ไม่ใช่พระเอกหนังฝรั่งที่ไหน แซม เปิดภาพคุณพ่อ เผยฉายาแฝดเดนตาย


ให้คะแนน


แชร์

เรื่องราวประวัติศาสตร์ครอบครัวชวนติดตามอย่างมากแถมยังช่วยประเทศชาติ ก่อนหน้านี้ แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี เพิ่งเผยเรื่องราวคุณย่า ที่มาจมูกโด่งๆ คิ้วหนาๆ ปากบางๆของตัวเองมาจากไหน เห็นรูปคุณย่าของพระเอกหล่อตลอดกาลแล้วก็รู้เลย โดยเจ้าตัวบรรยายว่า นี่รูปคุณย่าผมครับ นางชำนาญคุรุวิทย์ หรือ แพทย์หญิงแอนเนรี่ ภมรมนตรี บุตรสาวศาสดาจารย์ด็อกเตอร์ไฟเอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮันโนเวอร์ที่มีชื่อเสียงมากของประเทศเยอรมัน แต่งงานกับคุณปู่ พระชำนาญคุรุวิทย์ ซึ่งเป็นท่านทูตทหารประจำกรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมันครับ คุณย่านอกจากจะเป็นหมอแล้วยังเป็นครูสอนภาษาเยอรมันอังกฤษและฝรั่งเศสให้กับคนไทยที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศด้วยครับ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้นำเข้ารถยนต์โอเปิ้ลและไครซเลอร์จากประเทศเยอรมันมาประเทศไทยอีกด้วยนะครับ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

แซม ยุรนันท์ ยังโพสต์ภาพคุณพ่อของตัวเอง หล่อระดับพระเอกจริงๆ พร้อมเผยเรื่องราวว่า ไม่ใช่พระเอกหนังฝรั่งที่ไหนนะครับ.. คุณพ่อผมเอง แต่ก็โพสต์ท่าไม่ง้อพระเอกนะครับ 555 คุณพ่อเกิดที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมันครับขณะที่คุณปู่เป็นทูตทหารประจำกรุงเบอร์ลิน มีพี่ชายฝาแฝดอีกหนึ่งคนอายุห่างกัน 3 นาทีคุณพ่อเรียกตัวเองว่าแฝดเดนตาย!!

ครับเพราะตอนที่คุณย่ายังไม่ครบกำหนดคลอดท่านมีอาการโลหิตเป็นพิษคุณหมอต้องให้ผ่าตัดด่วน!! และถามคุณปู่ว่าถ้าจำเป็นต้องเลือกระหว่างแม่กับลูกจะเลือกใคร? คุณปู่ตอบว่าเลือกคุณย่าครับ ……มีเรื่องเล่าอีกมากมายแต่ในไอจีเค้าบอกว่ายาวเกินไปลงได้ไม่พอครับ 555 ตามไปอ่านกันต่อใน Facebook FAN pages นะครับ sam yuranunt pamornmontri

โดยเจ้าตัวโพสต์เล่าเรื่องราว ผ่าน เฟซบุ๊ก sam yuranunt pamornmontri เพิ่มเติมอีกว่า แต่โชคดีการผ่าตัดเป็นไปด้วยดีเพราะเทคโนโลยีการแพทย์ประเทศเยอรมันคือจัดว่าดีที่สุดของโลก คุณย่าปลอดภัยดีส่วนลูกแฝดไม่ค่อยแข็งแรงนักจำเป็นต้องอยู่ในตู้กระจกเป็นเวลาหลายเดือนอยู่ครับ ต่อมาสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ พระโอรสในรัชกาลที่5 ซึ่งขณะนั้นทรงเป็นนักเรียนทหารอยู่ที่ประเทศเยอรมันเสด็จมารับขวัญและประธานชื่อให้ว่าประยงค์-ประยูร

รูปที่สองถ่ายที่กรุงมอสโคประเทศรัสเซีย ขณะที่คุณปู่ย้ายไปประจำที่นั่นครับก่อนที่จะพาครอบครัวกลับประเทศไทยอันเป็นที่รัก.. แต่ด้วยความที่คุณย่าเป็นสตรีชาวยุโรปคนแรกที่แต่งงานกับคนไทย!! ลองนึกภาพดูนะครับว่าเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้วในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ห้า มีเด็กฝาแฝดหน้าตาเหมือนกัน ฝรั่งก็ไม่ใช่ไทยก็ไม่เชิง ตัวขาวจั๊วมาอยู่ในเป็นดินสยาม คุณพ่อเล่าว่าไปที่ไหนก็มีคนวิ่งออกมาดู555 แต่ก็พูดไทยได้คล่องเพราะคุณปู่คุณย่าก็สอนให้พูดไทยตั้งแต่อยู่ต่างประเทศครับ

