เท่าทันทุกมิติ ดาราดังแห่ฉีดวัคซีน วาระซ่อนเร้นต้องรู้


ให้คะแนน


แชร์

ดราม่าต้องค้นต่อ ดาราฉีดวัคซีนก่อน

ดาราตกเป็นเครื่องมือของรัฐ

โจ้ ธนัช ถิ่นวัฒนากูล อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นครูสอนการแสดงอิสระ แอ็กติ้งโค้ช Acting Coach 

“ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ดาราออกมาโปรโมตวัคซีน ดาราน่าจะโดนทางรัฐขอความร่วมมือ แล้วคงจะปฏิเสธได้ยาก ดาราก็ถือว่าเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ของรัฐ ที่เข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายในตอนนี้

“มีดาราบางท่าน ให้ข้อมูลเชิงลึกเยอะมากเกี่ยวกับวัคซีน รับบทเป็นแพทย์หญิงหรือเปล่า บางคำที่โพสต์เหมือนโฆษณาชวนเชื่อมากเกินไป ซึ่งไม่โอเคเลย อ่านแล้ว เอ๊ะ จริงเหรอ มันค่อนข้างเชิญชวน โอ้โห!!! ดารารู้เกี่ยวกับวัคซีนจริงเหรอ หลายคนตั้งคำถามไม่น่าเชื่อว่าดาราจะออกมาให้ข้อมูลได้ละเอียดแบบนี้

“ที่ผ่านมามีสถานการณ์หลายอย่าง ที่คนอยากจะให้ดาราออกมาคอลเอาต์ call out แต่ก็ไม่มี พอมาเรื่องวัคซีน เอ๊ะ มันยังไง ทำไมออกมากันเยอะ อ่านแล้วมันขาดความจริงใจ ยุคนี้ประชาชนไม่ได้ถูกปิดหูปิดตาในข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แล้ว 

“ดาราไปฉีดก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ มีความคิดของตัวเอง เราต้องเคารพสิทธิ์ของเขาด้วย วงการบันเทิงอะเนอะ หน้าฉากอีกอย่าง หลังฉากอีกอย่าง จะให้มองเป็นสาระ 100% ก็ไม่ได้ ต้องมองให้เข้าใจ มันเกินจริงมั้ย คิดว่าดาราที่ออกมาโปรโมตวัคซีน ถึงยอดฟอลโลว์จะลดลง คือเขาคิดว่า มันไม่ได้ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลง เขาก็ไม่ใช่คนโง่ ต้องเข้าใจว่าวางตัวยังไง ถ้าไม่ออกมาพูด จะเกิดผลอย่างไร

“การที่คนแห่ไปลงทะเบียนฉีดวัคซีน ส่วนหนึ่งคนยังเชื่อถือดาราอยู่ แต่ไม่ได้มาจากดาราทั้งหมด น่าจะเพราะข่าวที่ไทยมีโควิดหลายสายพันธุ์ คนกลัวตรงนี้มากกว่า”

ดาราใช่กลุ่มเสี่ยงหรือไม่?

อาจารย์บอย ดร.ธนชาติ จันทร์เวโรจน์ นักวิชาการอิสระ ทำงานเกี่ยวกับการพีอาร์ประชาสัมพันธ์ ให้กับแบรนด์ดังมากมาย ได้ให้สัมภาษณ์ดังนี้ “การใช้ดาราดังมาพูดถึงวัคซีนโควิด น่าจะเป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่สร้างมาจากรัฐบาล รัฐต้องตอบให้ได้ว่า กลุ่มเสี่ยงที่รัฐจัดสรรให้ฉีด ตอนนี้ได้ฉีดครบหรือยัง! แล้วดาราเหล่านั้น ใช่กลุ่มเสี่ยงหรือไม่

“อย่าลืมว่าวัคซีนคือภาษีจากประชาชน ตอนแรกคิดว่ารัฐมาถูกทางแล้ว ที่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปได้ฉีดก่อน แต่ภาพที่ออกมาตอนนี้เริ่มไม่ถูกต้อง มีทั้งกลุ่มดาราเซเลบโพสต์โซเชียลกันอย่างโจ๋งครึ่ม ว่าได้ฉีดวัคซีนตัวโน้นตัวนี้ ซึ่งจากการมาที่ถูกทาง เริ่มจะเป๋!

“ดาราออกมารณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไม่ผิด! แต่ผิดที่รณรงค์แล้ว ไม่มีวัคซีนพอให้ฉีด หลายๆ โรงพยาบาลก็ออกมาประกาศเลื่อนไปแล้ว เพราะวัคซีนมีไม่พอ อยากให้ชาวไทยออกมาตั้งคำถามและให้ช่วยๆ กันหาคำตอบด้วยว่า วัคซีนได้ถูกจัดสรรไปยังกลุ่มเสี่ยงก่อน อย่างแท้จริงหรือไม่”

ดาราได้ฉีดก่อนบุคลากรทางการแพทย์

อาจารย์ธง ฐิติพงษ์ ด้วงคง นักวิชาการด้านวัฒนธรรมประกวดนางงาม และสตรี เพศสถานะ เพศวิถี อาจารย์พิเศษสอนหลายมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มศว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เร็วๆ นี้ จะไปเป็นอาจารย์สอนคอร์ส ภาษาสเปน-ภาษาอังกฤษและนางงาม Learn Spanish with Miss Universe / El Español Orientado al Certamen de MISS UNIVERSO

“ไม่รู้เลย ว่าทางรัฐจ้างดารามาพีอาร์วัคซีนหรือเปล่า ไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าทางคุณชมพู่ อารยา, คุณอั้ม พัชราภา ได้ตังค์มั้ย ไม่รู้ด้วยจริงๆ คือเสียงของดาราก็สำคัญ การที่เขาจะฉีดอะไรเข้าร่างกาย เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ก็สะท้อนความเหลื่อมล้ำ ความมีอภิสิทธิ์ของดาราหรือเปล่า เพราะอย่าลืม! ว่าบุคลากรทางการแพทย์หลายท่านก็ยังไม่ได้ฉีด หรือคนทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ยังไม่ได้ฉีด

“จริงๆ ดาราที่ยอมไปฉีด ก็เพื่อไปสร้างความเชื่อมั่น ว่าวัคซีนที่มีอยู่ คือวัคซีนดีที่สุด เหมือนที่กระทรวงสาธารณสุขได้บอกเอาไว้ เขาอาจจะทำตามนโยบายของรัฐก็ได้ แต่ข้อมูลที่ดาราได้รับมา มันยังไม่รอบด้าน ในสิ่งที่เขาออกมาพูด

“อยากให้ประชาชนชาวบ้าน ได้ตั้งคำถามมากๆ ได้เช็กความโปร่งใสของการทำงานของรัฐ เหมือนสื่อที่กำลังทำอยู่ ตรวจเช็กการทำงานของรัฐบาล เพื่อสะท้อนธรรมาธิบาล การปกครองที่ดี ว่ารัฐได้ปกครองเพื่อประชาชนจริงหรือไม่

“ดาราออกมาพูดการเข้าถึงวัคซีน ในช่วงเวลานี้ มีหลายมิติที่เราควรจะพูดถึง แต่คนก็ยังไม่มั่นใจประสิทธิภาพวัคซีน เป็นการโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ คือคนไม่สามารถสร้างชุดข้อมูลที่หลากหลายได้ ข้อมูลจากดาราเอง ไม่ใช่ข้อมูลใช่ที่สุด อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณให้มากขึ้น ให้ดูข้อมูลจากหลากหลายชุด เพราะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของเราเอง”

 

ดาราฉีดก่อน ได้ผลต่างตอบแทน

ดร.จเร สิงหโกวินท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาเอก การบริหารพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นิด้า NIDA (National Institute of Development Administration) ให้สัมภาษณ์ไวๆ ดังนี้

“จะไปบอกว่าดาราโดนจ้างให้มาโปรโมตวัคซีน ก็ไม่ทราบเนอะ อาจจะไม่ได้โดนจ้าง แต่ให้ผลต่างตอบแทน ผลคาดหวังล่วงหน้า เกื้อกูลกันมากกว่า ผมมองอย่างนี้นะ อย่างดาราท่านหนึ่งไปรับเป็นพรีเซนเตอร์ จะได้ฉีดวัคซีนเร็วขึ้น 1 เดือน รอตามระบบก็อีกนาน ถ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ได้ฉีดวัคซีนเร็วขึ้น ถ้าจะมีงบก็มีแหละ มันต่างตอบแทนกัน

“จริงๆ ไม่ใช่แค่ดารา อย่างอาจารย์มหาวิทยาลัย ก็มีมาเสนอเหมือนกัน ว่าจะไปฉีดมั้ย เพราะเราเคยไปทำงานให้หน่วยงานนั้น เขาได้รับโควตามาก่อน จะมาบอกเรา รวมถึงอาจารย์พิเศษด้วย ดาราน่าจะคล้ายๆ กัน เหมือนเคยร่วมงานกับดารา เออ มาฉีดหน่อย จะได้ทำประชาสัมพันธ์ไปด้วย

