เจมส์ จิรายุ พลิกบทบาทครั้งใหญ่ คว้าไมค์ เปิดอัลบั้ม See More   

เจมส์ จิรายุ พลิกบทบาทครั้งใหญ่ คว้าไมค์ เปิดอัลบั้ม See More

เรียกว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ สำหรับหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ที่ผันตัวจากการเป็นนักแสดงมากฝีมือ มาจับไมค์ร้องเพลงแบบเต็มตัวครั้งแรก โดยการออกอัลบั้ม See More ที่มีเพลงถึง 5 เพลงด้วยกัน

ล่าสุด วันที่ 7 มิ.ย. 64 เจมส์ จิรายุ ได้เปิดใจผ่านแอพพลิเคชั่นซูม ถึงการพลิกบทบาทมาเป็นนักร้องแบบเต็มตัวครั้งแรก โดย เจมส์ เผยว่า “เป็นความแตกต่างใหม่ๆ ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นในมุมใหม่ๆ คือที่ทำโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา เป็นโปรเจ็กต์ที่ผมชอบมาก แล้วพอได้เริ่มทำโปรเจ็กต์ก็คิดกับพี่อีกท่านหนึ่ง ตอนแรกยังไม่มีชื่อแต่พอทำไปทำมา ได้เห็นความแตกต่างในหลายๆมุม

อาทิเช่น เพลงที่มันแตกต่างกันใน 5 เพลง มี 5 โปรดิวเซอร์ แล้วก็มีในเรื่องของเอ็มวีที่มีมู้ดคาแร็กเตอร์ที่ต่างกัน ถึงแม้ว่าจะออกมาน้อยหน่อย แต่ก็มีความแตกต่างกัน ก็เลยได้ชื่อว่า See more ก็คือได้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

เพลง “เป็นประจำ” , “ค่อยๆ ไป”, “วางใจ”, “กว่าจะมีเธอ” และ “ดื้อ” แต่ล่ะเพลง มีที่มายังไงและได้แรงบันดาลใจมาจากไหน?

“เพลงเป็นประจำ เป็นเพลงที่พี่รัฐ Tattoo colour ได้แต่งเนื้อและทำนองขึ้นมา ให้ความรู้สึกว่าเรายังคิดถึงใครบางคนอยู่เป็นประจำพอเป็นเพลงแนวประมาณนี้ก็เลยตั้งชื่อว่า เป็นประจำ ขึ้นมาครับ

เพลงที่สอง “ค่อยๆ ไป” อันนี้เริ่มต้นจากไอเดียของผมเองเพราะว่าในเพลงนี้มันจะคล้ายๆ ว่ามันดึงมาจากนิสัยของผมเองเลยแต่งมาแล้วก็เขียนเป็นแต่ละเพลง ซึ่งก็ค่อยๆไปครับ เป็นเพลงที่สื่อเกี่ยวกับว่า ผมเป็นคนที่ชอบทำอะไรทีเดียวหลายๆอย่าง แล้วก็พร้อมกัน พร้อมกันมันก็ดีแต่ว่าบางทีมันก็จะไม่สำเร็จสักอย่าง ไม่ดีสักอย่าง ค่อยๆ ไป มันก็เลยเป็นเพลงที่สื่อออกมาว่า ค่อยๆ เอาทีละก้าวก็ได้ไหม หรือว่าค่อยๆ ไป ก็ได้ไหม แล้วก็มาตีความเป็นความรัก ซึ่งทั้งหมดตีความเป็นความรักทั้งหมดเลย

ส่วนเพลง “วางใจ” จะเป็นเพลงที่เอามาจากความเป็นเพื่อน ด้วยความที่นิสัยของเพื่อนแต่ละคนที่เราเจอ แล้วเราก็วางใจกับในกลุ่มเพื่อนด้วย ซึ่งปกติไม่ค่อยได้พูดกันแต่ว่าเราสามารถที่จะเข้าใจกันได้แล้วก็วางใจกันได้ครับ วางใจเพิ่งปล่อยออกไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่เพลง กว่าจะมีเธอ ปล่อยลำดับต่อไป

เพลง “กว่าจะมีเธอ” เพลงนี้เป็นเพลงที่ตั้งใจเขียนมาถึงความรักที่ผมได้รับจากทุกคนครับ ว่ากว่าจะมีวันนี้มันก็ค่อนข้างยากแหละ ก็กว่าจะได้มีเธอมานั่นแหละครับผม

