เห็ดเผาะ เปิดใจ พิษโควิดทำธุรกิจเจ๊งหมด บ้านรถถูกยึด จ่อย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


ให้คะแนน


แชร์

ชีวิตจริงที่ไม่ตลก เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม หลังเจอมรสุมโควิด ทำธุรกิจอะไรก็เจ๊งหมด จนถูกยึดบ้าน ต้องขายรถ เตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ชีวิตจริงของนักแสดงตลกที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เปิดใจว่า ชีวิตจริงไม่ได้ตลกเลย แถมยังมีแต่น้ำตาเพราะการลงทุนกับธุรกิจที่คิดว่าดี คิดว่าใช่จะพาให้ครอบครัวสบาย ทำเงินได้ดี แต่สุดท้ายกลับล้มไม่เป็นท่า จนตัวเองสติหลุดต้องเข้าวัดบวชเพื่อเรียกสติ เผยเตรียมย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ

ต้องบอกว่า เห็ดเผาะ เป็นนักแสดงตลกอีกคนที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ผู้หญิงตลก ๆ เสียงพูดไม่ชัด ตาเหล่ ๆ? “นั่นเป็นคาแร็กเตอร์ค่ะ ที่เกิดจากซิทคอมเรื่องหนึ่งที่ไปแสดง แล้วนักแสดงในบทที่เราได้รับต้องมีลักษณะประมาณนั้น”

แต่พอมีโควิดเข้ามา งานทุกอย่างหยุดหมดเลยใช่ไหม? “มันก็หยุดทุกอย่างเลยค่ะ ชีวิตของเราพอเจอคนร่วมงาน ญาติ คนรู้จัก เขาก็จะถามเราว่า เห็ดเผาะเป็นยังไงบ้าง เราไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเลยเราก็ตอบว่าเป็นเหมือนพี่นั่นแหละ แต่บังเอิญเราดวงไม่ดีด้วยมันเลยเพิ่มความซวยขึ้นไปอีกเกี่ยวกับการทำธุรกิจของเรา ซึ่งเราเริ่มทำเลยคือ เปิดมินิมาร์ทที่สวนผัก ตอนนั้นมันเป็นอพาร์ทเม้นท์ของคนที่รู้จัก เราไปดูทำเลแล้วรู้สึกโอเค เลยถามเขาว่าเราเปิดได้ไหม ค่าเช่าประมาณเดือนละ 6,000 บาท ช่วงแรก ๆ ที่เปิดเราไปขายเองเลย ขายดีเลยนะคะ ช่วงเช้าขายดีมากที่สุด กลางวันจะนิ่ง ๆ หน่อย ส่วนเสาร์ อาทิตย์ เคยขายได้เป็นหลักหมื่น แต่มันก็เป็นดวง พอเราขายของตรงนี้ก็จะมีงานเข้ามาให้ไปทำเพราะตอนนั้นคาเฟ่ยังเปิดอยู่ (เปิดแบบปลาย ๆ พระราม 9 แล้ว) เราก็ให้ลูกดูบ้าง หลานดูบ้าง จากที่เราขายได้วันละ 6-7 พันบาท กลับมาขายได้วันละ 300 บาท เพราะว่าเด็กไม่ได้ใส่ใจก็เจ๊งไป พอหลังจากนั้นเราอยากเปิดร้านขายสเต็ก พอได้เงินมาก็เปิดตั้งชื่อร้านว่า สเต็กเห็ดเผาะ คนไม่เข้าร้านเลยเพราะคนเข้าใจผิดว่าสเต็กใส่อะไร ถึงขนาดที่บางคนเข้ามาถามว่าเห็ดมันสามารถมาทำสเต็กได้เหรอ แล้วพ่อถั่วแระ เขาก็มาทักเราว่าทำไมไม่เอารูปตัวเองขึ้นโชว์ที่ร้าน เราไปทำตามก็มีคนรู้จักเข้ามาทานที่ร้าน แล้วแฟนเราเป็นคนทำแล้วมีอันต้องไปทำงานอีก เราก็ให้พี่ป้าน้าอามาอยู่ที่ร้านช่วยก็เละอีก พอเรากลับมาจากทำงานมาที่ร้านลูกค้าก็มาบอกเราว่ารสชาติที่เขาเคยกินไม่ใช่แบบนี้ แล้วไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย เราทำมาทุกอย่างเลยค่ะ มินิมาร์ท ร้านสเต็ก ปลาเผา ร้านนวด เจ๊งหมดเลย เพราะเราไม่ได้คุมเองด้วย และโควิดเข้ามาด้วย ซึ่งการทำธุรกิจของเราพอทำไปทำมากลายเป็นหนี้เลย”

