สมาชิกของวงประกอบไปด้วย จีน-มหาสมุทร บุณยรักษ์ (ร้องนำ, กีตาร์), เป็ก-ปวินท์ ประกอบสันติสุข (ร้องนำ, กีตาร์) และ เอิร์ท-ชายยุทธ ยุทธวรเดชกุล (เบส) ที่ทั้งหมดเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่นไฮสคูลที่ประเทศอังกฤษ และมีรสนิยมความชอบด้านดนตรีที่เหมือนๆ กัน พวกเขาจึงตัดสินใจร่วมทำวงด้วยกันในปี 2004 และออกอัลบั้มตามความฝันจนประสบความสำเร็จในซีนวงการเพลงอินดี้ร็อกพอตัว ก่อนแยกย้ายไปทำงานส่วนตัว โดย เป็ก ปวินท์ และ เอิร์ท ชายยุทธ ไปทำธุรกิจ ส่วน จีน มหาสมุทร ก็ไปเป็นศิลปินเดี่ยวในนาม Little Fox ในเวลาต่อมา

การกลับมาครั้งนี้ของ Saliva Bastards ดูจะคล้ายคลึงกับการที่วงรุ่นพี่อย่าง Death of a Salesman ได้นำเอาอัลบั้มชุดแรกและชุดเดียว (เช่นกัน) จากต้นยุค 2000 กลับมาสตรีมมิงให้แฟนเพลงได้ฟังกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะมันเป็นการเลือกใช้ช่องทางการรับฟังใหม่ๆ เพื่อให้แฟนเพลงที่อาจเคยทำเทปหรือซีดีของวงสาบสูญไปแล้ว มีโอกาสได้หวนซึมซับบทเพลงที่เคยมีความสำคัญต่อชีวิตวัยรุ่นของพวกเขาอีกครั้ง ซึ่งอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อวงของ Saliva Bastards ชุดนี้ ถูกโปรดิวซ์โดย ธนชัย อุชชิน หรือ ป๊อด โมเดิร์นด็อก จนกลายมาเป็นเพลง 10 เพลงที่เปี่ยมทั้งคุณภาพและเอกลักษณ์ทางดนตรีไม่แพ้ใครในยุคนั้น

ย้อนกลับไปในอดีต ดนตรีร็อกทางเลือก -หรืออินดี้ร็อกที่เรียกกันจนติดปากว่า ‘อัลเทอร์เนทีฟ’ ในวงการเพลงไทย– เติบโตอย่างมั่นคงตั้งแต่กลางยุค 90 เรื่อยมาจนถึงยุค 2000 โดยในช่วงเวลานั้นมีงานเพลงร็อกทางเลือกที่มีกลิ่นอายของดนตรีกรันจ์ที่ดิบกร้านจากฝั่งอเมริกา และดนตรีป๊อปร็อกที่มีความไพเราะด้วยไลน์กีตาร์ที่สวยงามซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งอังกฤษ ให้เลือกฟังกันมากมาย มันถือเป็นยุคที่ก่อนให้เกิดซีนปาร์ตี้สังสรรค์อันเป็นแหล่งรวมตัวของศิลปินอินดี้และคนทำงานในแวดวงศิลปะ

ผู้เขียนเองยังจำได้ดีถึงการได้ปลดปล่อยพลังของความเป็น ‘นักฟังเพลง’ ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายไปกับปาร์ตี้ดีๆ ของ Dudesweet ในช่วงแรกๆ และการได้ฟังสมาชิกวง Desktop Error เล่นดนตรีที่ Lullabar ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำยันเกือบรุ่งสางก่อนจะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศในช่วงสายวันเดียวกัน ซึ่งในวัยวันที่ยังมีกำลังวังชา พวกเราไม่ได้ทำแบบนั้นกันแค่เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เราทำแทบทุกวัน เพราะมีปาร์ตี้ให้เลือกไปทั้งแนวอินดี้, การาจร็อก ไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ก่อนที่ในยุคหลังๆ จะมีงานปาร์ตี้สุดมันอย่าง Trasher แต่ความหลากหลายจากงานปาร์ตี้ต่างๆ ซึ่งถือเป็น ‘วัฒนธรรมย่อย’ (Subculture) ของวงการดนตรีอินดี้ยุคนั้น ก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เกิดวงอินดี้หลายต่อหลายวง เพราะมันคือพื้นที่ในการพบปะพูดคุยกันของศิลปินด้วยกัน ซึ่งหลายครั้งก็นำไปสู่การฟอร์มวงดนตรีดีๆ ของไทยมากมาย

