“ปิ๋ม ซีโฟร์-หมอปลา” อดีตกัลยาณมิตร “ลุงพล” พากันออกมาแฉยับ!


ให้คะแนน


แชร์

“ปิ๋ม ซีโฟร์-หมอปลา” อดีตกัลยาณมิตร “ลุงพล” พากันออกมาแฉยับ!

วันที่ 09 มิ.ย. 2564 เวลา 15:40 น.

“ปิ๋ม ซีโฟร์-หมอปลา” อดีตกัลยาณมิตร “ลุงพล” แท็กทีมพากันออกมาแฉความจริง

หลังจากปรากฏการณ์เซเลปคดีฆาตกรรม “ลุงพล” จากวันที่คนดังแห่รุมล้อม สู่วันนี้ที่ถูกออกหมายจับ งานนี้ทางรายการ “ถกไม่เถียง” ช่อง 7HD ดำเนินรายการ โดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้สัมภาษณ์ “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี”, นักร้องสาว “ปิ๋ม ซีโฟร์” และ “รัชพล ศิริสาคร” ทนายความที่เคยยื่นมือช่วย “ลุงพล” ได้พากันออกมาแทคทีมแฉพฤติกรรม “ลุงพล”

วันที่รู้ข่าวลุงพลโดนหมายจับ รู้สึกยังไง สะใจไหม?

ปิ๋ม ซีโฟร์: สะใจทำไมอ่ะ มันไม่เกี่ยวกับเราเลย ส่วนตัวแล้วก็เหมือนกับคนไทยทั้งประเทศค่ะ เพราะมันสิ้นสุดการรอคอย แม้ว่าคดียังไม่สิ้นสุด แต่ก็ดีใจที่ได้ทราบว่าใครคือผู้ต้องสงสัย ที่ปิ๋มได้ร่วมงานกับลุงพล ก็เพราะจากที่ปิ๋มทำหน้าที่ PR ให้สินค้า เจ้าของสินค้าเขาอยากได้ลุงพลมาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ ก็เลยได้มาร่วมงานกันค่ะ การเลือกพรีเซนเตอร์สินค้า ต้องเลือกคนที่เป็นกระแสมากที่สุดในวินาทีนั้น มันก็เลยออกมาเป็นเขา แล้วมันก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น

ลุงพลเป็นคนยังไง?

ปิ๋ม ซีโฟร์: เท่าที่สัมผัสกันตอนทำงาน เรื่องเวลาของเขาไม่ได้เลยจริงๆ เวลาเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และเรื่องคำพูดเองก็สำคัญจริงๆ

จุดแตกหักที่คิดว่าร้ายแรงที่สุด?

ปิ๋ม ซีโฟร์: มีปัญหาตั้งแต่วันแรกที่ไป นัดเขาไว้สิบโมง แต่เขาก็หายไป เราไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นเราก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้ขอเจ้าที่เจ้าทางเอาไว้ มันเลยติดขัด มันมีปัญหาทุกครั้งที่ทำงานเลยค่ะ วันที่ไปบวงสรวงเต่างอย พอทำเสร็จปุ๊ป เขาขอไปทำธุระส่วนตัวก่อน ปะยางบ้าง ไปกินข้าวกับคนอื่นบ้าง ทั้งๆ ที่ลูกค้ารออยู่ สำหรับเรามันไม่ได้เลย จุดพีคครั้งสุดท้าย เราตั้งใจจะไปไลฟ์สดหน้าบ้านเขา เรานั่งเครื่องเลยปิดมือถือ

แต่พอลงเครื่องมาก็เจอข้อความจาก Best Friend คุณปลา ข้อความที่เขาโพสต์ เป็นข้อความ ที่ไม่จริง โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้าย เขาพูดคำพูดที่รุนแรงที่เกี่ยวกับอดีตของเราซึ่งเราไม่อยากจำ เราไม่เข้าใจว่าเขาเอามาเกี่ยวข้องทำไม เราพยายามหนีจากเรื่องนั้นมาแล้ว แต่เขาก็เอามาเกี่ยวข้อง ปิ๋มเลยบอกว่าไม่เอาแล้ว ไม่ยุ่งกับคนนี้แล้ว ถ้ามันจะทำให้ชีวิตของปิ๋มแย่ลงขนาดนี้ คนๆ นั้น ปิ๋มขอไม่พูดถึง ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ

เกาะกระแสลุงพลไหม?