เห็นบอกว่าโดนยึดรถ ยึดบ้าน เพราะไม่มีจะผ่อนจริง ๆ? “ไม่มีเลยค่ะ ตอนแรกที่ทำธุรกิจไม่มีการกู้เลย แต่หลัง ๆ มาเริ่มมีกู้ เพราะตอนแรกเราทำงานได้เงินมาเอาไปลงทุน แต่พอเรายิ่งลงทุนยิ่งจมลงไป เราก็ยิ่งเอาเงินไปถมที่จมลงเพื่อให้มันอยู่ได้ แล้วก็มีธุรกิจอีกตัวที่ทำ เราไปรับมาแล้วก็มาปล่อยต่อเพื่อจะเอากำไรแต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มันกลายเป็นดินพอกหางหมู พอสินค้าที่เรารับมาส่งมาไม่ได้เพราะว่ามันมาจากต่างประเทศ พอมาไม่ได้เรากลายเป็นหนี้เลยเราต้องรับผิดชอบ จากมีเงินซัพพอร์ตกลับกลายเป็นไม่มีไปเลย เราก็ต้องขายโน่นขายนี่ยอมให้เขาเอารถไปขายจนหมดแล้วเหลือเงินอยู่หลักหมื่นก็ไปซื้อรถคันหนึ่งมาไว้ใช้ ก็มาถึงจุดพีกมาก ๆ เลยเหลือคันนี้คันเดียวแล้ว ช่วงที่เรามาอัดรายการ ไปขับรถชนหกล้ออีกแล้วรถคันนี้ที่เราขับไม่มีประกันด้วย กลับต้องไปเสียเงินให้กับคู่กรณีอีก ที่เล่ามาทั้งหมดคือแค่ย่อ ๆ นะคะ แต่รายเอียดคือหลายอย่างมาก”

ชีวิตของเห็ดเผาะ ถ้าประคับประคองคนเดียวยังโอเค แต่เห็ดเผาะต้องประคับประคองทั้งครอบครัว จนเราป่วยเป็นซึมเศร้า ไบโพลาร์? “ตอนแรกที่เราป่วย เพราะเล่นตลกมาตั้งแต่ 4-5 ขวบแล้วเราก็ไปเล่นกิเล แล้วก็กลับมาเล่นตลกต่อ เราเหมือนกับว่ามีอารมณ์แปรปรวนหัวร้อนง่าย ตอนนั้นเราก็คิดว่าคงเป็นอารมณ์ของผู้หญิงที่ต้องรับมือทุกสิ่งทุกอย่างเองหรือเปล่า จนกระทั่งมาวันหนึ่งที่คนพูดแล้วเรารู้สึกว่าผิดใจไม่ได้เลย มีวันหนึ่งที่แฟนมาพูดเกี่ยวกับเรื่องร้านเรื่องอะไร”

