แอม เสาวลักษณ์ ป่วยซึมเศร้า ไม่ได้เป็นโรคฮิตดารา คาดมีอาการตั้งแต่เด็ก


ให้คะแนน


แชร์

มันกลัว มันมือสั่น มันตื่นตระหนกเวลาเห็นรถวิ่งผ่านหรือยังไง?

ที่สำคัญไม่รู้ว่ามันจะแอตแทกตอนไหน ตอนออกจากบ้านเราอาจจะสบายดี เราไม่เป็นไรแต่พอมันแอตแทกโดยที่มันไม่ได้เตือนเราก่อน มันมีความรู้สึกว่ารถทุกคันจะชนเรา แล้วเราหยุดเลย

จอดเดี๋ยวนี้ขับต่อไม่ได้ ถ้าไม่มีใครก็ต้องหายใจ ต้องช่วยเหลือตัวเองให้มันกลับบ้านได้ มันทำให้เราขาดความมั่นใจ

พี่เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว?

พี่ไม่ได้ขับรถเองตั้งนานแล้วนะ แต่ตอนนี้ตั้งแต่หาหมอมาขับได้แต่อย่าไปไกลบ้าน

เห็นบอกว่านี่ไม่ใช่อาการแรกอาการเดียว เห็นบอกว่าไม่อาบน้ำก็มี ไม่ทำอะไรเลยก็มี นั่งดูต้นไม้โดยที่ไม่รดน้ำแล้วก็ปล่อยให้ต้นไม้ตายก็มี?

จริงๆ พี่เป็นคนรักต้นไม้มาก อยู่มาวันหนึ่งพี่นั่งตรงระเบียงที่บ้านที่นั่งประจำ แล้วต้นไม้ก็เหี่ยวลงทุกวันจริงๆ วิธีแก้มันง่ายนิดเดียวแค่ลุกไปเปิดก๊อกแล้วก็เอาสายยางไปรดน้ำมัน มันก็ไม่ตายแล้ว

แต่เราก็ไปไม่ไหวหรอ?

ไม่ใช่ไปไม่ไหว มันไม่รู้ว่าทำไมไม่ไปรด เห็นต้นไม้ที่เรารักตายก็รู้สึกแย่ กับการแก้ที่ง่ายแค่นิดเดียว รู้สึกแย่ก็ไปรดน้ำมันซิ มันก็รอดแล้วไง ไม่ทำ ปล่อยให้มันกรอบตาย น้ำก็สามารถไม่อาบ 3 วัน เคยกดรีโมตทีวีไปเรื่อยๆ ถามว่าสนุกมั้ย ไม่รู้

เห็นว่าทักษะทางดนตรี จู่ๆ เล่นไม่ได้ก็มี?

ใช่ จู่ๆ ก็ป๊อดขึ้นมา อย่างกีตาร์เราไปดูคลิปคอนเสิร์ตเก่าๆ เราเคยเล่นกีตาร์ไปด้วย ร้องไปด้วย มาถึงตอนนี้ไปยังไง ทำยังไง นึกไม่ออก มันเป็นความรู้สึกเล่นไม่ได้ เล่นยังไง หลังจากที่หาหมอรักษามา 3 ปีแล้ว ก็ดีขึ้น

พี่บอกว่ารักษามา 3 ปี แสดงว่าโรคนี้พี่เป็นมามากกว่า 3 ปี ตอนนั้นเราอยู่กับโรคนี้นานเท่าไหร่?

ทุกๆ ครั้งที่เราไปหาหมอ ก่อนจบก็จะถามหมอว่าหายหรือยัง เมื่อไหร่จะหาย หมอก็จะบอกว่ามันต้องใช้เวลา พอเราถามบ่อยๆ เข้า ในที่สุดหมอก็บอกว่าเอาจริงๆ ที่คุณแอมเป็นไม่น่าจะเพิ่งเป็น

น่าจะเป็นตั้งแต่เด็กๆ น่าจะเป็นตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่หย่ากันหรือสภาพอะไรที่โตมา แต่สมัยพี่เด็กๆ มันไม่ได้มีจิตแพทย์เด็กเหมือนสมัยนี้ทันสมัย

พอหมอบอกเราอย่างนั้น ใจเรายอมรับมั้ย หรือใจเราต่อต้าน?

พอเรามองย้อนกลับไป เออว่ะ แต่เราไม่รู้ ไม่ได้มีแม้แต่ชื่อเรียก อย่างคนแก่เดี๋ยวนี้เขาเรียกอัลไซเมอร์ ถ้าเมื่อก่อนก็เรียกหลงๆ ลืมๆ มันไม่มีชื่อเรียก ไม่มียารักษา ไม่มีหมอ ถ้าไปหาหมอก็คือบ้า

คนที่เขามาทักพี่แอม คนที่เขาป่วยอยู่แล้ว แล้วเขามาทักพี่ว่าเป็นตอนนั้นพี่รู้สึกยังไงกับโรคซึมเศร้า?

