เสนาลิง เล่านาทีชีวิต หวิดรถคว่ำ เพราะความยางรถเส้นเดียว


ให้คะแนน


แชร์

เสนาลิง เล่านาทีชีวิต หวิดรถคว่ำ เพราะความยางรถเส้นเดียว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เล่านาทีระทึกเป็นอุธาหรณ์ให้กับผู้ขับรถบนถนนได้ระวังตัวกัน สำหรับนักแสดงหนุ่ม เสนาลิง สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ ที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุเมื่อ (27พ.ค.64) มีล้อรถบรรทุกกลิ้งเข้าใต้ท้องรถ หวิดรถคว่ำ ระหว่างที่ลูกและภรรยาอยู่ในรถด้วยกัน

ล่าสุดพิธีกรชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์กับ ข่าวสดออนไลน์ เผยถึง เหตุการณ์ที่ว่า

“ผมขับรถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ ขึ้นไปแล้วเห็นยางรถ ที่รถบรรทุกทำหล่นไว้ คิดว่ามันหล่นเป็นยางทั้งเส้น ไม่รู้ว่าเขาขนมายังไง แต่ทำหล่นเอาไว้ ซึ่งข้างหน้าผมมีรถกระบะนำอยู่ แต่รถกระบะคันข้างหน้า เขาขับค่อมผ่านไปได้ ผมเห็นก็ตกใจ เพราะมันทะลุเราไปไม่ได้ ชนสเกิร์ตรถด้านหน้า ยางก็เลยไปครูดด้านหน้า ไปจนถึงท้าย มันเป็นเสี้ยววินาที ที่มันตู้มเข้ามา”

ห่วงเดียวใช่ไหมที่กลิ้งเข้าไป? ” แค่นี้ห่วงเดียวยังวิบัติเลยถ้ามาหลายอันมันจะไปไหวยังไง ห่วงเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว”

ตอนนั้นภรรยาและลูกอยู่ในรถด้วย? “เขาหลับกันอยู่ นาทีที่เราเห็นยางรถ ผมตัดสินใจว่าเราต้องค่อมมัน เราต้องมีสติ เพราะถ้าเราหักหลบไม่พ้นเกิดไปเหยียบมัน รถอาจจะพลิกได้ ตอนนั้นใช้ความเร็วอยู่ประมาณ 100 กม./ชม. มันก็น่าจะมีโอกาสพลิกได้ ฉะนั้นเราเลยตัดสินใจค่อมไป ใต้ท้องรถเละเทะ ดังแคร่กๆ”

ตอนนั้นลูกเมียตื่นตระหนก ตกใจกลัวไหม? “ตื่นกันหมด เขาก็ถามว่าเป็นอะไร แต่พอทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่โมโหว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันต้องมียางมาอยู่ตรงนี้ มันทำให้เสียทรัพย์สิน ดีที่เราไม่พลิกคว่ำ โมโหมากกว่าตกใจนะผมว่า”

รถเสียหายหนักแค่ไหน? “ส่วนมากมันเป็นภายนอก แต่ตัวรถจริงๆมันไม่ได้เสียหายอะไรมาก เหมือนกันว่ากันชน มีปัญหาชนใต้ท้องรถ”

อยากจะบอกอะไรสำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนน? “จริงๆ ผมโมโหกับการกระทำของคนที่ประมาทเลินเล่อ ไม่สนใจ ทำของหล่น ทำของเสีย ไม่ดูแลรถตัวเอง จนทำให้คนอื่นเกิดความเดือดร้อน เราเป็นคนใช้ถนนด้วยกัน คุณต้องระมัดระวังดูแลอุปกรณ์ของคุณ ไม่ใช่คุณจะประมาททำของหล่นเลินเล่อ ของร่วงคุณก็ไม่ดูแล มันไม่ใช่แค่ยางนะ

จริงๆมันมีเหล็ก มีท่อนซุง มีกิ่งไม้ แค่กระดาษที่อยู่หลังรถของคุณมันปลิวไปแปะหน้ารถของคนอื่นที่เขามองไม่เห็นอันนี้ก็เกิดอุบัติเหตุมาแล้ว ผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้ คุณใช้ของส่วนรวมคุณควรจะระวัดระวังด้วยกันครับ”

ประสบการณ์เคยเจอของหล่นใส่รถกี่ครั้งแล้ว? “เราเจอบ่อยมากของหล่นจากรถ เราค่อมมาเป็นร้อยครั้งแล้ว แต่ยางคือเลวร้ายร้ายสุดในชีวิต ที่ไม่เกี่ยวกับโดนชนนะครับ โดนชนนั้นเป็นคนละกรณี อันนั้นเป็นความประมาทของคนๆนั้นจริงๆ ซึ่งเราไม่เคยชนมใคร เขามาชนเราตลอด”

