กรีน อัษฎาพร ใช้หนี้ 8 หลักแทนพ่อ ชม ธันวา ไม่แคร์อยู่ห้องเล็กๆ (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

10 มิ.ย. 2564 12:09 น.

รายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 โดย 3 พิธีกร มดดำ คชาภา, น็อต วรฤทธิ์, เอมมี่ มรกต สัมภาษณ์ กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ถึงชีวิตที่เจอวิกฤติ ใช้หนี้ 8 หลักแทนพ่อ หลังพ่อเสียชีวิต ซึ่งกรีนบอกว่า ทำงานสุจริตใช้หนี้ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ มีน้องสาวช่วย คนในครอบครัวก็ไม่ทิ้งกันจริงๆ ญาติๆ ก็ช่วยเหลือกัน มดดำชื่นชมที่กรีนมีแฟนที่ดีคือ ธันวา สุริยจักร พระเอกช่อง 7 ที่มาช่วยปลดหนี้ แต่ไม่มีโอกาสใช้เงินแบบฟุ่มเฟือย ชีวิตมี 2 อย่าง คือ เวลาไปเที่ยวคือไหว้พระขอให้ปลดหนี้เร็วๆ

ข่าวแนะนำ

มดดำถามว่า เคยคิดมั้ยว่าจะมีวันนี้ กรีนบอกว่า ไม่เคย แต่มองว่าวันนึงอาจเป็นของเราก็ได้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ มดดำบอกว่า เป็นคนพากรีนไปไหว้สุริยันจันทราที่พม่า บอกรู้สึกสงสาร ปกติไม่ค่อยสงสารชะนี แต่พอเจอบนเครื่องบินแล้วได้ฟังเรื่องราวก็รักเลย ต้องหาเงินใช้หนี้ เล่นละครกี่เรื่อง กล้าพูดเลยว่าทุกบาททุกสตางค์เอาไปโปะหนี้จริงๆ เด็กผู้หญิงวัยนี้โดยเฉพาะคนในวงการบันเทิง มันจะต้องได้ใช้อะไร แต่ไม่ใช่กรีน ได้เงินไปก็จะรีบไปต่อยอด โปะร้านเบเกอรี่ แต่ตอนนี้ธุรกิจปิดถาวร

กรีนบอกว่า ไม่ได้ทำธุรกิจนั้นแล้วเพราะโควิด จริงๆ อยากปิดมาสักพักแล้ว แต่อยากประคับประคองไปก่อน แต่สุดท้ายถ้าประคองมากกว่านี้ เราอาจต้องควักเลือดเนื้อของเรา ซึ่งเราไม่ไหวจริงๆ เรามีภาระ ธันวาก็มีภาระ ยอมตัดบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้เรามีชีวิตต่อไป มดดำถามว่า ก่อนพ่อจะเสีย เขาเรียกธันวาไปฝากฝังกรีนใช่มั้ย กรีนตอบว่า ก็มี เหมือนธันวาก็บอกว่า คุย ก่อนหน้านั้นป๊าจะสนิทกับธันวา ก็จะมีมายืมเงินธันวาบ้าง เหมือนฝากฝังให้ดูแล เขาดูเอ็นจอยกับธันวา ชอบคุยกันเรื่องชีวิต

กรีนบอกว่า คบกับธันวา 7-8 ปีแล้ว เอมมี่ถามว่า สิ่งที่พิสูจน์เขา คือเขาไม่ทิ้งเราตอนเราลำบากใช่มั้ย กรีนตอบว่า ใช่ เขาอยู่ด้วยทุกสถานการณ์ เขาทำให้กรีนอยู่ในลู่ทางที่ดีขึ้น ถึงแม้กรีนจะมีปัญหา ก็คือตัวเขา วิธีคิดของเขา เรื่องการเงิน สิ่งที่พ่อแม่สอนเขามา ทำให้เราไม่เป๋ แล้วเขาก็เป็นตัวอย่างให้กรีน คิดดูว่าเขาเป็นดารา เป็นพระเอก แต่เขายังอยู่ห้องคอนโดเล็กๆ แค่ 26 ตร.ม. เขาไม่แคร์เรื่องนั้น เขารู้ว่าถ้าเขาอยู่คอนโดเล็กๆ เขาไม่ต้องเสียค่าเช่าเยอะ เขาเป็นคนต่างชาติ เขาต้องต่อวีซ่าตลอด เขาต้องเก็บเงินมาทำแบบนี้

