บอย สามี ชมพู่ ก่อนบ่าย เศร้า โควิดคร่าชีวิตคุณยาย ทุกข์หนักคุณตายังอยู่ในไอซียู
บอย สามี ชมพู่ ก่อนบ่าย เศร้า โควิดคร่าชีวิตคุณยาย ทุกข์หนักคุณตายังอยู่ในไอซียู
บอย สามี ชมพู่ ก่อนบ่าย เศร้า / สงสารจับใจ จากลาโดยไม่เห็นหน้ากัน ข่าวร้ายที่ไม่อยากให้เกิด ชมพู่ ก่อนบ่าย หรือ ชมพู่ ชมพู่ ธัณย์สิตา โพสต์ข้อความสุดเศร้าหลัง บอย วัชรพงศ์ สามีสูญเสียญาติผู้ใหญ่ที่รักยิ่งว่า “ในที่สุดโควิดก็พรากชีวิตญาติผู้ใหญ่ฝั่งสามีอีก 1 คน ..สงสารจับใจ ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งนะคะ..”
ล่าสุด ชมพู่ ก่อนบ่าย ให้สัมภาษณ์กับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงสภาพจิตใจสามี ก่อนที่จะอัพเดตเรื่องงานศพ รวมถึงอาการของคุณตาที่ติดโควิดพร้อมกับคุณยาย
สภาพใจสามีดีขึ้นหรือยัง? “ยัง เพราะว่าพ่อแม่แฟนของพี่เสียหมดแล้ว แล้วคนที่เขาเลี้ยงแฟนพี่ต่อมาก็คือคุณตาคุณยาย ก็เลยจะมีความผูกพันธ์เป็นพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พยายามจะไปมาหาสู่กัน บินไปหาที่ตรังบ่อยๆ หรือว่าตอนเขาขึ้นมาอยู่ที่กรุงเทพบ้านอีกหลังหนึ่งก็ถ้ามีเวลาก็จะพาหลานไปเจอ ซึ่งก็มาเกิดเหตุเสียก่อน จริงๆเราตั้งใจว่าบ้านหลังใหม่ถ้าทันเขาจะได้มานอนอยู่กับหลานสักระยะให้ได้ใช้ชีวิตบ้าง ก็ไม่ทันแล้ว”
สามีได้ระบายความรู้สึกอะไหม ด้วยความที่เสียชีวิตหลังจากติดโควิด เป็นเรื่องที่น่าสลดใจ? “สลดใจจริงๆ เพราะว่าเราอ่านข่าวคนรอบตัวเยอะ อย่างน้าค่อม เราก็เสียใจ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เราเข้าใจอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าพอคนที่เป็นโควิดแล้วเสียชีวิต มันไม่มีโอกาสได้กอดสุดท้าย ร่ำลา กราบเท้า มันเป็นโมเมนต์ที่สะเทือนใจตรงนี้แหละ แล้วงานศพจะจัดเป็นเรื่องเป็นราวก็ไม่ได้ อย่างกรณีของคุณยายต้องเผาวันพรุ่งนี้ เผาเสร็จปุ๊บ ก็ได้แค่เอาอัฐิมาทำพิธีต่อนิดหน่อย อย่างพี่ท้องแก่พี่ก็ไปงานศพไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ไปร่วมงานก็เยอะไม่ได้อีก ก็คงจะมีแค่คนในครอบครัวเท่านั้นมันก็เลยสะเทือนใจ พูดแล้วก็จะร้องไห้ สามีเขาก็ยังเศร้าๆ อยู่เหมือนกัน”
คุณยายกับพี่บอยคือมีความสัมพันธ์จากการเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ? “ด้วยรัก เพราะอย่างที่บอกพ่อแม่ของสามีพี่เขาเสียไปแล้ว อุบัติเหตุคนหนึ่ง เป็นโรคคนหนึ่งต่อกันเลย เขาก็ไม่มีพ่อแม่มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งคนที่ดูแลเขา หรือเขารักต่อจากพ่อกับแม่ก็คือคุณตาคุณยายนี่แหละ มีความผูกพันมากเป็นพิเศษ เหมือนผู้ใหญ่ที่รักเคารพในบ้านสุดท้าย”
