ธัญญ่า เคลียร์ใจ อ๊อฟ ศุภณัฐ คิดมากไม่คุยด้วย 3 วัน มือลั่นโพสต์รัว


ให้คะแนน


แชร์

ธัญญ่า อาร์สยาม เคลียร์ใจ อ๊อฟ ศุภณัฐ คิดมากไม่คุยด้วย 3 วัน มือลั่นโพสต์รัว เจอชาวเน็ตด่างี่เง่า ลั่นหลังจากนี้จะระวังมากขึ้น

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

หลังจากที่ อ๊อฟ ศุภณัฐ ออกมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์กับนักร้องลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม กรณีที่ฝ่ายหญิงโพสต์ไอจีสตอรี่ แปะรูปหัวใจสีดำ พร้อมติดแฮชแท็ก #หัวใจหนูว่าง จนแฟนๆ จับตารักสั่นคลอนหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.2564 ลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม ได้ออกมาเปิดใจบ้างกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ยอมรับว่ามีปัญหากันจริงแต่อยู่ในช่วงที่ปรับความเข้าใจกันอยู่ คิดมากที่ฝ่ายชายไม่คุยด้วย 3 วัน เลยรู้สึกเหมือนอินกับความรักอยู่คนเดียว ลั่นหลังจากนี้จะระวังเรื่องการโพสต์ให้มากขึ้น

ย้อนถามว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้ออกมาโพสต์เศร้ารัวๆ แบบนั้น? “เอาจริงๆ คือมันก็พอมีปัญหาใช่มั้ยคะ พอไม่ได้คุยประมาณสามสี่วัน เราก็เลยรู้สึกว่าเอ๊ะ! หรือมันน่าจะมาถึงจุดที่จะต้องจบแล้วจริงๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าในหลายๆ อย่างที่พยายามปรับเข้าหากันก็ยังไม่เข้าใจกัน ในใจหนูตอนนั้นคือคิดว่ามันน่าจะไม่โอเคแล้ว แล้วก็พยายามกันทั้งสองคนแล้ว”

“หนูก็เลยโพสต์ออกไปแบบนั้นโดยที่ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเป็นข่าว เพราะปกติหนูก็โพสต์เพ้อเจ้อของหนูอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้คืองงมาก ต่อไปโพสต์อะไรก็ต้องระวังให้มากกว่านี้ ให้ตัวเองแน่ใจจริงๆ ก่อน แต่ ณ อารมณ์ตอนนั้นเหมือนเราค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้ว เพราะเขาก็ไม่ได้มีการติดต่อมาเลย เราก็ใจแข็งไม่ติดต่อกลับหาเขา ต่างคนต่างงอนกัน”

คิดเองเออเองไปแล้วว่าเขาเลิกแน่ๆ เลยติดแฮชแท็ก #หัวใจหนูว่าง เลย? “อะไรอย่างนั้นค่ะ คือมันก็มั่นใจแล้วประมาณ 70% เพราะเราไม่เคยไม่คุยกันนานขนาดนี้ เอาจริงๆ หนูก็ได้ส่งข้อความไปในระยะสามวันนั้น แต่ว่าเขาก็อ่านไม่ตอบ เราก็เลยเออ…ไม่เป็นไรงั้นก็เริ่มใหม่ ช่วงสามสี่วันนั้นก็ค่อนข้างที่จะเฮิร์ตมากเหมือนกัน

ตอนที่แปะรูปหัวใจสีดำกับติดแฮชแท็ก #หัวใจหนูว่าง ไม่คิดว่าถ้าพี่อ๊อฟมาเห็นแล้วเขาจะอะไรยังไงหรือเปล่าเหรอ? “ตอนนั้นก็คิด แต่ว่าหนูคิดไปแล้วว่ามันน่าจะต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ เลยโพสต์ออกไปแบบนั้น เพื่อนหนูก็แคปมาให้ดูหลังจากที่พี่อ๊อฟให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวาน(21มิ.ย.) ในหลายๆ สื่อก็คือเมนต์ด่าหนูเยอะมาก แต่หนูก็เข้าใจแหละว่าสุดท้ายแล้วส่วนมากผู้หญิงก็จะโดนด่าเป็นธรรมดา

“แต่ว่าคนที่มาเมนต์ด่าถ้ามีสถานการณ์ที่ไม่ได้คุยกันสามสี่วันโดยที่ตลอดมา 2 ปีเราคุยกันทุกวัน เชื่อว่าจะต้องรู้สึกแบบนี้แน่นอน หนูเองก็เป็นคนที่ใจเย็นอยู่ แต่ความใจร้อนก็มีเหมือนกัน มันบอกไม่ถูกแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ปรับกันมาหลายๆ อย่างแล้วมันไม่เข้าใจกัน สุดท้ายพอคุยไม่ลงรอยกันมันก็กลายเป็นคำว่าแยกย้ายกันทำหน้าที่”

ปัญหาที่ทำให้ไม่เข้าใจและงอนกัน มาจากเรื่องที่พี่อ๊อฟรับงานไรเดอร์กะดึกเรื่องนี้เลยเหรอ? “เอ่อ…จริงๆ ต้นปัญหามันก็มาจากเรื่องนั้น แต่พอคุยกันไปแล้วมันไม่เข้าใจมันก็มีหลายๆ เรื่องที่ตามมา เรื่องความไม่ได้ใส่ใจกันมากพอบ้าง บางทีหนูก็รู้สึกว่าหนูอินกับความรักคนเดียว เราก็รู้สึกว่ามันปรับหากันยากแล้ว”