“ดาราได้รับวัคซีนก่อน ไม่แฟร์จริง มันควรจะเป็นไปตามคิวตามลำดับ ที่จะให้คนทั่วไปได้ฉีด แต่ก็ชะลอไปก่อน ดารามันลัดคิวมากๆ เลย ยิ่งทำให้คนในสังคมเห็น ไม่ได้ให้ความเท่าเทียมกัน ไม่มีความเสมอภาคนะครับ และระบบการบริหารจัดการวัคซีน ไม่ได้คิดเผื่อสถานการณ์ล่วงหน้า เช่น อาจจะมีกระบวนการล่าช้าในการส่ง ฯลฯ 

“ถ้าเรามองดาราในอีกมุมหนึ่ง ที่เขาได้ฉีดก่อน ทุกคนรักตัวกลัวตายเหมือนกันหมด อะไรคว้าได้ก็คว้าก่อน คนเรามีความเห็นแก่ตัว แต่ดาราเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นแบบอย่างที่ดีกับสังคมเนอะ ในสังคมที่เชื่อว่าเป็นสังคมประชาธิปไตย เสรีภาพ เสมอภาค ควรจะทำให้เป็นตัวอย่างกับประชาชน

“ถึงแม้ดาราจะได้รับข้อเสนอจากรัฐบาล แต่ดาราอาจจะคิดว่าเป็นวัคซีนโควตาดาราหรือเปล่า ที่เก็บไว้ให้ แต่ในแง่ความเป็นคนสาธารณะ เป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคม น้องๆ เด็กๆ มองเป็นตัวอย่างนะครับ จริงๆ เขามีโอกาสมากกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ อย่างโควิดหลายระลอกที่ผ่านมา ดาราอยู่บ้านได้อย่างสบาย เขาไม่ต้องทำอะไรก็อยู่ได้ แต่เขาเลือกที่จะฉีดก่อน ยิ่งทำให้ตอกย้ำโครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรม

“ความเสมอภาคจริงๆ ไม่มีหรอก แต่การที่ดาราได้ฉีดวัคซีนก่อน ยิ่งไปตอกย้ำ เป็นการเลือกปฏิบัติกับเฉพาะบางกลุ่ม ระบบนี้แก้ได้ยากมาก! ตราบใดรัฐไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาแล้ว แล้วใช้กฎหมายให้ทุกคนได้สิทธิ์เสมอภาคกัน บุคคลด่านหน้ายังฉีดเสี่ยงไม่ครบ แต่ดาราได้ฉีดก่อน ยิ่งย้ำให้เห็นช่องว่างทางสังคมที่เห็นชัด”

ดาราได้ไม่คุ้มเสียไปฉีดวัคซีนก่อน

เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย เพื่อสิทธิมนุษยชน (TGA) Thai Transgender Alliance (thaitga) แน่นอนว่าอาจารย์เคท เกาะติดเรื่องโควิดกับดาราอยู่

อาจารย์เคท ให้สัมภาษณ์ดังๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ “ดาราอาจจะโดนขอ บังคับ หรือไม่ได้สมัครใจ ไม่ได้เต็มใจ 100% ที่จะไปฉีดวัคซีน แต่เพราะเขาได้ข้อมูล ณ เวลานั้นว่าดีที่สุด แต่ชุดข้อมูลนั้น มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ดาราสองท่านที่อยากจะพูดถึงคือ ป้อง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ,บอม (ธนิน มนูญศิลป์) เฮ้ย! ตั้งคำถามเรื่องวัคซีน แต่ไม่ได้ชี้นำ คือสังคมไทยในช่วงนี้ กลัวกับการตั้งคำถาม

“ทำไมเรื่องวัคซีนต้องให้พี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) ออกมาพูด หลายคนก็ตั้งคำถาม มันก็น่าคิดนะ คิดว่าดาราเป็นคนมีชื่อเสียง คงมีความตั้งใจอยากรณรงค์เรื่องต่างๆ เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม หรืออะไรก็แล้วแต่

“อยู่ๆ ดาราลุกขึ้นมาฉีดวัคซีนพร้อมกัน ถามว่าโป๊ะมั้ย คือมันไม่เป๊ะ (หัวเราะ) อู๊ย ประชาชนทั่วไปยังไม่ได้คิว ขนาดเราเป็นอาจารย์ อยู่ในระบบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังไม่ได้คิวเลย ยังต้องพิจารณาหลายอย่าง เช่น เรื่องเกณฑ์อายุ โรคประจำตัวกันอยู่ 

“การนำดาราหลายคน มาพูดถึงเรื่องวัคซีนพร้อมๆ กัน เป็นขบวนการจัดตั้ง ซึ่งคนอยากให้ดาราพูดถึงการจัดการ การเข้าถึงวัคซีนที่หลากหลายมากกว่า ยิ่งดาราออกมาพูด ยิ่งทำให้คนไม่เชื่อ เพราะระบบจัดการมันไม่ดี มีคำถามมีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการจัดการอยู่เรื่อยๆ  