คนเราก็อยากรวย เขาก็มีเป้าหมายเหมือนกรีน เราอยากรวย อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เราเลือกที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวานด้วยกันทั้งคู่ เอาเงินไปต่อเงิน ตอนนี้ยอมลำบากไปก่อน มดดำถามว่า เคยคิดเรื่องแต่งงานรึยัง กรีนบอกว่า ยังไม่ได้มองเรื่องนี้ ตอนนี้มองเป้าหมายมากกว่า เขามีเป้าหมายที่ประเทศเขากับบ้านเขา พ่อแม่เขา เราก็มีเป้าหมายสำหรับแม่เรา เราอยากให้มันเคลียร์ คิดว่าฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอสำหรับเรา

มดดำถามว่า ช่วง 2 ปีที่เจออะไรหนักๆ บางวันกรีนทำงานไปน้ำตาไหลเลยจริงมั้ย กรีนถามว่า ทำไมถึงรู้ ก่อนจะเล่าว่า บางทีก็มีอารมณ์ว่าทำไมชีวิตเราต้องเจอแบบนี้ พอมองชีวิตคนอื่น ทำไมเราไม่ได้สบาย หรือไม่ต้องมีเส้นทางที่ขรุขระแบบนี้บ้าง สุดท้ายอยู่ที่มุมมองมากกว่า ถ้าเราเลือกมองคนที่สูงกว่าเรา แน่นอนเราไม่มีทางเทียบเขาได้ แต่เรามองคนที่เขามีน้อยกว่าเรา แต่เขายังสู้ชีวิตได้ บางคนไม่ครบ 32 แต่ทำไมเขายังสู้ได้ ทำให้เรามีกำลังใจเดินต่อไป ที่สำคัญกำลังใจสำคัญที่สุดคือครอบครัว กรีนเหลือแม่คนนึง อยากให้แม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ ฉะนั้นกรีนยอมลองสู้สักตั้งให้ถึงที่สุดเพื่อดูแลเขาให้ดีที่สุด

มดดำเล่าว่า วันที่กรีนจัดงานศพให้พ่อ กรีนขายรถ เพราะค่าจัดงานศพเดี๋ยวนี้ครึ่งล้าน แล้วตอนนั้นกรีนเป็นนางเอกมีชื่อเสียงแล้วด้วย เป็นผู้หญิงที่แกร่งมาก รถไม่เป็นไร แต่ต้องส่งพ่อไปให้ดี กรีนบอกว่าไม่เป็นไร สลับใช้กับแม่ได้ ไม่อยากเพิ่มภาระหรือหนี้สินให้มากกว่านี้ อะไรตัดได้เราก็ตัดไปก่อน อยู่แบบพอเพียงไปก่อน กรีนไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อซื้อของโน่นนั่นนี่เพื่อประดับร่างกาย ถ้าสำหรับทำงานเข้าใจได้ ดูที่ความจำเป็น แต่ถ้าชีวิตปกติจะไม่ซื้อหรือใช้จ่ายเยอะเกินความจำเป็น

มดดำเล่าว่า ธันวาตั้งเป้าไว้ว่าถ้าจะแต่งงาน ต้องมีเงิน 100 ล้านก่อน เมื่อธุรกิจสามารถทำเงิน 100 ล้าน วันนั้นคือวันแต่งงาน กรีนยอมรับว่า ใช่ คือเหมือนเป็นแรงกระตุ้น แรงจูงใจให้เราไปถึงจุดนั้นให้ได้ อาจจะไม่ถึงก็ได้ แต่วางเอาไว้ ตั้งเป้าไว้ก่อนให้เราไปถึงจุดนั้นให้ได้ มดดำบอกว่า ไม่อยากเชื่อสัมภาษณ์ดาราในยุคนี้ ยังมีดาราชีวิตแบบนี้อยู่ ก่อนจะเล่าว่า กรีนบอกว่าตอนเด็กเคยเอากระดูกมาต้มน้ำกินมาแล้ว กรีนบอกว่า เรื่องมันนานแล้ว

มดดำถามว่า ทำยังไงให้ยิ้มได้ในวันที่ลำบาก กรีนบอกว่า แม่และครอบครัวสำคัญที่สุด สุดท้ายต้องกลับมามองที่ตัวเรา มองคนรอบตัวเราคือคุณแม่ เขาคือกำลังใจสำคัญ คือแรงจูงใจอยากให้เขามีชีวิตที่ดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นเราจะมาท้อไม่ได้ ท้อได้แป๊บนึงแต่ต้องรีบลุกขึ้นมาสู้ ไม่ควรจะโทษใคร รีบทำจะได้ผลลัพธ์เร็วๆ มองไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่มองไปข้างหลัง อยากบอกทุกคนที่กำลังมีปัญหาตอนนี้ว่ามันมีทางออก เราอาจไปจับจดกับสิ่งอื่น ทำให้เรามองไม่เห็น แค่นั่งและตกตะกอนกับตัวเอง เราจะเห็นช่องทาง เห็นลู่ทางที่ไปถึงผลลัพธ์ได้.

ชมคลิป

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2112462
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2112462