ครอบครัวของอาเป็ด สภาพจิตใจเขาดีขึ้นหรือยัง? “ตอนนี้ยังไม่ได้เจอเลย แค่เมื่อวานก็ร้องไห้กันหนักเหมือนกัน ก็ได้แค่อยู่ข้างๆ เราก็เปรียบเป็นคนในครอบครัวส่วนหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้ผูกพันเท่าบ้านอาเป็ดเท่ากับสามีเรา เราก็รู้สึกได้ว่าเสียใจแหละ อย่างที่บอกมาสะเทือนใจตรงที่ไม่ได้ร่ำลา มันเร็วมากคุณยายเข้าโรงพยาบาลได้แป๊บหนึ่งอาการไม่ดีแล้วก็เข้าไอซียูเลย แล้วตอนนี้ที่ลุ้นอีกก็คือคุณตา คุณตายังอยู่ไอซียู ยังไม่ตื่นเราลุ้นต่อเลยว่าขอให้มีปาฏิหาริย์รอดสักคน คือเขาทั้งสองคนติดโควิดกันทั้งคู่ ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลพร้อมกันแต่คุณยายเสียก่อน ปั๊มหัวใจแล้วไม่ขึ้น แล้วคุณตาก็ยังไม่รู้ว่าคุณยายเสีย ซึ่งตอนนี้อาการของคุณตาก็แย่เหมือนกัน อายุเยอะแล้วแหละคุณยาย 80 กว่าคุณตา 90 กว่า”
ครอบครัวกังวลใจไหม เพราะเป็นโควิดค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลย? “ไม่น้อยนะ แต่ถ้ายอมเสียตังค์เองมันก็มีเรื่องของค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนกัน อย่างที่บอกนะตอนนี้หลายคนมีปัญหาเรื่องหาเตียงไม่ได้ แบบที่ไม่มีค่าใช้จ่าย คนรอเสียชีวิตที่บ้านเยอะเลย พอมันมีเรื่องแบบนี้ มันทำให้พี่ไม่ค่อยคิดมากเรื่องดราม่า เพราะว่ามีปัญหารอบตัวเยอะมากเหลือเกิน สิ่งที่เราจะต้องเจอ ภาระหน้าที่ที่เราจะต้องทำงาน ค่าใช้จ่ายในบ้าน ครอบครัวที่เราต้องดูแล ลูกเราอีก มันมีสิ่งที่อยู่ในหัวภาระเยอะมาก เรื่องอื่นๆ ที่มากระทบจิตใจมันมีผลน้อยมาก แค่ยอมรับ เข้าใจแล้วก็ผ่านมันไป เราต้องก้าวต่อไปในเรื่องอื่นๆอีก”
ให้กำลังใจสามียังไง? “พอถึงเวลาจริงๆ งงเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าคำพูดมันจะออกมาเป็นแบบไหน มันก็แค่พูดว่าให้ทำใจ เสียใจด้วยนะ ไม่เป็นไรนะ อยู่ข้างๆ เมื่อวานก็จะคอยเป็นห่วงเพราะว่าเขาไม่กินข้าวเลยเหมือนกินข้าวไม่ลง เราก็ถาม กินข้าวมั้ย กินน้ำมั้ย เขาก็ไม่ พอถึงเวลาท้ายที่สุดคนข้างตัวมีปัญหาแบบนี้ เราก็ได้แค่อยู่ข้างๆ ปลอบเขา เขาร้องไห้ เราก็นั่งอยู่ข้างๆ เขาได้แค่นั้นจริงๆ”
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6482328
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6482328