พระเอกดัง เติ้ล ชีวิตพลิกผัน งานหด-ติดเหล้า ลำไส้พัง รักษาหมดเป็นล้าน


ให้คะแนน


แชร์

ข่าวแนะนำ

และในเฟซบุ๊กของ เติ้ล ธนพล ก็ได้เขียนเล่าวิกฤติชีวิตที่เรียกว่า พลิกผันอย่างหนัก จากหน้ามือเป็นหลังมือ เจอจุดเปลี่ยนมากมาย 

“เริ่มต้นเลยแล้วกันเอาเป็นว่า ชีวิตที่ไม่คิดว่าจะพลิกผันเป็นเเบบนี้ หลังจากมีคดีความชีวิตก็เปลี่ยนไป เครดิตที่มีก็หมด แต่ก็ไม่คิดอะไรเพราะยังพอมีงานทำ แต่ก็น้อยลง ยังพอใช้ชีวิตเป็น แต่ก็มีจุดเปลี่ยนคือ เพื่อน ญาติคนรู้ใจ(เเฟน) คนรอบๆ ตัว เริ่มมองแปลกๆ เหมือนผมไปฆ่าคนตาย ทำความผิดแบบมึงไม่น่าอยู่บนโลกนี้ได้  หรือเราคิดไปเองก็ไม่รู้

คิดไปทั่ว คิดไปหมด ระแวงไปหมด จุดจบคือหาสิ่งที่ทำให้ลืมและคิดบวกไม่อยากพูดถึงญาติชั่วๆๆนะ หลอกเงินทองเหมือนเปรต พอละอย่าให้ความสำคัญมัน เล่าต่อวิธีลืมคือ เก็บตัวกินแอลกอฮอล์ ยานอนหลับไปวันๆจนน็อกเข้า รพ.

รอบแรก 5 วัน หมดเงินไป 1,040,000 อ่านไม่ผิดหรอกคับ หนึ่งล้านสี่หมื่นบาท มัดยางลำไส้ เป็นแผลในกระเพาะ ถ่ายเป็นเลือด

บทที่ 2 เคยกลัวที่ไหน ทำเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือโควิด รอบแรกอยู่บ้านซิครับ ทำไรล่ะเหมือนเดิมดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่ม แต่คราวนี้ทำกับข้าวกินนะ สุดท้ายเบื่อจ้างช่างTattooมาสักที่บ้านสบาย สักไปด้วยเมาไปด้วย จนได้ฉายา ขวัญใจรถเขียว

งงดิคือไร มันคือรถเก็บขยะ จะมาทุกวันจันทร์ แต่เรากินวันนึงขั้นต่ำวันละ 3 ลัง เบียร์นะ บ้านอื่นเค้าเก็บไม่เกิน 5 นาที บ้านผมเป็นชั่วโมง เพราะต้องคัดขวดแยกเลยได้ฉายาขวัญใจรถเขียว มา จบโควิดรอบแรกก็ออกกำลังกาย

เฮ้ยๆๆ หุ่นกลับมานะแทบจะเหมือนเดิม ทุกอย่างกลับมา งาน อย่างเดียวแหละความมั่นใจกลับมาได้แป๊บเดียวรอบ 2 ก็มา ใช้คำว่า ท้อ พินาศ

แต่รอบนี้ไม่ค่อยกลัวนะ แต่เงินเริ่มหมด เลยรู้จักคำว่าคิดหน้าคิดหลังเยอะๆ อยู่บ้านออกกำลัง เอาตำแหน่งขวัญใจรถเขียวกลับมา กิน เมา หลับ วนไป ไม่นานรอบ 2 คิดถึงแม่กับพ่ออยากกลับบ้าน แต่เค้าไม่ให้กลับ อยู่คนเดียวในบ้าน

ก็เริ่มใช้คำว่าจะแย่งข้าวหมาแดกอยู่แล้ว ในที่สุดฟ้าก็เปิด จากจะหมดตัว รอบนี้เริ่มรู้ชะตาชีวิต หมดซิครับ เริ่มหา รอบนี้ใช้คำว่าจะแดกหมา เอาตัวเองไม่รอดจนเป็นลำไส้ แต่คราวนี้แย่แบบสุดๆ ไม่มี รพ.ให้เข้า ไม่มีเตียงไม่มีเลือด แต่อาการเก่าก็กลับมา แต่คราวนี้แย่กว่าเก่าเป็น 10 เท่า

คืออาเจียนเป็นเลือดที่อ่างล้างหน้า 7-8 รอบ แบบเต็มอ่าง เป็นแบบลิ่มเลือดเกือบช็อก ดีนะมีพยาบาลเป็นพี่เลยโทรบอกว่าจะช็อก เลยได้กลูโคสกับน้ำเกลือหมดไป 5 ขวด วิตามินอีกเพียบ อัดมันเข้าไป แล้วนู่นเอาว่าเลือดจะหยุดไหม สรุปหยุด ออกตูดต่อ อ้วก 2 วันเหม็นคาวไปทั้งบ้านแล้ว

ทุกอย่างก็เหมือนจะดี แต่ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ต้องใส่แพมเพิร์สตลอดแล้ว เลือดก็หยุด ดีใจว่าเราทำได้ แต่เจ้ากรรมริดสีดวงแดก นั่งไม่ได้ไปเป็นสัปดาห์ หลังจากนั้นก็ไปทำบุญทั้งๆ ที่ยังไม่หาย ลองคิดดูว่าจะเป็นยังไง ลำไส้พองเป็นริดสีดวง แถมขับรถขึ้นท่าสองยาง

