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2078050
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2078050