หมิว เปิดใจเหตุ Call out รับไม่ได้สังคมเหลื่อมล้ำ ไม่หวั่นครหาหิวแสง

หมิว เปิดใจเหตุ Call out รับไม่ได้สังคมเหลื่อมล้ำ ไม่หวั่นครหาหิวแสง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ก่อนหน้านี้ออกมาโพสต์ทวิตฟาดรัฐบาล แบบจุกๆ ทำให้นักแสดงสาว หมิว สิริลภัส กองตระการ ถูกปลดออกจากการเป็นพิธีกร วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับนักแสดงสาว ซึ่งเจ้าตัวพร้อมเปิดอกคุยทุกเรื่อง

งานนี้ ผู้สื่อข่าว ออนไลน์ข่าวสด ถามแบบตรงๆ เริ่มตั้งแต่เรื่องที่ออกมา Call out ทั้งๆ ที่มีก็ส่งผลกระทบกับงาน ?

“หลังจากหมิวได้ไปทำงานและได้สัมผัสกับคนกลุ่มหนึ่งที่เขาลำบากแบบนี้จริงๆ เราได้ไปคุยกับเค้าจริงๆ เราได้ไปเห็นแล้วได้ไปรับรู้เรื่องราวของเขาจริงๆ เราก็รู้สึกว่ามันยังมีความเหลื่อมล้ำกันอยู่เยอะมาก มันมีหลายเคส หลายกรณีที่ทำให้หมิวรู้สึกว่าทำไมเค้าจะต้องทิ้งอนาคตของตัวเอง เพียงเพราะว่าไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่เขาควรจะได้รับยกตัวอย่างเช่น สมมติมีเด็กคนหนึ่งที่กำลังเรียนไปได้ดี

แต่สุดท้ายต้องหยุดเรียน เพราะต้องมาดูแลคุณแม่ที่ป่วย มีครอบครัวหนึ่งทั้งพ่อทั้งแม่ต้องทำงานทุกวันเพื่อที่จะรวมเงินเพื่อที่จะจ้างรถ พาลูกไปโรงพยาบาล พวกนี้มันเป็นสิทธิที่ทุกคนควรจะได้ในความเป็นมนุษย์ เรื่องสาธารณสุขโรงพยาบาลที่ดี ระบบการจัดการที่ดี การดูแลที่ดี บางทีมันทำให้เรารู้สึกว่าเสียดาย บางคนต้องทิ้งอนาคตของตัวเองไปเลยเพราะต้องเลือกดูแลคนที่บ้านก่อน

ทั้งๆที่อนาคตเขากำลังจะไปได้ดีเป็นเด็กเรียนเก่ง สุดท้ายแล้วไปต่อไม่ได้ต้องเสียสละหยุดเรียนเพราะว่าคุณแม่ไม่มีเงินส่งมากพอสำหรับลูกสองคน มันไม่ใช่สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เขาควรจะได้รับโดยที่ไม่ต้องใช้เงินจากครอบครัว รู้สึกว่าเด็กที่กำลังมีอนาคตที่สดใสหรือว่าคนที่กำลังจะเดินก้าวต่อจนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ถูกตัดไปเลยเพียงเพราะว่าโครงสร้างพื้นฐานมันไม่ได้”

ด้วยเหตุผลตรงนี้ทำให้เรารู้สึกว่าไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยต่อไปได้? “หนูเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้ว งานการไม่หา หาแต่เรื่องใส่ตัว(หัวเราะ) ทุกคนจะด่าหมิวแบบนี้ เอาอย่างนี้เปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าพี่เดินผ่านทางถังขยะหนึ่งใบ เห็นขวดน้ำตกอยู่พี่จะหยิบมันเก็บขึ้นมาใส่ถังขยะไหม มันจะมีคนสองจำพวกคือเดินไปเฉยเฉยกับคนที่หยิบขวดน้ำนั้นไปใส่ถังขยะ หนูเป็นคนจำพวกที่สอง”

แต่ถ้าเราหยิบขวดน้ำใส่ถังขยะมันไม่กระทบกับชีวิตเรานะ แต่สิ่งที่หมิวทำมันต่างกัน มันเหมือนแลกกับอาชีพที่เราทำอยู่ ถามจริงๆมันคุ้มกันไหม?