แล้วก็ เพลง “ดื้อ” เพลงนี้เป็นเพลงที่ส่วนตัวผมแอบสปอยนิดนึงว่า ผมเป็นคนที่ชอบเพลงดื้อมากที่สุดในอีพีนี้ มันมาจากนิสัยเหมือนกัน ผมเป็นคนที่ดื้อเงียบมั้งครับ ในคำนิยามอะไรแบบนี้คือรับฟัง แต่ว่าอาจจะไม่ได้ทำตามทั้งหมดซะทีเดียว เลยรู้สึกชอบกับเพลงนี้มากๆ สื่อสารออกไปในมุมมองความรักเหมือนเดิมในอีพีทั้งหมด”

ในทุกๆเพลงของอัลบั้มนี้จะมีความเป็นเจมส์อยู่ในนั้น อยากให้เลือกมาหนึ่งเพลงที่เป็นดีเอ็นเอของเราอยู่ในนั้นมีความหมายเป็นตัวเจมส์ชัดเจนที่สุด? “น่าจะเป็นเพลง “ดื้อ” นี่แหละน่าจะชัดเจนที่สุด แล้วก็เป็นเพลงที่ยากที่สุดในการทำด้วย ตอนแรกเอาด้วยความสัตย์จริงเลย ผมตั้งใจจะตั้งอีพีโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา ชื่อว่าดื้อด้วยซ้ำไป เพราะผมรู้สึกว่ามันเหมาะมากแล้วรู้สึกว่าก็ดื้อแหละก็ดื้อจริงๆ”

ที่ผ่านมาเจมส์มีประสบการณ์การร้องเพลงมาบ้าง แล้ววันนี้ที่ได้มาทำเพลงในอัลบั้มชุดนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มบ้าง?

“ต้องบอกว่าประสบการณ์ในการทำเพลงของผมส่วนใหญ่จะเป็นเพลงประกอบละครเสียส่วนใหญ่ มีโอกาสได้ขึ้นไปแฟนมิตติ้งบ้าง ทุกคนก็ได้เห็นกันแล้ว แต่พอมาเป็นโปรเจ็กต์เพลงของตัวเอง มันยากมากเลยครับ ยากตรงที่ว่าเราต้องเริ่มตั้งแต่คิด ทำโปรเจ็กต์เพลงทั้งหมด แล้วก็มาร้องเพลง

อย่างเพลงละครที่ผมไปร้องมันก็มีโอกาสที่จะใช้คาแร็กเตอร์ในการร้องเพลง คาแร็กเตอร์ของตัวละคร มาใส่ในเพลง แต่ว่าพอเป็นเพลงของตัวเองมันจำเป็นต้องหาคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนของตัวเองเพื่อใส่ไปในเพลงมันก็ยาก เอาจริงๆ มันก็ยากมากครับ”

เจมส์ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นไหมเกี่ยวกับวงการเพลงกับการมาทำเพลงในครั้งนี้?“ได้เรียนรู้เยอะมากเลยครับ ต้องบอกว่าโปรเจ็กต์อีพีนี้ มันเป็นโปรเจ็กต์ที่ผมเริ่มทำของผมเอง แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ หลายๆ ฝ่ายมากๆ เลยครับ พอมาทำก็รู้สึกว่าโหมันยากมากเลยอ่ะเพราะว่ามันไม่คุ้นชินด้วยครับ”

ถ้าสามารถชวนใครในโลกนี้มาฟีเจอริ่งได้ อยากชวนใครมาร่วมร้องกับเรา?“(หัวเราะ) เยอะมากเลยครับ ผมชื่นชอบพี่ที่เป็นนักร้องเยอะมาก ถ้าเกิดตอบตอนนี้ก็น่าจะเป็น วี วิโอเลต ก็ได้ครับ ผมเพิ่งไปเล่นเอ็มวีให้เขาแต่ว่าอยากเอามาร้องด้วย นอกเรื่องนิดเดียว ผมเคยไปร้องเพลงกับเขาในงาน AIS ที่เป็นเพลง señorita รู้สึกว่าเค้าเก่งมากเลยอ่ะแล้วก็มีเสน่ห์มาก”

ถ้ามีโอกาสก็อยากทำด้วยกัน? “ใช่ครับ (ยิ้ม)”

ความสุขของเจมส์ในการเป็นศิลปินคืออะไร? “ผมว่ามันเริ่มต้นจากความอยากรู้อยากเห็นแหละครับ แล้วก็เริ่มต้นจากความชอบคือถ้าพูดกันตรงๆตอนนี้ทำไปสักพักนึงมันก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ครับ(หัวเราะ) ปกติผมจะชอบสนุกตอนที่เริ่มคิดเพราะว่าเริ่มคิดเรายังไม่ได้ลงมือทำไงเราก็สนุกหมดเลย เฮ้ย อันนี้มันน่าจะดีมากๆเลยแต่ว่าพอทำจริงๆแล้วแม้แต่กระทั้งตอนที่ไปอัดร้องพอทำออกมาแล้วเอามาฟังแล้วก็บอกว่า ไม่ได้จริงๆ

