สิ้นสุดการแข่งขัน “IDOL PARADISE” รายการเรียลลิตี้ สเตจโชว์ เพื่อค้นหา THAILAND POP IDOL เกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มใหม่ของเมืองไทย จากค่าย วีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (VCM CORPORATION) ไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมประกาศ 9 คนสุดท้าย ซึ่งประกอบไปด้วย ฝัน ปนัสยา แอนเจลิก้า ดีมากด์, เพลง ศิริพักตร์ชา เวชกามาฐ, ปิ่น พัทธ์ธีรา แสงสุรีย์พรชัย, เจสซี่ เจสสิก้า มิลล์, เอมี่ เอมิกา เศรษฐศิริรัตน, ดีน่า สุริวัสสา วิวัฒน์วานิช, หมิงหมิง กันยากร นามบุญเรือง, พรีม ณัฐณิชา แสงมณี, โนเอมี่ โนเอมี่ ชมิเดอร์ เป็น The New Member “IDOL PARADISE” ได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด VCM CORPORATION เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกของค่าย พร้อมเดบิวต์ออกผลงานเพลงทันทีที่จบรายการฯ

คุณณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ชี้แจงถึงประเด็น การยกเลิกการแข่งขันรอบ Final รายการ IDOL PARADISE ว่า

“ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่แพร่ขยายไปในวงกว้าง จากวิกฤติโควิด-19 รายการ Idol Paradise ประสบมาตั้งแต่ครั้งแรก ในช่วงของการเริ่มต้นทำโปรเจกต์ จนมาถึงวันนี้ทางเราพยายามเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้ตัวรายการเดินหน้าถ่ายทำต่อไปได้

ตลอดระยะเวลาของการถ่ายทำรายการทีมงานทุกส่วนเต็มที่ เพื่อให้รายการออกมาดี และที่ผ่านมาผมและทีมงาน ก็ได้มองเห็นความมุ่งมั่น และตั้งใจของน้องๆ ทั้ง 9 คน เต็มที่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในคลาสเรียนร้อง เรียนเต้น หรือแม้กระทั่งการแข่งขัน

และด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการรวมตัว มันเลยทำให้เราตัดสินใจไม่ถ่ายทำรายการใน EP.13 ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศครับ เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยของน้องๆ เป็นสำคัญที่สุด

ถ้าถามว่า ทำไมเราถึงไม่เลื่อนการถ่ายทำ คือด้วยไทม์มิ่ง และโปรแกรมที่ระบุไว้กับทางช่อง 3 รายการ Idol Paradise ต้องออนแอร์ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งเป็น EP.13 รอบชิงชนะเลิศ ทางเราจึงไม่สามารถเลื่อนการถ่ายทำออกไปได้อีกครับ ประกอบกับเราไม่สามารถประเมินสถานการณ์ที่เราเจอกันอยู่ในเรื่องโควิด-19 ได้เลยว่าวันนี้ พรุ่งนี้ จะหนักไปกว่านี้ หรือจะมีอะไรที่เกิดขึ้นอีก

และล่าสุดได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ห้ามถ่ายทำภาพยนตร์และรายการทีวี ในระหว่างนี้ โดยมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ครับ

และในวิกฤติครั้งนี้ ผมมองว่ามัน ก็คือ เป็นโอกาส ทำให้ น้องๆ ทั้ง 9 คน คือ “ฝัน – เพลง – ปิ่น – เจสซี่ – เอมี่ – ดีน่า – หมิงหมิง – พรีม – โนเอมี่” ได้รับโอกาสให้ไปต่อ ผมมองเห็นความพยายาม เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ และศักยภาพของน้องๆ ทั้ง 9 คน ที่ได้พิสูจน์ตัวเองมาตลอดระยะเวลาของการแข่งขัน ซึ่งทั้ง 9 คนจะได้เซ็นสัญญาและร่วมทำโปรเจกต์มีผลงานเดบิวต์ออกซิงเกิลแรกกับ VCM CORPORATION เร็วๆ นี้แน่นอนครับ”

ทั้งนี้โปรเจกต์ ไอดอล พาราไดซ์ (IDOL PARADISE) ของประเทศไทยนั้น ก็เปรียบเสมือนเป็นที่แรกของโปรเจกต์นี้ เพราะจะมีการนำฟอร์แมตเดียวกันนี้ไปสร้างในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย

ไอดอล พาราไดซ์ เกิดขึ้นเพราะทีมงานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์กับค่ายเพลงที่มีชื่อเสียง เห็นความสามารถของเด็กไทย ที่มีทั้งความน่ารัก มีพัฒนาการที่ดี จนมองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาต่อไปได้

สำหรับโปรเจกต์ ไอดอล พาราไดซ์ (IDOL PARADISE) จึงเป็นการนำฮาวน์ทูของประเทศญี่ปุ่นที่ถนัดการสร้าง เกิร์ลกรุ๊ป หรือ ไอดอล มาผสมกับการดึงศักยภาพของเด็กไทยออกมาให้ได้มากที่สุด ชูความเป็น T-POP (THAILAND POP IDOL) ให้ออกไปสู่สายตาของสากล

โดยไม่ได้ทำการหานักร้องหรือนักเต้นเท่านั้น แต่ ไอดอล พาราไดซ์ (IDOL PARADISE) คือการหาเด็กสาวผู้มีความสามารถ ทั้ง ร้อง-เต้น-เล่น-แสดง รวมไปถึงงานพิธีกร และงานพากย์เสียงด้วย

โดย บริษัท ได นิปปอน พรินทติ้ง จำกัด (DNP – Dai Nippon Printing Co.,Ltd.) เป็นบริษัทอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2419 จนถึงปัจจุบัน ด้วยวิสัยทัศน์ที่พร้อมมุ่งมั่นที่จะบรรลุการเปลี่ยนแปลงและสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม โดยได้รับความสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรในวงการโทรทัศน์และวงการเพลงของญี่ปุ่น ได้แก่ ทีวี โตเกียว และ บริษัท เอเว็กซ์ แทร็กซ์ จำกัด

เพื่อการพัฒนาศิลปินไอดอลของเมืองไทยร่วมกับ บริษัท วีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นพันธมิตร จากการเล็งเห็นถึงความสามารถและคุณภาพของเยาวชนไทย ที่สามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อนำไปสู่ปรากฏการณ์ศิลปินไอดอลที่มีคุณค่า และเป็นต้นแบบที่ดีต่อสังคมไทยในปัจจุบันได้