บัว ปรับตัวภาวะโควิด มุ่งวางแผนชีวิต-แง้มสเป๊กหนุ่ม


ให้คะแนน


แชร์

บัว ปรับตัวภาวะโควิดมุ่งวางแผนชีวิต-แง้มสเป๊กหนุ่ม – เรียกว่าเดินเรื่องกำลังเข้มข้น สำหรับละครเรื่อง “พราวมุก” ทางช่อง 3 ที่นางเอกสาว ‘บัว’ นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ โคจรมาเจอพระเอกคู่จิ้น ‘ภณ’ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ อีกครั้ง ทำเอาแฟนๆ ฟิน จิกหมอน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เป็นยังไงบ้าง เจอกับ ภณ เรื่องนี้?

บัว – “ถือว่าดีนะคะ เป็นการรอคอยของแฟนๆ ที่เขารอมานาน กระแสตอบรับก็โอเค เราเคยทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว รู้ทางกัน แล้วมาเจอทีมงานเดิมด้วย ก็สบายใจ การทำงานง่ายค่ะ ปิดกล้องไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว”

เรื่องนี้ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทเยอะมาก?

บัว – “ใช่ค่ะ ถือว่ายากมาก ต้องทำการบ้านเยอะมาก ด้วย คาแร็กเตอร์ตัวละคร พราวมุก ที่บัวได้รับ มันดูไกลตัวบัวด้วย ในเรื่องต้องเป็นดีเจ ทุกคนจะรู้ว่าบัวไม่ถนัดเรื่องเพลง ดนตรี จังหวะดนตรีสักเท่าไหร่ ก็เลยจะมีความกังวล เรารู้ว่าสกิลเราไม่ค่อยมีตรงนี้เลยไปเรียนดีเจ ฝึกวิธีการใช้เปิดปิดเครื่อง เพื่อทำให้เป็นประมาณหนึ่ง ฝึกเต้นด้วย ให้รู้สึกว่าเรารู้จักร่างกายตัวเอง รู้จักจังหวะ พอไปเรียนมาก็สบายใจขึ้นนิดนึง อย่างน้อยมีสกิลเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี ตอนถ่ายหน้าเครียดมาก ทุกคนรู้ว่าเครียด เราก็ตั้งใจด้วยนะ เพราะอยากทำให้ออกมาดี ซีนเปิดด้วยก็เลยกดดันตัวเองนิดนึง ก็กังวล ลุ้น แต่พอตัดออกมาแล้วก็สบายใจ ทุกคนชมว่าโอเค”

ปรับตัว ปรับลุกส์เยอะไหม เพราะความเปรี้ยวของ พราวมุก?

บัว – “ทำการบ้านเยอะ เรื่องนี้คุมอาหาร ลดน้ำหนักด้วย กลัวว่าจะไม่เซ็กซี่ บุคลิกบัวเป็นสาวหวาน เรียบร้อย ต้องมาเป็นสาวเซ็กซี่ก็จะงงว่าต้องเซ็กซี่ยังไง เราเล่นไปแล้วมันดูเซ็กซี่มั้ย ตอนแรกกังวล แต่ก็เล่นไปตามความรู้สึกนะ ก็ออกมาอย่างที่ คุณผู้ชมเห็น ก็ให้คุณผู้ชมตัดสินแล้วกันว่าเป็นยังไง”

เรื่องนี้ต้องเป็นสาวรุกด้วย ไม่ใช่เหนียมๆ?

บัว – “ใช่เลย อันนี้รุกแรงมาก เขินนะ ตอนซ้อมก็เขิน แต่พอเล่นจริงก็โฟกัสกับบท เล่นเต็มที่ เพราะไม่อยากเทก ไม่อยากเสียเวลา ก็โชคดีที่เป็นภณด้วย เพราะเราสองคนตั้งใจด้วยกันทั้งคู่ ทำการบ้านกัน เพื่อให้ออกมาง่าย ไม่ต้องเหนื่อยกันเยอะ รู้ทางกันอยู่แล้ว ทุกครั้งจะมีการซ้อมกันเพื่อความง่าย ก็โอเคคลิกค่ะ”

เรื่องนี้อะไรยากที่สุด?