“แต่ว่าก็โอเค เมื่อวานนี้ก็คุยกันแล้วก็ปรับความเข้าใจกันในทุกๆ เรื่องว่าเราจะแก้ไขยังไง เขาก็พร้อมที่จะปรับตัว หนูก็พร้อมที่จะปรับตัว ต้องหาตรงกลางให้กันในแต่ละเรื่อง เพราะที่ผ่านมามันหลายเรื่องทะเลาะกันบ่อย”

เรื่องที่ช่วงนี้พี่อ๊อฟไม่ค่อยมีเวลาให้ด้วยเป็นปัญหาไหม? “หนูทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่ได้เป็นคนที่งี่เง่าในเรื่องของถ้าทำงานแล้วไม่มีเวลา คือถ้าหนูรู้ว่าทำงานหนูจะไม่กวน ไม่โทรจิก ไม่โทรตาม แค่รู้ว่าทำอะไรอยู่แค่บอกเราว่าอยู่นี่นะทำนี่อยู่นะคือจบ”

“แต่มันจะมีกรณีที่แบบหายไปเลยก็มีไงคะ เราไม่รู้ว่าเขาทำอะไรหรืออยู่ไหน อันนี้ที่แบบจะทำให้ตัวหนูเองคิดเยอะ แต่พี่เขาไม่ได้มีเรื่องผู้หญิงหรือเจ้าชู้อะไร แต่ถ้าบอกว่าทำงานอยู่หรือเรียนอยู่หนูจะไม่ยุ่งเลย หนูกล้าพูดเลยว่าหนูไม่ได้เป็นคนงี่เง่าขนาดนั้น

หลายคนไม่เข้าใจก็จะคิดว่าเรางี่เง่า? “ใช่ๆ แต่ตัวเราเองรู้ดีว่าเราเป็นยังไง แล้วหนูเป็นคนที่ให้เกียรติแฟนมาก ไม่เคยค้นโทรศัพท์ ค้นแช็ตหรืออะไรเลย พื้นที่ส่วนตัวของใครของมันไม่เคยแตะกันและกัน บางคนบอกว่าหนูเด็กแต่จริงๆ แล้วหนูมีเหตุผลมากๆ”

ล่าสุดพี่อ๊อฟมาง้อแล้วใช่ไหม? “ใช่ค่ะ ตอนนี้สถานการณ์น่าจะอยู่ที่ 70-80% แล้ว ค่อยๆ เคลียร์ทีละเรื่อง คุยกันมากขึ้นแล้วก็เปิดใจกันว่าไม่โอเคตรงไหน เปิดใจกันเยอะเลย พูดตรงๆ เลย แล้วเขาเป็นคนที่ในหลายๆ อย่างเขาพูดน้อยและไม่อธิบายเหตุผล แล้วให้เราเข้าใจเอง ซึ่งเราอาจจะตีความหมายไปอีกแบบหนึ่ง”

วิธีที่เขาง้อ?เขาก็บอกว่าคิดถึงก่อนเลยอันดับแรก แล้วก็มีกินข้าวก่อนเพราะว่าที่บ้านหนูอยู่ก็มีน้อง มีเพื่อน และมีแม่ค่ะ กินข้าวอะไรกันปกติก่อนแล้วค่อยไปคุยกัน ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น คุยกันเยอะขึ้น เรื่องไหนที่ยังไม่โอเคก็จะปรับกันอีกรอบหนึ่งค่ะ

แฟนๆ สบายใจได้ว่ายังรักกันดีเหมือนเดิม? “ในความรู้สึกหนูถามว่ายังรักมั้ย…ก็ยังรักอยู่แล้วค่ะ รักมากๆๆ เหมือนเดิม แต่ว่าก็ยังต้องปรับความเข้าใจกัน ซึ่งตัวเขาเองก็บอกว่าเขาก็ยังรักหนู ซึ่งถ้าสองคนยังรักกันอยู่มันน่าจะไปต่อได้ค่ะ (จะมีรูปคู่ออกมาให้เห็นไหม?) มีค่ะ แต่เดี๋ยวรอเจอกันอีกก่อน เมื่อวานไม่ได้ถ่ายไม่ได้อะไรเลย คุยกันอย่างเดียว”

ฝากถึงแฟนๆ ที่ให้กำลังใจและคนที่คอมเมนต์ต่อว่าด้วย? “สำหรับแฟนๆ ที่ให้กำลังใจรักหนู รักพี่อ๊อฟ แฟนๆ AY Channel ในยูทูบนี่คือแบบว่าคอมเมนต์กันต์น่ารักมาก คือให้กำลังใจอยากให้ไปกันต่อ แล้วหนูก็จะคิดก่อนที่จะโพสต์ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ก็จะไม่โพสต์อะไรอย่างนี้อีกแล้ว ขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วงด้วยนะคะ”

“ส่วนคนที่มาด่าก็ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้โกรธอะไรเพราะเข้าใจอยู่แล้ว หลายคนก็หลายมุมมอง เขาอาจจะมองว่าหนูยังเด็กแล้วพี่อ๊อฟโตแล้ว หนูแบบใจร้อน งี่เง่า ไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอให้ฟังเหตุผลเราบ้าง เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่สามารถพูดได้ทั้งหมด”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6467971
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6467971