คือรู้ตัวเองว่ามันอาจจะยังไม่ถึงสิ่งที่ตัวเองคาดหวังไว้แล้วก็แบบพี่ครับขออัดใหม่ได้ไหมหรือทำอะไรได้ไหมคือด้วยความที่พอมาทำจริงๆมันมีข้อจำกัดเยอะในเรื่องของความสามารถของผมคือไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอื่น ก็พยายามอย่างเต็มที่แหละที่ที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้”

เพลงช่วยฮิวเจมส์ได้ขนาดไหน ยกตัวอย่างเล่ามาซักเหตุการณ์หนึ่ง? “มันช่วยฮิวได้ตลอดเลยครับ คือปกติผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาก แล้วก็เป็นคนที่เวลาจะคิดไอเดียอะไรหรือว่าจะทำอะไรผมก็จะเปิดโหมดเพลงต่างๆ สมมติว่าเราคิดงานเราชอบแบบโลว์ไฟล์อะไรแบบนี้หรือว่านั่งเปิดคลอๆ หนังสือก็โลว์ไฟล์สมมุติว่าอยากสนุกขึ้นก็เปลี่ยนมู้ดเพลง จะทำอะไรก็ทำไปกับมู้ดเพลงต่างๆมันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทำให้อารมณ์มีกราฟขึ้นลง แล้วก็ให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น”

อยากให้เพลงของเราเป็นความสุขแบบไหนสำหรับผู้ฟัง? “เป็นความสุขแบบสบายๆ แล้วกันครับคือโปรเจ็กต์นี้ผมตั้งขึ้นมาด้วยความที่ว่า มันจะไม่ใช่เพลงที่แบบร้องยากขนาดนั้นหรือว่าเป็นเพลงที่หวือหวาตีลังกาขนาดนั้น จะเป็นเพลงที่ออกมาในสไตล์ที่สบายๆหน่อยเพราะว่าตอนที่เริ่มทำกันผมบอกว่า เป็นชิวล์สายชิลล์นะครับพี่ตอนที่เขียนเพลงกันนะครับ เป็นคนที่สายชิลมากและผมก็รู้สึกว่ามันน่าจะดีถ้าเกิดมีเพลงตัวเองฟังแล้วก็เป็นเพลงที่ฟังแล้วสบายๆดี”

ผลตอบรับที่ได้กลับมาเป็นยังไงบ้าง? “ ชื่นชอบเยอะมากเหมือนกันนะครับอย่างแฟนแฟนเขาก็รอ แล้วก็ชื่นชอบซึ่งแต่ละเพลงด้วยความที่โปรดิวเซอร์คนละคนคนเขียนเพลงคนละคนก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันซึ่งความชอบของเพลงก็จะแตกต่างกันด้วยนะครับ อย่างแฟนๆของผมบางทีเขาก็ชอบเพลงที่หนึ่งบางทีเขาก็ชอบเพลงที่สามบางคนก็ชอบเพลงที่สองซึ่ง คนที่ชอบเพลงที่หนึ่งก็อาจจะไม่ชอบเพลงที่สามก็ได้ซึ่งมันมีหลากหลายสีสันมากๆแล้วก็เป็นแนวใครแนวมันเลยครับเป็นความวาไรตี้อันนึงที่ทำอีพีนี้ขึ้นมาครับ”

มีคอมเมนต์ไหนที่ทำให้รู้สึกว่าใจลุ้นพุ่งบ้างไหม? “น่าจะเป็นทุกคอมเมนต์เลยครับผมรู้สึกว่าดี คือดีใจที่ทุกคนชอบ”

อยากให้พูดถึงซิงเกิล ล่าสุดเพลงวางใจที่กำลังจะปล่อยออกมาเป็นเพลงอะไรสไตล์ไหน? “วางใจจะเป็นเพลงที่ดูป๊อบๆขึ้นมานิดนึงครับแล้วก็ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพลงที่เร็วที่สุดในอีพีนี้ครับ เป็นเพลงที่เกี่ยวกับเพื่อนแหละครับที่ว่าไปเมื่อกี้แล้วก็เป็นเพลงที่ฟังดูสนุก ซึ่งในตอนแรกตอนที่ทำเพลงนี้ขึ้นมามันมีท่อนฮุกที่สามารถจำได้ง่ายหน่อย มันจะมีแบบ ถ้าเธอทนไม่ไหว ให้วางใจอยู่ตรงนี้ (จึด จึด จือ ดึด จึด จือ) อะไรแบบนี้ครับมันก็จะมีความสนุกขึ้นมามีความอัพบีทขึ้นมา โซโล่อะไรแบบนี้ครับ”