“เรื่องวัคซีนโควิด ไม่ต้องจำเป็นต้องใช้ดาราเลย ที่ต่างประเทศไม่มีการใช้เป็นดารามาพูด เพราะเป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ อย่างองค์กรอนามัยโลก WHO (World Health Organization) ก็ไม่ได้ใช้ แองเจลีนา โจลี (Angelina Jolie) มาพูดเรื่องวัคซีน หรือดูง่ายๆ นักร้องดาราเกาหลี ก็ไม่มีใครออกมาพูดเรื่องวัคซีน คือในภาวะวิกฤติ ทางรัฐไทยไม่มียุทธศาสตร์การสื่อสาร มันหาเสียงอย่างเดียว

“หลายคนก็คิดว่า ดาราได้เงินอยู่แล้ว แต่รัฐบาลอาจจะไม่ได้จ่ายโดยตรง เป็นการขอความร่วมมือ หรือไปให้ในทางอื่นๆ แทน จริงๆ เราก็ไม่มั่นใจว่าดาราได้เงินหรือเปล่า หรือจะเป็นส่วนหนึ่งให้ผู้มีอำนาจ ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับสังคม หลายคนตั้งข้อสังเกตดารากลุ่มนี้ ทำไมกับเรื่องอื่นๆ ไม่เคยออกมาเรียกร้องเลย เช่นเรื่องใหญ่ๆ สิทธิมนุษยชน หรือเรื่องต่างๆ ที่สำคัญ ทำไมไม่ออกมาพูดบ้าง

“จริงๆ ข้อมูลทางการแพทย์ ประสิทธิภาพประสิทธิผลต่างๆ ขอวัคซีนแต่ละชนิดก็มีให้อ่านกัน ซิโนเวค Sinovac เรื่องประสิทธิภาพ ประสิทธิผลที่เห็นชัดเลย คือเข้าไปยุโรปไม่ได้ ดาราออกมารณรงค์วัคซีน ดาราที่ออกมารับงานนี้ ได้ไม่คุ้มเสีย หนึ่งไม่ได้ชื่อเสียงเพิ่ม อาจจะถูกลดความชื่นชอบ เฮ้ย หลายคนตั้งคำถามแล้ว เฮ้ย ทำไมไม่หาข้อมูล เหมือนดาราที่ออกมาโฆษณาสินค้าต่างๆ ความจริงแล้วไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นจริงๆ แต่บอกว่าดี

“มีดาราดังที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ออกมาพูดให้คนไปฉีดวัคซีน แต่รู้มั้ยว่าดาราส่วนใหญ่ในบริษัทนั้น ก็ไม่ได้ไปฉีดวัคซีนกันนะ

“การใช้ดารามาโปรโมตการฉีดวัคซีน มันช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ ต้องใช้บุคลการแพทย์จะเป็นวิธีดีที่สุดค่ะ มันเป็นวิธีสร้างความเชื่อมั่นดีที่สุด คนไม่ได้เชื่อดาราไทยไปทั้งหมดแล้ว อย่างบอกว่าใช้สินค้านี้ดีนะ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ใช้จริง อีกอย่างเด็กไทยส่วนหนึ่ง ก็ไม่ดูไม่ติดตามดาราไทย ไปตามดาราเกาหลีกันหมดแล้ว มันไม่ใช่ยุคสมัยแบบเก่า ที่ดาราจะมาบอกอะไรๆ มาแล้ว จะเชื่อตามๆ กันไปหมด เพราะตอนนี้เรามีโซเชียลมีเดียแล้ว”

ดาราบางคนอยากฉีด แต่หาที่ฉีดไม่ได้

ใครที่คิดว่าดารา จะได้ฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว ไม่ใช่นะ เพราะยังมีหลายคนยังไม่กล้าไปฉีด รอเก็บข้อมูล และที่อยากจะฉีดจริง แต่ไม่มีที่ให้ฉีด อย่างน้อยสองท่าน เท่าที่เราเก็บข้อมูลชัวร์ๆ ได้ในตอนนี้ ที่ตั้งใจจองในระบบต่างของรัฐ ก็หาคิวไม่ได้ หาที่ฉีดไม่ได้ เริ่มกันที่ผู้จัดละครดังช่องดัง ที่เคยติดโควิดแล้วรักษาหายดีแล้ว บอกเลยว่าอยากจะฉีดวัคซีนมากๆ แต่จองในระบบก็ไม่ได้ ส่วนดารารุ่นใหญ่พิธีกรดัง ก็พูดตรงกันว่า จองไม่ได้ หาที่ฉีดไม่ได้เลย.

นักเขียน : รุ่งโรจน์เรืองรอง

กราฟิก : Varanya Phae-araya

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2101295
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2101295