หมอปลา: เกาะกระแสบ้าบอคอแตกอะไร ผมไม่ใช่ปลิงไม่ใช่เห็บนะ ผมเข้าไปในวันที่เขาไม่มีใคร ผมออกมาในตอนที่เขาฟีเวอร์แล้ว เพราะเขาระแวงเราทุกอย่าง ทั้งเครื่องดักฟัง หรือกล้องวงจรปิด เรื่องมันเกิดตอนที่ผมตั้งรางวัลนำจับเอาไว้ 1 ล้านบาท ถ้าใครมีเบาะแสก็ให้เข้ามา ผมก็นัดเอาไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาเขากลับหายไป มารู้อีกทีว่าเขาอยู่กรุงเทพ หนึ่งในสองคนที่มาให้เบาะแส บอกว่าลุงพลไม่กล้าเจอเขาหรอก เขาบอกว่าจะยืนยันต่อหน้าลุงพล ผมพาทนายเกิดผลไปด้วย จะเอากระเช้าไปให้ผู้ว่าฯ ด้วย แต่เขาก็ไม่มา ผมออกมาตอนต้นเดือนธันวาคม ถ้าติดตามมาจริงๆ จะเห็นว่าตั้งแต่เริ่มต้นเป็นยังไง ผมออกมาตอนเรื่องมันไปกันใหญ่แล้ว

ทนายรัชพล: ในตอนนั้นลุงพลไม่มีอะไรเลย แล้วกำลังจะได้รับความไม่เป็นธรรม เราก็เลยเข้าไปช่วย ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะมีเอฟซีเยอะขนาดนั้น ตอนนี้ผมดูแลในเรื่องภาษีเป็นหลัก ล่าสุดคุยกันในวันที่โดนหมายจับ ผมก็ส่งข้อความไปให้กำลังใจ ป้าแต๋นน่าจะเป็นคนตอบกลับมาว่า ขอบคุณค่ะ

ทำไมถึงยอมเอาตัวไปแลกกับคนคนนี้ ทำไมยืดอกรับแทน?

หมอปลา: หลังจากมีการจุดธูปสาบาน ไม่มีใครคิดว่าเขาจะจุดธูปปักหัว ตอนนั้นชาวบ้านเขาไม่พอใจมาก ถึงขั้นจะไล่ออกจากหมู่บ้าน ผมก็เลยไปออกหน้าว่าผมเป็นคนสั่งให้ทำ เพื่อปกป้องเขา ไม่อยากให้ครอบครัวเขาต้องลำบาก แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้สั่ง เขาเคี้ยวถ่านเพื่อลบล้างสิ่งที่เขาพูดไป หมอจังหวัดบุรีรัมย์เขาแนะนำ เขาเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ตอนที่สนิทกัน เขาเคยพูดว่าคิดถึงน้องชมพู่ ผมก็ถามเขาว่า ถ้าวันหนึ่งหวยมันออกที่ลุง ลุงจะว่ายังไง เขาก็บอกว่าก็จะแฉให้หมด แต่ผมก็บอกว่าทำไมไม่พูดตั้งแต่ วันนั้น จะได้ให้ข้อมูลกับตำรวจได้

คุณยังเชื่อในความบริสุทธิ์ลุงพล?