บัว – “เรื่องการเป็นดีเจ การเต้นค่ะ (หัวเราะ) ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเต้นได้หรือเปล่า ก็เลยต้องไปเรียน แต่หนูก็รู้สึกว่าจังหวะหนูทำไมงงๆ หนูก็เรียนดนตรีมานะ แต่ก็งงๆ ว่าทำไมโตขึ้นจังหวะมันไม่ได้ หรือยังไง”

ในเรื่องดราม่า ไม่กังวล?

บัว – “ถามว่ากังวลมั้ย ก็รู้สึกว่าสามารถเข้าถึงดราม่าได้ง่ายกว่าการที่ต้องมาโชว์สกิลการเป็นดีเจที่เก่งมาก ต้องโชว์การยั่วยวนในแบบเซ็กซี่ แต่จริงๆ คือความกังวลนั่นแหละ แค่เราไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดออกมา ยังไง”

พี่ไก่ วรายุฑ ผู้จัด ชมว่าเล่นดี น่ารัก ไม่เคยเห็นจริตบัวแบบนี้มาก่อน?

บัว – “อุ้ย ดีใจค่ะ จริงๆ ก็ถือว่าพลิกคาแร็กเตอร์เหมือนกันนะ คนดูอาจจะไม่เคยเจอบัวในแบบนี้ แนวเปรี้ยว ฟาดฟัน สู้คน ฉะกับพระเอกอยู่ตลอด แต่ก่อนจะเป็นดราม่าเรียบร้อย เป็นผู้หญิงถูกกระทำ แต่เรื่องนี้สู้คน ไม่ยอมเหมือนกัน ถือว่าต่อปากต่อคำที่เหนื่อยมาก ไดอะล็อกก็ยาวมากด้วย อารมณ์พราวมุกก็เหมือนสู้คน แต่ในใจลึกๆ ที่โดนมาก็เจ็บ แล้วก็เล่นสายตา ดูอารมณ์ดีๆ”

แต่ก็มีอารมณ์คอมเมดี้เหมือนกันใช่ไหม?

บัว – “แต่ก็สู้คนอื่นไม่ได้นะ คนอื่นเอาไปกินหมดแล้ว พ่อแม่เป็น คอมเมดี้ไปเลย แต่พราวมุกเรื่องราว ที่เจอมันหนักไปหมดเลย เรื่องครอบครัว อดีตในวัยเด็ก ถูกบูลลี่ พระเอกไม่รัก มีปมในใจ พอมาเจอปัจจุบันก็ยังพูดไม่ดีใส่อีก โดนหลายช่องทาง ตัวพราวมุกเลยไม่ค่อยได้สดใส ร่าเริง ตลกเหมือนคนอื่นๆ จะมีความเทาๆ อยู่นิดหน่อย มีอะไรต้องคิดอยู่ตลอดเวลา”

ออนแอร์มา กระแสดีมาก?

บัว – “ใช่ ก็ลุ้นมาก เขาก็บอกกันว่าสมการรอคอย 3 ปี คือคนที่เป็นแฟนคลับเขาจะบอกว่าสมการรอคอย สนุก คนที่เป็นผู้ชมที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับเรา เขาติดตามและมาพูดชมด้านอื่นๆ ด้วย มีพูดว่าละครเรื่องนี้ไม่ได้ขายแค่จิ้นนะ ขายเรื่องราว ขายการถ่ายทำ แสงสีอะไรดีหมด เนื้อเรื่องตัดกระชับ เขาชมทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบภาพรวมด้วย ก็ลุ้นนะว่าจะชอบมั้ยพอได้อ่านคอมเมนต์ ก็รู้สึกแฮปปี้”

เรื่องนี้มีถ่ายที่เกาหลีด้วย?