สิ่งหนึ่งที่มันมารบกวนจิตใจพี่มากกว่าโรคซึมเศร้า ก็คือมันมีโรคนี้อยู่จริง มันมีคนที่เป็นอยู่จริง และมันก็มีคนที่อาจจะไม่ได้เป็นแต่อยากเป็น ภาพมันก็เลยเละไปหมด ถูกเหมารวมไปหมด

ผู้ป่วยจริงๆ ก็เลยไม่อยากพูด ไม่อยากบอกใคร ถามว่าปิดมั้ย ไม่ได้ปิด ช่วยใครได้ก็ช่วยเป็นวิทยาทานให้ใครได้ก็ช่วย เรารู้สึกว่าเราแบกความป่วยไข้อยู่แล้ว

เราไม่อยากแบกคำคนอีกว่า โรคดาราหรืออะไรที่มันเรารู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว เราไม่อยากถูกเหมาว่าใช้เป็นข้ออ้างกันเยอะเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ได้หมายความว่าอาย แต่เบื่อดราม่าแล้ว ไม่อยากจะแบกความเห็นอันนี้อีก

สิ่งหนึ่งเลยที่ผู้ป่วยซึมเศร้าเป็นเหมือนกันคือไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว พี่แอมเคยมีอาการนั้นมั้ย?

หมอถามอยู่บ่อยๆ สำหรับพี่นะ หมอถามว่าเธออยากฆ่าตัวตายมั้ย พี่ตอบว่าไม่ใช่ แต่ว่ามันอาจจะฟังยากหน่อยคือไม่อยากตายแต่ไม่รู้จะอยู่ทำไม มันเหมือนเราติดอยู่ในร่องอะไรไม่รู้ ฆ่าตัวตายก็เป็นบาป

แล้วเราก็ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นกับตัวเอง ตอนที่มันเป็นมันไร้เหตุผลที่จะอยู่ ไม่รู้จะอยู่ทำไม ตายก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่ดี ไม่ได้คิดอยากมีค่าสำหรับใครด้วยนะ ไม่ได้อยากยุ่งกับใคร ไม่ต้องการให้ใครมาสนใจ

แล้วเวลาพี่จะขึ้นคอนเสิร์ตเวลามันเกิดแพนิก แอตแทก พี่ทำยังไงที่จะก้าวขึ้นไปเอ็นเตอร์เทนคนดูต่อได้?

กินยาซิ มันก็ไม่ได้เป็นทุกครั้ง ครั้งไหนที่หมอรู้สึกว่ามันไม่ทันแล้วก็ให้ทานยา พี่ลองมาหมดแล้วทั้งนั่งสมาธิ สวดมนต์แต่พอตอนที่มันแอตแทกหนักๆ อะไรก็เอาไม่อยู่ มันไม่สามารถเข้าสมาธิได้

ตอนนั้นอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้เราตัดสินใจไปหาหมอ?

ก็อาการอย่างที่บอก สิ่งที่เคยทำไม่ทำ ดนตรีเล่นไม่ได้ อยู่ดีๆ ก็ป๊อด เล่นเปียโนก็ไม่ได้ เล่นกีตาร์ก็ไม่เป็น ซึ่งมันไม่เป็นความจริง แล้วมันเริ่มมีผลต่ออาชีพและชีวิตของเรา มันเริ่มมีผลกระทบกับงานเอ็นเตอร์เทน

มันขัดแย้งกันอย่างรุนแรง แล้วมันส่งผลให้เราเหนื่อยมากขึ้นไปอีก มันบ่อนทำลายเรา บ้านพี่แรกๆ พร้อมถ่ายลงนิตยสารพออยู่มาวันหนึ่งก็เละ อะไรไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ ถ้าพี่ไม่ป่วยพี่จะไม่ยอมให้บ้านพี่ไม่สวย

พี่เป็นคนแต่งเพลงได้เก่งมาก เพลงเศร้าโดนใจมาก มันเป็นเพราะเราแต่งเพลงเศร้าด้วยหรือเปล่า มันถึงพาเราไปที่ความรู้สึกแบบนั้น?

ไม่ใช่หรอก เพลงสนุกพี่ก็เขียนแต่มันไม่ใช่เพลงโปรโมตไง

โรคนี้เราสามารถรักษาหายได้มั้ย?