“มันไม่คุ้มหรอกค่ะ มันไม่คุ้มเลย แต่หมิวรู้สึกว่าถ้าหมิวยังนิ่งเฉยอยู่ ทุกวันที่ส่องกระจกแล้วมองหน้าตัวเอง เราจะไม่ชอบตัวเอง ตรงนี้ยอมรับหรือว่าหมิวเสียรายได้ไปเยอะมากกระทบกับอาชีพการงาน ซึ่งเป็นอาชีพที่หมิวรักและตั้งใจทำมาตลอด

แต่ถ้าหมิวเลือกทำแบบนี้แล้วหมิวมองหน้าตัวเองในกระจกรู้สึกว่าอย่างน้อยเรายังทำอะไรให้ใครบ้าง ในพื้นที่และในสิทธิที่เราทำได้มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนเราสามารถแสดงการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเสรี โดยที่ไม่ต้องมีผลกระทบใดใดทั้งสิ้น แต่ว่าหมิวอาจจะอยู่ผิดที่ผิดทางไปนิดนึง”

ก่อนหน้านี้พอมีดาราออกมา Call out คนก็จะมองว่าหิวแสง โหนกระแส อยากมีตัวตนแต่ของหมิวแสดงถึงความชัดเจนอย่างสม่ำเสมอในประเด็นของสังคม?

“พูดได้ม่ะ แสงที่หมิวหิวเยอะ คือแสงโสมค่ะ(หัวเราะ)อันนี้จริงๆ ถ้าใครได้ติดตาม Facebook ของหมิวมาตลอดตั้งแต่ก่อนจะมีข่าวใดใดทั้งสิ้น ไปย้อนดูได้เลยทุกเรื่อง ไม่เฉพาะยุคนี้ ยุคไหนที่รู้สึกว่าไม่ถูกต้องก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมด กิจกรรมหลายหลายอย่างที่เขาออกกันไปหมิวก็ไปค่ะ

ทุกกิจกรรมเพราะเราเชื่อว่าข้อมูลที่เราได้รับมา เราได้รับมาในการตกตะกอนทางความคิดของเราในตอนนั้น เรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เราก็ควรออกไปแสดงจุดยืน เราควรเดินออกไปพูดว่ามันไม่ถูกต้อง เราไม่เห็นด้วยไม่ว่าจะยุคไหนก็แล้วแต่”

หลายคนชื่นชมในความกล้ามีหลังไมค์เข้ามาให้กำลังใจเยอะไหม? “มีหลังไมค์มาเยอะค่ะ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจทำให้มีร้องไห้ได้น้อยลง”

แสดงว่าก่อนหน้านี้เราร้องไห้เยอะ? “ก็นิดนึงค่ะเพราะมันเป็นงานที่หมิวรักและตั้งใจเต็มที่ทุกๆ ครั้ง และใจทุกครั้งที่ได้ออกไปทำงาน พอมันมีผลกระทบแบบนี้เกิดขึ้นมา เราก็เสียใจเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราทุ่มเทและตั้งใจสร้างมันขึ้นมาโดยตลอด แต่ในเรื่องส่วนที่หมิวผิดก็ต้องขอโทษและยอมรับผิดในการใช้ภาษาหรือคำที่ไม่สุภาพ

เป็นเหตุให้มีบุคคลท่านหนึ่งได้เอาเรื่องราวนี้ไปแจ้งกับทางที่เป็นผู้ใหญ่เจ้าของรายการ ซึ่งเขาทำแบบนี้มาสองครั้งแล้วเท่าที่เหมียวรู้ก็น่าจะเป็นเอฟซีหมิวอยู่ก็ไม่เป็นไรในส่วนที่หมิวผิดหมิวก็ยอมรับในเรื่องของการใช้ภาษาแต่ว่า สิ่งที่หมิวกล้ายืนยัน หมิวไม่เคยทำตัวหยาบคายแบบนี้ออกหน้าจอทีวีแน่นอน

หมิวอาจจะคิดน้อยไปหน่อยว่าในแพลตฟอร์มนั้นมันเป็นแพลตฟอร์มที่หมิวมีมา 10 กว่าปี ตั้งแต่เริ่มใช้ใหม่ๆ หมิวมีเอาไว้พ่นนะคะ เอาไว้พ่นอะไรก็ไม่รู้และก็ไม่คิดว่าจะมีคนติดตามเยอะขนาดนี้ หมิวอาจจะคิดน้อยไปหน่อยในการที่จะพูดอะไรออกไป ด้วยอารมณ์อันนั้นหมิวผิดก็ยอมรับแต่ถ้าจะให้หมิวหยุดพูดไปเลยหนูทำไม่ได้หมิวจะทำต่อแต่จะใช้ภาษาที่สุภาพและใช้คำที่ไม่หยาบคายไม่ระคายหูใคร”