บัว – “ต้องบอกว่า บัว ภณ และค่ายนี้ถูกกับเกาหลีนะ เพราะเรื่องที่แล้วก็ได้ไปถ่ายที่เกาหลีด้วย ภาพสวย เพราะภาพที่ออกมาก็ถูกพูดถึงว่าเหมือนซีรีส์เกาหลี ก็ได้ภาพสวยและบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ก็ราบรื่น ทุกคนเป็นทีมเวิร์กมากๆ ทุกคนช่วยกันทำงานเต็มที่มาก แต่อุปสรรคของการไปถ่ายที่เกาหลีคือความหนาว เพราะอากาศหนาวมากๆ ช่วงแรกที่ไปถ่ายเป็นซีนกลางคืน แล้วกลางคืนหนาวมาก พราวมุกเปิดตัวมาในชุด สายเดี่ยวซีทรูบางๆ แต่อากาศ 3 องศา ตอนถ่ายหลายเทกมาก เพราะพูดไม่ได้ สั่นไปทั้งตัวเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ ไปถ่ายกันอยู่อาทิตย์หนึ่ง ยังมีซีนฮันนีมูนอีก”

นอกจาก พราวมุก ตอนนี้มีผลงานเรื่องอะไรอยู่บ้าง?

บัว – “มี แค้นรักสลับชะตา เพิ่งปิดกล้องไป เล่นคู่กับกระทิงขุนณรงค์ ได้กลับมาเล่นกับกระทิงอีกรอบก็เรียกว่ากระทิงพลิกบทเหมือนกันนะ เพราะเรื่องพราวมุก เขาจะมาดขรึมๆ หน้าตึงๆดูฉลาด แต่เรื่องนั้นร้ายสุดขั้วนะ ส่วนในพาร์ตของบัวก็มุ้งมิ้ง น่ารักดี บัวก็ชอบนะ และก็มีอยู่อีกเรื่อง อ้อมฟ้าโอบดิน เล่นกับเพื่อน คณิน ที่กำลังถ่ายทำอยู่ แต่ตอนนี้หยุดถ่าย ก็ถือเป็นความโชคดี เพราะไม่ได้หยุดพักเลย (หัวเราะ)”

ช่วงนี้เป็นช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 ใช้ชีวิตยังไงบ้าง?

บัว – “อยู่แต่บ้านเลยค่ะ ไม่ได้ออกไปไหนเลย ก่อนหน้านี้ไปอยู่พื้นที่เสี่ยงมา เลยกักตัว 14 วัน อยู่ข้างบนบ้านแบบไม่ได้เจอใครเลย เวลากินข้าวให้พ่อมาวางให้ตรงบันได ก็ถือว่าปรับตัวได้จากที่โควิดเมื่อปีที่แล้ว เหมือนก่อนหน้านี้ถ่ายละคร 7 วันไม่ได้พัก ก็เป็นการได้พักไปในตัว อะไรที่ได้ทำอยู่กับบ้านก็ได้ทำ จัดบ้านเก็บบ้าน พอครบกักตัวบัวก็ไปตรวจนะ บัวไปตรวจมา 3 ครั้งแล้ว กลัวว่าจะเอามาติดพ่อหรือเปล่า เพราะพ่ออายุเยอะ ก็ไม่ได้ออกไปไหน ระวังตัวมากกว่าเดิมค่ะ ตอนนี้อยู่ที่บ้านดูซีรีส์ อย่างน้อยก็สร้างความบันเทิง แต่เราเป็นนักแสดง ก็เหมือนได้ทำ การบ้าน หาความรู้เพิ่ม หรือระบายสีเพราะรู้สึกได้ว่าหนูสมาธิสั้น ด้วยโซเชี่ยลเนอะ พอมีโทรศัพท์ก็เหมือนจะไม่มีสมาธิ การระบายสีก็ช่วยให้เราไม่ต้องจับโทรศัพท์ 2-3 ชั่วโมงได้ เป็นการฝึกสมาธิ และตั้งแต่โควิดปีที่แล้ว ได้ทำตลาดปันน้ำใจ คุยกับพี่แพร (ผจก.) โม (มนชนก) พรีม (รณิดา) เปรี้ยว (ทัศนียา) ว่าเราอยากจะช่วยเหลือคนที่มีผล กระทบกับเรื่องนี้ ว่าอะไรที่เราพอทำได้ก็ช่วยพ่อค้าแม่ค้าที่เขากระทบ คือช่วยรีวิว เป็นสิ่งหนึ่งที่เราสามารถช่วยได้ค่ะ”

ยังมีธุรกิจที่ทำอยู่ด้วยไหม?