ในเพลงนี้เรามีส่วนร่วมอะไรบ้างไหม? “เพลงนี้ส่วนใหญ่มันเริ่มต้นมาจากนิสัยของผมครับ ก็เอามาจากความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนๆ เป็นยังไง แล้วก็หลังจากนั้นมาก็เริ่มทำหมดเลยครับ ดนตรีเป็นยังไงพี่เขาก็ให้โอกาสผมในการออกความคิดเห็นว่าอยากทำอะไร หรือว่าไม่อยากทำอะไรบ้างก็เริ่มมาเรื่อยๆครับ”

ถ้าเทียบจากสองเพลงที่ผ่านเพลงมาวางใจ ทำให้เราเห็นอะไรในตัวเพลงมากขึ้น? “(หัวเราะ) ไม่แน่ใจเลยครับคืออย่างสมมติว่าอย่างเพลงแรกกับเพลงที่สองมันจะเป็นมู้ด ที่แตกต่างจากชีวิตผมโดยสิ้นเชิงแต่ว่าเพลงวางใจมันจะค่อนข้างใกล้เคียงขี้เล่นมันจะมีความขี้เล่นตลกๆแบบชิลล์ๆสบายๆ ผมว่ามันก็ สะท้อนอีกมุมหนึ่งหนึ่งของตัวผมอย่างชัดเจนอีกด้วยครับ”

คาดหวังกับอัลบั้มแรกในชีวิตแค่ไหน? “ไม่ได้คาดหวังเลยครับ ปกติทำงานผมก็ยังมีคาดหวังบ้างนะครับแต่ว่าในอัลบั้มนี้คือตอนทำครั้งแรกเราก็คาดหวังแล้วก็คิดไว้ว่าจะเป็นยังไงแต่ว่าพอทำเสร็จแค่เฉพาะตอนอัดเพลงทั้งหมดผมก็รู้สึกได้ว่า โอเค ไม่ได้คือไม่ได้คาดหวังแล้วว่าทุกคนหรือว่าคนที่ฟังจะชอบมากน้อยแค่ไหน แต่ว่ามันคือความสนุกแล้วก็ความสุขที่ผมได้ทำจนเสร็จเรียบร้อย

แล้วก็รู้สึกว่าพอใจในผลงานในระดับความสามารถที่มีอยู่ทุกวันนี้ซึ่งตอนแรกผมคาดหวังตัวเองไว้สูงมากแต่ว่าพอมันออกมาเราก็จะได้เห็นว่าสิ่งที่เราคิด กับสิ่งที่เราได้ทำลงไปและเสร็จมันก็คนละเรื่องกันเลย(หัวเราะ)เราก็พอรู้ความสามารถของตัวเองครับ ได้เรียนรู้อะไรมากไปขึ้นด้วย”

การทำงานเพลง ท่ามกลางสถานการณ์โควิด เป็นยังไงบ้าง มีอะไรเปลี่ยนไปไหม? “จริงๆโปรเจ็กต์นี้เริ่มมาก่อนโควิดอีกนะครับ เริ่มมานานมากแล้ว แต่ตอนที่เริ่มทำคือเริ่มจากรวบรวมพี่ๆทุกท่าน เขียนเนื้อเพลง เริ่มอัดเพลงใช้เวลา มีโควิดแล้ว ถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากไหม ผมคิดว่าไม่น่าจะมากเท่าไหร่ เพราะว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากกว่าการทำเพลงแล้วหล่ะ (หัวเราะ)ลุกขึ้นมาทำเพลงก็เปลี่ยนแบบสุดๆแล้ว”

ล่าสุดเล่นเอ็มวีให้ วี วิโลเลต กลัวว่าคนจะสับสนกับเพลงเราไหม? “ไม่ได้กลัวคนจะสับสน คือพอดีวีเขาชวนเรามา ว่าจะทำเพลงโปรเจ็กต์เป็นภาษาไทย เราก็ตอบรับได้เลย ไม่มีปัญหาเดี๋ยวไปเล่นให้”

จะมีโอกาสเห็นวี มาเล่นให้เจมส์ไหม? “ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คือผมทำเอ็มวีจบไปแล้ว เลยไม่ได้ชวนมาเล่นครับ”