พี่หวังว่า พอไปหวังมันก็มีความกดดันตัวเองอีกหรือเปล่าไม่รู้ ความอยากหายมันก็ทุรนทุรายเหมือนกันนะ ในที่สุดพี่ก็คิดว่าอยู่กับมันได้มั้ย ยอมรับมันได้มั้ย

ขั้นแรกต้องยอมรับก่อนว่าเราไม่สบาย ถ้ายอมรับไม่ได้เราจะทุรนทุราย เราจะพิการซ้ำซ้อน ป่วยอยู่แล้วและมีความทุกข์จากที่เราป่วยอีกมันจะเหมือนพิการซ้ำซ้อนไปอีก ตอนนี้คุณหมอก็ยังใช้คำว่ามันต้องใช้เวลาอยู่

พี่ว่าสุดท้ายถ้าจะหายได้จริงๆ หายได้ด้วยใจหรือด้วยยา?

ของพี่ต้องทั้งคู่ จริงๆ ตอนแรกมันกำลังดีขึ้นอยู่แล้ว พอเราเป็นจิตใจเราก็จะเริ่มจำได้ เหมือนกับเราเป็นโรคกระเพาะ ไม่ได้หายหรอก แต่เหมือนเราดีลกับมันได้

เช่นถ้าเราเป็นโรคกระเพาะ เราก็จะเลี่ยงของเผ็ดและสิ่งที่มันทำให้เราปวดท้อง เรื่องของสุขภาพจิตก็เหมือนกันเราก็จะเลี่ยงเช่นคบใครแล้วเปลืองยา เราก็เลิกคบ

ตอนนี้รักษามาแล้ว 3 ปี ณ ตอนนี้เลยอาการเป็นยังไงบ้าง ก่อนเข้ารายการมีอาการมือสั่นมั้ย?

ไม่มี เพราะวันนี้ไม่ได้ร้องเพลงไง วันไหนที่ต้องร้องเพลง ไมค์เปียก ถึงจะเป็นเพลงที่ร้องมาแล้วเป็นหมื่นครั้งก็ยังไมค์เปียก

เราควรจะสังเกตตัวเองยังไง?

ชื่อโรคนี้จริงๆ แล้วมันควรจะเปลี่ยน มันไม่ใช่เศร้าอย่างเดียว มันมีหลายอาการ มันมีกลัว มีทั้งขี้โมโห ปิดตัวเอง ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากพูดกับใคร

เพราะฉะนั้นโรคนี้มันไม่ใช่จำกัดอยู่แค่คำว่าเศร้า เพราะพี่ไม่ได้เศร้า แต่พี่กลายเป็นทุพพลภาพบางอย่าง ทำอะไรที่ตัวเองเคยทำไม่ได้ มันเกิดความผิดปกติขึ้นแล้วมันชัดเจนในที่เห็นได้และจับต้องได้

โรคนี้คนเป็นกันเยอะมาก พี่แอมอยากให้กำลังใจคนที่ฝ่าฟันสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีขึ้นบ้างมั้ย?

พี่ว่าโควิดมันก็มาซ้ำเติม คนที่สุขภาพจิตดีปกติอยู่แล้วตอนนี้ก็แย่กันหมด ส่วนคนที่สุขภาพจิตแย่อยู่แล้วหรือมีปัญหาอยู่แล้วมันจะไม่แย่หรอ การที่คนที่ไม่สบายแบบนี้พี่จะไปบอกว่าสู้ๆ เพราะมันไม่สู้

หรือบอกว่าเดี๋ยวก็หาย มันก็ตอบไม่ได้อีกว่าหายมั้ย พี่บอกได้อย่างเดียวว่าเข้าใจนะ สามารถเป็นกำลังใจให้ได้ถ้าไม่มีใครคุยด้วย พี่ไม่ได้แอตแทกตลอด เวลาที่พี่ให้ความช่วยเหลือคนอื่นได้ พี่ก็ยังมีศักยภาพอยู่

พี่ก็ยังมีความเต็มใจที่คุยได้ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพื่อนก็ยังโทรมา ขั้นแรกสังเกตตัวเองก่อน อย่าโกหกตัวเอง ถามตัวเองก่อนว่านี่เราเรียกร้องตัวเองหรือเปล่า

เรารู้สึกว่ามันไม่ไหวจริงๆ หรือเราแค่กระทืบเท้าไม่ให้ใครขัดใจ เอาแต่ใจ เพราะมันแยกยากนะ คนที่จะแยกได้คือตัวเรา ถามตัวเองให้แน่ว่ามันเรื่องอะไรแน่ อย่าหลอกตัวเอง

คุ้มดีคุ้มร้ายคือศิลปะที่เยียวยาจิตใจเราด้วยมั้ย?

ต้องขอบคุณคุณหมอทั้งทางโลกและทางธรรม ที่ทำให้กลับมาจับพู่กันวาดรูปได้อีกครั้ง ก่อนหน้าที่จะกลับมาวาดรูปมันเกิดการไม่กล้า ตอนหลังที่วาดขึ้นมาได้อาจจะเพราะเรารักษาตัว มันก็ดีขึ้น ตอนนี้กลับมาปลูกต้นไม้แล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2123692
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2123692