ทนายรัชพล: วันนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสินเลย ไปด่าเขามากๆ แล้วถ้าเกิดศาลตัดสินว่าเขาไม่ผิด แล้วเขาออกมาฆ่าตัวตาย จะทำยังไงกันล่ะ รอให้ศาลตัดสินว่าเขามีความผิดก่อน แล้วเราค่อยมาว่ากัน พยานหลักฐาน ถ้ามันไปไม่ถึง ศาลอาจตัดสินยกฟ้องได้นะครับ

ถ้าศาลตัดสินลุงพลไม่ผิด ยังกลับไปร่วมงานกับเข้าไหม

ปิ๋ม ซีโฟร์: ถ้าวางเงินไว้ มีคนจ้างก็กลับไปร่วมงานค่ะ ปิ๋มรู้จักกับเขาแค่เรื่องงานเท่านั้น ปิ๋มสอนศิลปินระดับประเทศระดับโลกมาเยอะมาก ไม่จำเป็นต้องไปเกาะเขาเลยค่ะ

หมอปลา: ไม่กลับไปร่วมงาน ไม่รู้จะกลับไปหาพระแสงอะไร ผลคดีจะออกมายังไงก็เรื่องของเขา

คิดว่าไม่ได้มีคนทำแค่คนเดียว?

หมอปลา: ผมไม่ได้สงสัยใคร แต่ไม่เชื่อว่ามีคนร้ายคนเดียว เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทิ้งหลักฐาน เจอแค่วัตถุพยานไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

อยากฝากอะไรถึงลุงพล?

ปิ๋ม ซีโฟร์: ไม่ฝากถึงลุงพล ฝากถึงเอฟซีทุกท่านนะคะ ขอให้ดูข่าวอย่างมีสติ แค่นั้นค่ะ

ทนายรัชพล: ผมเป็นกำลังใจให้ลุงพล ขอให้ศาลยกฟ้อง

เหตุที่แยกจากลุงพล?

ปิ๋ม ซีโฟร์: เหตุที่แยกออกจากลุงพล ก็เพราะโดนเอฟซีเขามาถล่มนี่ล่ะ

หมอปลา: ผมเจอแทงข้างหลังแบบนี้มาบ่อยมาก หน้าผมเลยทนขนาดนี้แล้ว ใช้ครีมอะไรก็เอาไม่ไหวแล้ว ผมไปช่วยคนเสร็จ ดันไปโพสต์ขอบคุณว่าคนอื่นมาช่วย คำขอบคุณไม่ต้องให้ผมก็ได้ แต่การไปโพสต์ขอบคุณคนอื่นที่คุณทำน่ะ มันทุเรศ เราไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขา แต่ก็มีคนออกมาพูดว่าผมไปเกาะกระแสเขา จริงๆ แล้วผมไม่คุยกับใคร กับลุงพลผมก็ไม่ค่อยได้คุย แทบไม่เคยโทรโดยตรงไปหาเขาเลย

นิสัยลุงพลเป็นยังไง?

ทนายรัชพล: ผมแตกต่างจาก 2 คนนี้ เพราะผมแค่มาดูคดีให้ ไม่ได้ลงไปเป็นเพื่อนอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่มีคดีผมก็ไม่ได้ไป ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขามีนิสัยอะไรยังไง

คิดว่าลุงพลจะพ้นผิดไหม?

ทนายรัชพล: ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือกระทำความประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตาย แต่ตำรวจตั้งข้อหาว่าพรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็ก และเคลื่อนย้ายศพ ไม่มีตรงไหนบอกเลยว่าเด็กตายแล้ว แต่ละฝ่ายก็มีสิทธิ์ของตัวเอง ทนายตั้มก็สามารถยื่นประกันตัวได้ ฝั่งพ่อแม่น้องชมพู่ก็สามารถยื่นคัดค้านการประกันตัวได้ แต่ถ้าถามความคิดเห็นผม ผมคิดว่าศาลน่าจะยกฟ้อง

ทำไมต้องไปมอบตัวกับ ผบ.ตร.?

ทนายรัชพล: ตอนแรกทนายตั้มเขาไม่รู้ว่าจะมีการมอบตัว เลยให้ลุงพลมากรุงเทพก่อน มาคุยกันก่อน แต่มันมีหมายจับออกมา ตอนนั้นลุงพลน่าจะลงจากเครื่องมาพอดี เลยเดินทางไปมอบตัวกับผบ.ตร.

เจอเบบนี้เซ็งไหม?

หมอปลา: ผมไม่เซ็งหรอก ชีวิตมันต้องมีรสชาติ ถ้ามีคนขอให้ช่วย ผมก็ต้องเดินทางไปอยู่ดี

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/655091
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/655091