นอกจากงานละคร งานเพลง อยากพลิกบทบาทไปทำอะไร อีกไหม? “ผมว่าคงไม่มีพลิกแล้วหล่ะ อันนี้คือพื้นฐานที่ผมรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว งานแสดงทั้งหมด งานเพลงผมว่าน่าจะมีความสุขกับมันแล้ว เหลือแค่พยายามทำมันให้ดีขึ้นให้ได้”

จะมีโอกาสนำเพลงไปประกอบละครที่ตนเองเล่นไหม? “ไม่รู้เลยครับ ต้องแล้วแต่ทางผู้จัด คือเขาต้องเห็นสมควรด้วยครับ แต่ก็ว่าน่าจะมีโอกาสครับ”

สนใจทำเพลงแนว แร็พไหม? “ผมสนใจ ผมขอบฟังแนวแร็พมากนะ แต่ไม่แน่ใจว่าการที่ชอบฟังของผม จะเหมาะกับการทำมันหรือเปล่า ก็ต้องลองดูโอกาสต่อไปครับ”

ตอนนี้ดูแลสุขภาพยังไง พอใจกับหุ่นหรือยัง? “ช่วงนี้ดูแลสุขภาพเยอะมากครับ เรื่องของการกินด้วย และการออกกำลังกาย ด้วยความที่ตอนที่ทำงานก็จะมีละคร 7 วันติดกัน ก็จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย พอมีช่วงนี้ก็พยายามฝืนตัวเองให้ออกกำลังกายให้ได้มากๆ เพราะว่าอยากให้ร่างกายแข็งแรง แต่เรื่องหุ่นไม่แน่ใจว่าจะไปได้ถึงไหน แต่ว่าเบื้องต้นอยากให้สุขภาพแข็งแรง จะได้มีแรงทำอีก”

ได้อะไรเพิ่มเติมจาก see more หรือ เรียนรู้เพิ่มเติมจากการทำเพลง? “ได้เรียนรู้เยอะจากการทำเพลง ผมว่าเพลงมันเป็นตัวตนครับ เราฟังเพลงของศิลปิน ผมรู้สึกว่าศิลปินได้นำเสนอตัวตนออกมาได้ชัดเจนมาก ผมเองได้เรียนรู้จริงๆเลย คือถ้าเราคาดหวังตัวเองไว้แค่ไหน แล้วยังทำมันไม่ได้ นั่นหมายความว่าตัวตนจะออกมาไม่ชัด จะรู้สึกว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีที่ทำให้ผมรู้ว่าต้องรู้สึกว่าต้องพัฒนาตนเองในทิศทางไหนบ้าง เพื่อให้สนุก ให้ความสุขในการทำศิลปะมากขึ้นครับ”

ฝากให้กำลังใจแฟนคลับในช่วงโควิด? “ก็อยากจะเป็นกำลังใจส่วนเล็กๆให้ทุกคนครับ ผ่านในช่วงโควิด-19 ไปได้ จริงๆรอบนี้ก็หนักพอสมควร ก็อยากให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดี ถ้าเกิดมีกำลังใจดี ไม่ว่าพอมันกลับมา เราจะได้มีสติให้พร้อม เตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อจะได้สู้ กับการเริ่มต้นครั้งใหม่ครับ

และขอฝากผลงาน กับพี่ๆทุกคนด้วยนะครับ เป็นโปรเจ็กต์อัลบั้มที่ผมตั้งใจไว้มากๆ ที่จะทำมัน และทำด้วยความสุขและสนุกมากๆ ก็อยากจะให้ช่วยติดตามกันด้วยนะครับ และมีละครที่ถ่ายไว้ก่อนมีโควิด ชื่อเรื่องกะรัตรัก เล่นกับ แอน ทองประสม รุ่นใหญ่เลย และพี่คิง สมจริง เป็นผู้จัดละครครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ

ส่วนช่องทางการติดตามเพลง สามารถรับชมได้ที่ยูทูบแชนแนล เจมส์ จิรายุ หรือว่า พิมพ์ชื่อเพลงก็ได้ และรับฟังได้ทุกสตรีมมิ่ง ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง 3 เพลง มีอยู่ในนั่นแล้ว อยากให้ติดตามเพลงต่อไปด้วย อีก 2 เพลงครับ เป็นเพลงที่ผมชอบมากด้วย

ผมจะพยายามทำโปรเจ็กต์ต่อไปครับ ถ้าเกิดว่ายังไหวนะครับ อีกเพลง 1 น่าจะปล่อยเดือนหน้า ปลายๆ เดือนน่าจะปล่อยรูปปกมาก่อนครับ ให้ทุกคนให้เห็นกันก่อนครับ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : jirayu_jj

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6439780
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6439780