แม้ว่าพิธีประกาศรางวัลออสการ์ในปีนี้จะจัดขึ้นช้ากว่าปกติ 2 เดือน เนื่องจากต้องเลื่อนออกไปเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังไงก็ยังมาตามนัดประจำปีให้คนทำงานชุ่มชื่นใจและแฟนๆหนังทั่วโลกได้ร่วมลุ้น ซึ่งงาน ออสการ์ ครั้งที่ 93 นี้ ใช้สถานที่จัดงาน 2 แห่งคือ ดอลบี เธียเตอร์ และ ยูเนียน สเตชัน ในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา คืนวันที่ 25 เม.ย. ตรงกับช่วงเช้าวันที่ 26 เม.ย.ในไทย

แต่ถึงจะยังมีกระบาดของไวรัสโคโรนา นโยบายของงานมอบรางวัลออสการ์ปีนี้กลับสวนทางกับเวทีอื่นๆ ตรงที่ผู้เข้าชิงรางวัลต้องมาปรากฏตัวที่งานประกาศรางวัล ไม่มีการใช้แอปพลิเคชันซูม (Zoom) จากทางบ้านหรือสถานที่ส่วนตัวใดๆ ฝ่ายจัดงานก็ให้คำมั่นว่าจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดงานอย่างปลอดภัย และสร้างความสนุกสนานแก่ผู้เข้าชิงรางวัลที่มาร่วมงานปีนี้

และยังเป็นผู้หญิงคนที่ 2 เท่านั้นที่พิชิตรางวัลนี้ ส่วน ฟรานเซส แม็ค-ดอร์มานด์ นักแสดงนำหญิงของ “Nomadland” ก็ซิวรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไป ทำให้ดาราสาวชาวอเมริกันวัย 63 ปี มีรางวัลออสการ์ประดับตู้โชว์ที่บ้านเป็นตัวที่ 3 จะเป็นรองก็เพียงแคทารีน เฮปเบิร์น ที่ทำสถิติไว้ 4 รางวัล

สำหรับรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสร้างเซอร์ไพรส์เมื่อ เซอร์ แอนโธนี ฮอปกินส์ คว้าไปครองจากหนังเรื่อง “The Father” เอาชนะตัวเต็งผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างแชดวิก โบสแมน จากเรื่อง “Ma Rainey’s Black Bottom” ที่กำชัยมาจากหลายเวทีทั้งรางวัลขวัญใจนักวิจารณ์ (Critics Choice), ลูกโลกทองคำ และรางวัลของสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ หรือแซก อวอร์ดส์

แดเนียล คาลูยา

ด้านนักแสดงสมทบชายและหญิงก็เรียกว่าสะท้อนความหลากหลายของผู้เข้าชิงในปีนี้ ซึ่งรางวัล นักแสดงสมทบ ชายยอดเยี่ยม ได้แก่ แดเนียล คาลูยา จาก “Judas and the Black Messiah” ส่วน สมทบหญิงยอดเยี่ยม ยูน ยอ จอง นักแสดงฝีมือเชี่ยววัย 73 ปี คว้ารางวัลนี้ไปจากเรื่อง “Minari” สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงชาวเกาหลีคนแรกที่ประสบความสำเร็จบนเวทีออสการ์.

ยูน ยอ จอง