พอแปดขวบคุณปู่คุณย่าก็พาเข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่หกซึ่งขณะนั้นยังทรงดำรงตำแหน่งมงกุฎราชกุมาร เพื่อถวายตัวรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ทรงเมตตารับไว้เป็นมหาดเล็กตัวน้อย ช่วงแรกๆถวายงานนวด งานพัดโบกไล่ยุงอยู่ใต้โต๊ะเสวย ท่านเอ็นดูส่งไอศครีมลงมาให้บ้างไส้กรอกบ้างแต่ถ้าเป็นขาไก่ ก็ต้องมีการแย่งชิงกับเจ้าย่าเหล๋(สุนัขทรงเลี้ยง)เป็นที่สนุกสนานครับ

ครั้นเติบโตขึ้นอีกนิดคุณย่าได้กราบทูลขอว่าอยากให้ลูกเป็นทหาร ท่านรับสั่งถามหมอแหม่มว่าเป็นมหาดเล็กดูแลรับใช้ใกล้ชิดแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วจะต้องไปเป็นทหารทำไม คุณย่าทูลตอบว่าเห็นฝรั่งหลายประเทศรุกรานเอาเปรียบแผ่นดินไทย คุณปู่เองก็ได้รับมอบหมายให้ไปเป็นผู้บัญชาการการรบอยู่ชายแดนหลายครั้งก็ไม่อาจต้านทานได้!! ต้องเสียดินแดนไปหลายครั้ง คุณย่ารู้สึกช้ำใจแทนคนไทยยิ่งนักจึงอยากให้ลูกเป็นทหารรับใช้ประเทศชาติ เพื่อหาโอกาสทวงแผ่นดินคืนมา!!

ท่านทรงพอพระทัยและทรงเมตตาเสด็จพาไปสมัครเรียนในโรงเรียนทหารด้วยตัวพระองค์เอง อีกทั้งยังทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดพกให้ทุกสัปดาห์ด้วยครับ คุณพ่อบอกว่าช่วงอยู่โรงเรียนทหาร เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขถึงแม้จะโหดอยู่บ้างในความเป็นระเบียบวินัยแต่คุณพ่อก็ตั้งไจเรียนมากนะครับสอบได้ที่1 ที่2 ตลอด อีกทั้งยังได้เป็นหัวหน้าหมวด หัวหน้าชั้น พ่อบอกว่าต้องตั้งไจทำทุกอย่างให้ดีที่สุดให้สมกับที่ในหลวงท่านทรงเมตตา

พ่อมีเพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทกันมากคือจอมพลป.พิบูลสงครามครับ เมื่อจบการศึกษาก็ได้เข้ารับพระราชทานกระบี่ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่หก อีกทั้งยังทรงพระราชทานนาฬิกาพกทองคำให้เป็นรางวัลพิเศษ ถือเป็นมงคลที่สุดในการเริ่มต้นชีวิตการเป็นทหารครับ

รูปสุดท้ายคุณพ่อ ได้รับเชิญในฐานะตัวแทนประเทศไทยเข้าพบผู้นำประเทศยุโรปหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ เยอรมัน อิตาลี รัสเซียและญี่ปุ่น เพื่อแสดงจุดยืนว่าประเทศไทยจะเป็นกลางในสงครามโลกครั้งที่สองที่มีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดขึ้น(ในขณะนั้น)ครับ ภาพนี้คือคุณพ่อมาทำพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนในกรุงโรม หลังจากที่ได้พบมุสโสลินี ผู้นำของอิตาลีครับ …วันนี้พอก่อนนะครับยาวมากเดี๋ยวจะปวดตาทั้งคนเขียนทั้งคนอ่าน

โดยมีแฟนคลับชื่นชอบเรื่องราวครอบครัวเหมือนได้ฟังเรื่องประวัติศาสตร์ไปด้วยอ่านเพลินเหมือนนิยายเลยแถมตั้งตารอติดตามตอนต่อไป อาทิ เหมือนอ่านประวัติศาสตร์ คล้อยตามและเพลินดีค่ะ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วรีบมานะคะ , เป็นประวัติศาสตร์ไทยอีกหน้าเลยค่ะอ่านแล้วเพลิดเพลินได้ความรู้ดีค่ะ. รู้สึกว่าครอบครัวพี่แซมทำเพื่อประเทศชาติมากเลยค่ะรวมถึงตัวพี่แซมด้วยค่ะ , เรื่องราวในอดีตน่าสนใจมากเลยคะ.. คุนแซมน่าจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในอดีตสักเล่มเป็นอนุสรณ์ทิ้งใว้ให้ชนรุ่นหลังใด้อ่านบ้างในฐาณะคุณเป็นพระเอกตลอดกาลคงจะดีไม่น้อยเลยคะ เป็นต้น

เฟซบุ๊ก Sam Yuranunt Pamornmontri

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6491275
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6491275