บัว – “เมื่อปีที่แล้วบ้วทำสเปรย์แอลกอฮอล์ขาย ร่วมกับคนที่รู้จักกัน ก็ทำขายมาถึงตอนนี้ แต่ ณ วันนี้ไม่ได้ขายแล้วเพราะของหมด ก็กำลังคิดว่าจะอยากต่อยอดยังไงคิดว่าจะทำอะไรต่อดี กำลังคิดค่ะ โควิดครั้งที่แล้วทำให้เราคิดว่าต้องวางแผนชีวิตดีๆ แล้ว เริ่มคิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง แล้วได้รับผลกระทบ ต่อจากนี้เราจะทำอะไรได้บ้าง ต้องหาแล้วเพราะบัวก็ต้องดูแลครอบครัว มีภาระที่ต้องรับผิดชอบด้วย ต้องดูแลตัวเองให้รอดด้วยประมาณนั้นค่ะ”

เรื่องหัวใจเป็นยังไงบ้าง เป็นสีชมพูหรือยัง?

บัว – “ยังไม่สีชมพูค่ะ ถามว่าโสดมั้ย เรียกว่าโสดได้ เพราะไม่ได้มีแฟน ไม่มีใครแต่ถ้าถามว่ามีคนคุยด้วยมั้ย ก็มีคนเข้ามาคุยนะ แต่เราก็ต้องลองคุยดูว่าโอเคคลิกมั้ยถ้าไม่คลิกก็จบไป ถามว่าปิดกั้นมั้ย ไม่ได้ปิดกั้น ถ้าใครเข้ามาก็คุยอยู่แล้ว ต้องคุย กันไประยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้อยากโฟกัส ตรงนั้น คืออยากโฟกัสกับงานก่อน เราอยู่คนเดียวเรามีความสุขดี ถ้าจะมีแฟนสักคนแล้วทำให้เรามีความสุขก็โอเค ก็ดี แต่ถ้าเกิดว่าทำให้เราทำงานไม่ได้ ทำให้เราไม่มีความสุขก็ไม่มีก็ได้ เพราะตอนนี้มีความสุขแล้วค่ะ”

เป็นคนในวงการหรือเปล่า?

บัว – “จริงๆ ไม่เกี่ยงเลย ถ้าจะมีใครมาอายุก็ไม่เกี่ยงด้วย เพราะรู้สึกว่าอายุไม่สำคัญแล้ว อยู่ที่ความคิดของแต่ละคนมากกว่า แต่สำหรับตัวบัวคือต้องมีภาวะความเป็นผู้นำนะ ชอบคนที่โตกว่าในความคิด ก็ต้องดูเยอะ บัวคบใครแล้วจริงจัง จริงจังกับความรัก มองระยะยาว อยากคุยกันให้รู้ใจ ไม่ใช่ไม่คลิกแล้วก็เลิกไม่ใช่แบบนั้น คืออยากให้รู้สึกมั่นคง รู้สึกว่าใช่สำหรับเราถึงจะตัดสินใจว่าคนนี้จะเป็นแฟนกับเราจริงๆ ค่ะ”

ตอนนี้เป็นคนในวงการหรือคนนอก?

บัว – “ให้เป็นเรื่องส่วนตัวต่อไปก่อน ดีกว่า คือยังไม่ถึงขนาดขั้นที่รู้สึกว่า คนนี้นะ ยังอยู่ในขั้นคุยเป็นเพื่อนกันไปก่อนที่ต้องทำความรู้จักกันไปอีกนานค่ะ”

เรียกว่าค่อยๆ ศึกษากันไปก่อน แต่คนก็เชียร์ ภณ นะ?

บัว – “(หัวเราะ) ค่ะ สำหรับ ภณ ก็เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีต่อกันในการทำงาน เราเล่นละครด้วยกันก็จะรู้สึกว่าเราวางใจกับคนคนนี้ค่ะ ก็เป็นแบบนั้นมากกว่าค่ะ”

อนงค์ จันทร

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6448925
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6448925