พระเจ้า ดีนะมีแค่ 2 โค้ง ซ้ายกับขวา ตายซิคับ ก่อนขึ้นเจอไวน์ชั้นดีของโปรดซิครับผม ใครจะอดใจไหว ผมไม่ใช่นักบวช แดกซิครับ 2 เเก้วนิดๆ เฮ้ย ไม่มีอาการเอาละว่ะ ได้ใจดิ กลับลงมา ซ้ำซิครับผม 2 แก้วก็ยังไม่เป็นไร แถมหลับสบาย

วันที่ 3 จะกลับบ้านมาพักโรงแรมแห่งหนึ่ง วันนี้เพลียเหนื่อยเลยไม่ดื่ม กลับเข้าห้องพักอาบน้ำกำลังจะนอน เอิ่ม คิดตามนะเหมือนพะอืดพะอมจะอาเจียน กระอักออกมาเหมือนอมปีโป้ 3 ชิ้น เลยเข้าไปบ้วนทิ้งในอ่างล้างหน้า

ฉิบหายนั่นลิ่มเลือด แต่ก็คิดว่าดีคงเป็นยาที่กินเข้าไปแล้วสีมันละลาย เลยมานั่งดูทีวี สักพักอาการก็เกิดขึ้นอีกคราวนี้เอาถังขยะมาวางใกล้ๆ ผลที่ได้คือเต็มถังดิครับเลือด เจ้ากรรมดันปวดขี้ เลยไปเข้าห้องน้ำ โอ้ ทั้งขี้ทั้งอ้วก พอออกมาภาพตัด

ล้มหัวกระแทก ขี้แตก กระอักเป็นเลือด ดีนะโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ ไม่งั้นต้องกลับบ้านเก่า วันแรก icu ให้เลือดสบายตัว พอวันที่ 2 ต้องไปศัลยกรรมชายเริ่มกลัวทั้งชีวิตไม่เคยอยู่ห้องรวม พัดลม เชื้อโรคก็เยอะ ภาพเก่าๆ เริ่มกลับมา เพราะแม่เคยทำงานในตึก icu เจอคนไข้แบบทุกรูปแบบ

แล้วทุกอย่างก็เป็นเหมือนที่คิดไว้เป๊ะ พยาบาลพูดด้วยคำแรกคือลุง 2 คนข้างๆ แค่ดึงสายช่วยหายใจเค้าก็ไปแล้ว เออดีไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง คือแม่กับพ่อผมทำงานโรงพยาบาลมาก่อน ผมก็โตมากับโรงพยาบาล กิน นอน มาเหมือนกัน เลยรู้จักเครื่องช่วยชีวิตแทบทุกเครื่อง

คืนแรกคงเสียเลือดไปมากหลับสบายมาก รู้สึกเออว่ะมันก็เหมือนห้องพิเศษ คืน 2 เริ่มนอนไม่ได้ มีเพื่อนเป็นแอลกอฮอลิสซึ่มมาเพิ่ม เพ้อทั้งคืน ไม่จบเท่านั้น เพื่อนคงมีเพื่อนชื่อเดียวกับผมหรือคงทะเลาะกันมา เรียกกูทั้งคืน

แถมตี 2 ด่าอีกว่ามึงไม่ต้องพูดมาก เงียบๆ ไป เอิ่ม ไม่มีใครพูดอะไร แต่ผมก็หลับเพราะคงเพลียเสียเลือดมาเยอะ เอาย่อๆ นะ คืน 3 กับ 4 รวมทุกอย่าง ทุกเตียงต้องทำซักชั่นทั้งวัน ทั้งคืน เรียกว่ารวมมิตร

ซักชั่นคือผู้ป่วยที่เจาะคอแล้วต้องดูดเสมหะออก เพราะเค้าจะหายใจไม่ได้ รวมถึงเพื่อน 2 เตียงข้างๆ ผมตั้งชื่อเรียกเค้าว่าลุงเนื้อเปื่อย คือจับตรงไหนก็เนื้อหลุดไปหมด วัดความดันก็ไม่ได้ เนื้อปลิ้นไปหมด ส่วนเตียงข้างๆ ผมเรียกลุงน้ำหวาน ไม่ใช่แกชอบของหวานนะ แต่มดขึ้นทั้งตัว นี่แหละต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านก็หาเข้าห้องพิเศษไม่ได้

เพราฉะนั้นดูแลสุขภาพตัวเองกันดีๆ นะครับในยุคนี้ ส่วนผมตัดสินใจตรวจทุกอย่างในวันนั้น ไม่เคยกลัวตาย แต่กลัวเป็นภาระของคนอื่นๆ

ตรวจทุกอย่างเลือด เชื้อ ปอด ปกติทุกอย่าง โชคดีไป มีสิ่งที่แนะนำมาสำหรับลำไส้นะ เพราะเคยไปล้างมาเป็นราคาที่สูง แต่ผมทำเองที่บ้านคือผมใช้ดีทอกซ์ก่อน แล้วใช้คอลลาเจนปัญหาต่างๆ มันก็หายไป ถ่ายยาก ลำไส้สกปรก ตดมีกลิ่นเหม็น ลดน้ำหนักไม่ลง ท้องพอง สิว ฝ้า กระ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2112742
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2112742