หลังจากเหตุการณ์นี้ครอบครัวให้ทำบุญสะเดาะเคราะห์ไหม? “มีแค่คุยกันว่า หรือสีรถคันนี้มันไม่ใช่สีโฉลกของเรา เราก็น่าจะเปลี่ยน ผมเลยคิดว่าเปลี่ยนสีรถดีกว่าเขียนติดที่รถว่ารถคันนี้สีรุ้ง (ต้องเอาเลขรถไปลุ้นโชคหวยแล้ว)(หัวเราะ) จริงๆผมไม่ควรทำบุญนะ คนที่ทำยางร่วงควรจะไปทำบุญ”

ช่วงโควิดนี้เป็นยังไงบ้าง? ” เริ่มมาทำงานได้ 4-5 วันครับ ถ่ายงานพิธีกรปกติ ส่วนเพื่อนๆคนอื่นที่เป็นนักแสดงเขายังไม่ได้ทำงาน เพราะว่าถ่ายละครไม่ได้ เราก็โชคดีหน่อยที่ได้เริ่มงานก่อนคนอื่นครับ”

ผลกระทบ วิลล่า โมรีดา รีสอร์ท ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? “สนุกสนานเลย รีสอร์ทตอนนี้เราเปิดไว้ไม่ได้ปิด เพราะว่ารัฐไม่ได้สั่งปิด เปิดไว้เฉยๆ คราวที่แล้วรัฐสั่งปิดเราจะได้ค่าเยียวยา แต่เหมือนเขาชดเชยให้คนที่ทำประกันสังคม ซึ่งตอนนี้เราเปิดเพื่อให้กลุ่มแม่บ้าน พนักงานของเราได้มีงานทำ

ก็มีลูกค้าบ้าง แต่พอคนติดเยอะลูกค้าก็หายไป พอเริ่มเบาลูกค้าก็กลับมา อย่างวันหยุดลูกค้ามาก็ไม่เต็ม ผมว่าเปิดมามีลูกค้าสัก 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ลูกค้าก็น่ารักนะ ส่วนมากเป็นลูกค้าเดิมของเราครับ”

นำเงินเก็บมาใช้จ่ายในช่วงวิกฤตโควิดเยอะไหม? “รวมๆน่าจะสักครึ่งล้านได้ที่อุดไปนะ”

เราวางแผนยังไงบ้าง เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานไหม? “มันก็มาตั้งแรกระลอกแรกมาเรื่อยๆ จนมาช่วงที่กลับมาดี พอคนกลับมาใหม่ เราก็คิดว่ามันจะโอเค แต่พอโดนอีกก็เหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนเราบางคนก็ปิดรีสอร์ทไปเลย แต่ของพี่ยังโชคดีที่วิลล่าโมรีดาคนยังชื่นชอบ มาพักแล้วเขายังโอเค เราก็พยายามดูแลให้มันดี อยากให้มันอยู่ไปนานๆ

เราก็พยายามทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนที่มันจะเกิดโควิด ลูกค้าก็เลยรู้สึกว่าที่นี่โอเค เหมือนพวกเราต้องอยู่ให้ได้ในช่วงโควิด เราอยู่ได้ พนักงานของเราก็ต้องให้เขาอยู่ได้ ไม่งั้นเขาก็ต้องไปดูแลกัน รวมๆ แล้วอีก 20-30 ชีวิตครับ”

อยากบอกอะไรกับรัฐ หรือให้กำลังใจผู้ประกอบการอย่างไร? “อยากจะบอกทุกคนที่เป็นผู้ประกอบการ ผมว่ามันลำบากนะก็ให้กำลังใจอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้กำลังใจอดทนสู้ ใครที่อยู่ได้ก็ขอให้ยืนหยัดสู้กันต่อไป เพราะมันยังมีคนที่ทำงานกับเราก็น่าเห็นใจอีกเยอะ เราก็ช่วยเหลือกันไป

เหมือนลดกำไรที่เคยได้มาเอามาใช้ในช่วงนี้ ซึ่งจริงๆตอนนี้ผมอุดเงินตัวเองอยู่ ถือว่าช่วยกัน และขอให้ทุกคนรอดให้ได้ครับ ขอให้โควิดหายไวไว ผู้ประกอบการจะได้รอด แล้วก็ฉีดวัคซีนกัน พอฉีดวัคซีนกันได้เยอะๆ จะได้มียาสักทีหนึ่ง

หลังจากนั้นพวกเราก็จะได้ท่องเที่ยว หลังจากที่เราคิดถึงที่เที่ยวที่ไม่ได้ไปครับ เราจะได้มาพักผ่อนกัน เพราะมันเหนื่อยมาเยอะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : sena_ling

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6424942
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6424942