โควิดระลอก3 แล้วชีวิตเป็นยังไงบ้าง? “ว่างค่ะ ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงอีกสักรอบ ไปทางไหนก็คือล้างมือจนเส้นวาสนาไม่มีแล้ว ตอนนี้เส้นการงานก็น่าจะหายไปแล้วเช่นเดียวกัน แอลกอฮอล์ทุกวันนี้ก็ทั้งฉีดทั้งดื่มจนแทบจะเป็นแอลกอฮอลิกแล้ว(หัวเราะ) ใส่หน้ากาก แล้วก็พยายามไม่ออกจากบ้าน

หมิวไม่ได้ออกจากบ้านเลยจนมันยม(เหี่ยวแห้ง)แล้ว อีกอย่างคือหมิวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ เขาก็พยายามให้หมิวต้องออกไปหาอะไรทำ แต่หมิวออกไปหาอะไรทำไม่ได้ ต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม สิ่งที่ทำได้ก็คือเล่นเปียโนร้องเพลง และทำคลิปอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

อยากจะบ่นอะไร? “หมิวคงไม่บ่นอะไรเพราะว่าถึงบ่นไปตอนนี้มันก็ไม่สามารถทำให้โควิดมันหายไปได้อ่ะเนอะ แต่ก็อยากฝากแล้วกันค่ะ ฝากให้กำลังใจทุกคนที่เป็นอย่างหมิวอยู่ตอนนี้ ที่ต้องเผชิญกับความเครียด หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันรุมเร้า เป็นกำลังใจให้กับทุกคนจริงๆ

หมิวพูดทุกครั้งเลยนะคะไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจที่ต้องแบกรับหน้าที่อะไรหลายอย่าง อาชีพนักดนตรีคนกลางคืน อาชีพทั้งหลายแหล่ที่ต้องทำงานในตอนกลางคืนแล้วโดนผลกระทบจากการปิดเมือง จากการที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น แล้วจำเป็นจะต้องปิดกิจการลงหรือเลิกอาชีพนั้นลง หมิวว่ามันค่อนข้างน่าเสียดาย

หมิวเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนสร้างมาไม่ต่างจากเราเลยค่ะมันคือสิ่งที่ทุกคนตั้งในสร้างและทำมันขึ้นมา แล้วอยากให้มันเติบโตสวยงาม แต่พอวันนึงมันโดนอะไรบางอย่างเข้ามาปัดให้มันพังไปหมด ใจมันพังไปหมดเลย เพราะฉะนั้นก็อยากส่งกำลังใจให้กับทุกคนด้วย แล้วก็พูดได้มั้ยคะ…อยากได้ไฟเซอร์กับโมเดอร์น่า”

ฝากถึงคนที่มีหน้าที่ที่จริงๆ ประชาชนน่าจะฝากความหวังไว้ได้ แต่ฝากไม่ได้ อยากพูดอะไรไหมจ๊ะ? “(หัวเราะ)หมิวไม่ขอพูดตรงเรื่องนี้ดีกว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องที่จะแตะถึงใคร แต่ว่าขอพูดในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง แล้วก็ขอเป็นกระบอกเสียงของประชาชน พวกเราอยากได้วัคซีนทางเลือกค่ะ

พวกเราอยากมีสิทธิที่จะเลือกสารอะไรที่จะฉีดเข้าไปในร่างกายของตัวเราเอง ถึงแม้ว่ามันจะเกิดเอฟเฟ็กต์อะไรก็แล้วแต่ แต่ขอให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเอง อีกรอบค่ะ อยากได้ไฟเซอร์และโมเดอร์น่า อยากได้ไฟเซอร์กับโมเดอร์น่านะจ๊ะ(หัวเราะ) เนี่ยก็เป็นซะอย่างเงี้ย ปากมันเป็นแบบนี้ไงเลยไม่มีงาน”

แล้วได้ไปฉีดวัคซีนมาหรือยัง? “ไม่ได้ฉีดค่ะ เพราะว่าไปศึกษามาแล้ว เขาบอกว่าคนที่กินยาต้านซึมเศร้าอยู่ไม่ควรฉีดซิโนแวค อาจจะมีผลกระทบ เลยฉีดซิโนแวคก็ไม่ได้ แอสตร้าเซนเนก้าก็ไม่เหมาะสม เลยอยากได้อยากได้ไฟเซอร์และโมเดอร์น่านะจ๊ะ ฝากด้วยจ้า”

ขอบคุณรูปจากไอจี : mew_ladym62

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6481164
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6481164