ก่อนหน้านี้มีซินแสทักเราแล้วว่า ไม่ได้มีดวงเกิดมาเพื่อเป็นแม่ค้า คุณเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง คุณควรมูฟทุกอย่างกลับคืนให้หมดเถอะ เพราะไม่งั้นทุกอย่างจะเจ๊ง “พอเราถูกทักเราก็ยังไม่เชื่อ ประกอบกับแฟนก็อยากให้เราหยุด เขาก็มาบอกเรากลับกลายเป็นทะเลาะกันแต่ทุกครั้งที่ทะเลาะแฟนจะหยุดแล้วยอมไป แต่วันนั้นเขาพูดแค่ว่า เธอไม่ฟังฉันเลย สติเราหลุดไปเลย ไปกระชากเอาราวเหล็กที่ใช้สำหรับแขวนตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วก็ใช้ท่อนเหล็กตีแฟนทุกอย่างที่ทำคือเสี้ยววินาทีเลยค่ะ แต่พอรู้สึกตัวเรายืนอึ้งกับสิ่งที่เราทำลงไป แล้วเราก็พยายามเดินออกไปวนถามตัวเองว่าเราทำอะไรลงไป แล้วก็ก้มกราบแฟนขอโทษในสิ่งที่เราทำกับเขาลงไปขอโทษเขาทั้งคืนเลยวันนั้น แต่เขานิ่งจนเราไม่รู้จะทำยังไง เราก็เข้าไปในห้องพระ กราบพ่อแก่ตั้งจิตไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมครอบครัวถึงเป็นแบบนี้ มันอาจจะเป็นวิบากกรรมหรือเปล่า หรือจะเป็นทุกสิ่งที่เราได้ผิดครูบาอาจารย์หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้ไหว้ครูเลย แต่เพราะว่าเราก็เจอวิกฤตแบบนี้ก็ไหว้ครูต้องใช้เงินเยอะ ซึ่งไม่ได้ต้องจัดใหญ่ก็ได้แต่ต้องใช้เงินและสิ่งที่ทำละเอียดอ่อนมาก แล้วหลังจากนั้นเราก็โกนผมเลยแล้วเราก็ทำคลิปขอโทษทุกคน ขอโทษครอบครัว ขอโทษที่เป็นแบบนี้ ตอนนั้นเหมือนสติเราหลุดไปแล้ว แต่พอพี่กบเขามาเจอ เขาก็บอกเราว่าไม่เป็นไร ตั้งสตินะ มันอาจจะเป็นวิบากกรรมหรืออะไรก็ตามยังไงก็โกนหัวแล้วไปบวชเลย ส่วนตัวแฟนเขาก็ไปบวชพระ ตอนนั้นบวชอยู่ประมาณ 19 วัน”

แต่เพราะชีวิตยังมีลมหายใจ เห็ดเผาะก็สู้ไม่ถอย แต่สู้ครั้งนี้ขอไปสู้ที่อเมริกาเกิดอะไรขึ้น เพราะคิดจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกาเลย? “มันเป็นสภาวะที่ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริง ๆ เรามีลูกชาย 2 คน ลูกผู้หญิงหนึ่งคน ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย เหมือนครอบครัวมันกระจายไปหมด เหมือนมีแค่เราสองคนพ่อแม่แล้วก็หลานอีกคน แล้วพอดีมีพี่ตาล พี่เขาทักมาจากเม็กซิโก (น้ำตาไหล) เขาก็บอกว่าเขาเห็นเรามีปัญหาครอบครัวเยอะมากเลย เขาก็บอกเราว่ามาหาพี่ไหมมาพักผ่อนกับพี่อย่างน้อยก็ยังได้พักสติพักสมองอยากทำอะไรก็ทำ เพราะพี่ตาลเขาชวนให้เราไปทำอยู่ที่ร้านไม่ต้องไปเป็นลูกน้องใครให้อยู่กับเขา เลยตัดสินใจว่าจะไปก็มีเรา แฟน แล้วก็ลูกคนเล็กไปด้วยกัน เราจะไปกันสิ้นเดือนนี้ค่ะ”

อยากจะบอกอะไรกับคนที่เจอภาวะหนักหน่วงเหมือนเราบ้าง? “อย่างเดียวเลยที่จะอยู่ได้จะอยู่รอด คือ ต้องไม่ท้อ ต้องมีสติที่จะสู้มัน ร้องไห้ได้ เหนื่อยไม่ไหวอยากร้อง ร้องเลยค่ะ ร้องให้เต็ม เพราะนี่มันคือการลงทุนของเราและเราได้ทำดีที่สุดแล้ว แล้วก็ไปต่อเพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้วเราร้องไห้ขนาดไหนแต่เราไม่ไปต่อ ก็ไม่มีใครสามารถมาดึงมือเราให้เดินต่อได้นอกจากตัวของเราเอง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6467730
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6467730