การได้กลับมาฟังอัลบั้มชุดนี้ของวง Saliva Bastards จึงทำให้ความทรงจำเหล่านั้นโลดแล่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพลง ‘คืนวันศุกร์’ ที่ทำให้นึกไปถึงค่ำคืนแห่งการการดื่มด่ำเสียงดนตรีสดๆ เหล่านั้นร่วมกับเพื่อนคอเดียวกัน

ดนตรีของวง Saliva Bastards มีส่วนผสมของดนตรีป๊อปและร็อกในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน มีโครงสร้างที่ฟังง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถเต้นตามได้ รวมถึงมีท่อนร้องประสานเสียงเรียบง่าย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ซาวด์ดนตรีของวงโดดเด่นขึ้นมาก็คือ ดิสทอร์ชั่น (Distortion) หรือเสียงกีตาร์ดิบๆ ที่แตกพร่า แต่มีเมโลดี้สวยงาม ที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังเพลงของวงกรันจ์และพั้งก์ร็อกจากฝั่งอเมริกาอย่าง Weezer, Sonic Youth, Ash, Nirvana หรือ R.E.M. เลยทีเดียว โดยตัวผู้เขียนเองชอบทั้งซาวด์กีตาร์เมาๆ และเสียงร้องที่ถึงจะเพี้ยนๆ แต่ก็มีเนื้อเสียงละมุนละไมของ จีน มหาสมุทร เป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้เข้ากันได้ดีกับซาวด์ดนตรีที่ทั้งดิบและน่าฟังในเวลาเดียวกัน

เพลงของวงนี้มีความดิบก็จริง แต่การเรียบเรียงเมโลดี้กีตาร์ที่มี ‘ความป๊อป’ อย่างชัดเจน ก็ทำให้ ‘ความเมา’ ทางดนตรีเหล่านั้นดูล่องลอยอย่างสดใสได้ด้วย ซึ่งเพลงอย่าง ‘จะว่าไหม’ และ U & Me ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนิยามดังกล่าว ส่วนเพลง 17 ก็เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่พั้งก์ที่สุดทั้งในส่วนของเนื้อร้องและดนตรี ขณะที่ ‘เพื่อนร่วมทาง’ เป็นเพลงที่พูดถึงมิตรภาพและความรักได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากที่สุดในอัลบั้มชุดนี้

นอกจากนี้ยังมี Clouds ที่เป็นเพลงที่ป๊อปที่สุดในอัลบั้ม จนเหมือนเป็นเพลงที่ถูกแต่งขึ้นเพื่อทริบิวต์ให้กับวง The Beatles; Rock & Roll Worm และ ‘เสือป่า’ ที่เป็นเพลงการาจร็อกที่ ‘จัดเต็ม’ มากๆ — โดยเราอาจกล่าวได้ว่า เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มชุดนี้พูดถึงความรัก (ที่ค่อนไปในทางผิดหวัง), ความเหงา ไปจนถึงความตลกร้ายที่หมายจะเสียดสีสังคม

อย่างไรก็ดี การรีวิวอัลบั้มที่วางจำหน่ายไปเมื่อ 15 ปีที่แล้วถือเป็นเรื่องแปลกอยู่บ้างเหมือนกัน แต่การได้ฟังเพลงของวง Saliva Bastards อีกครั้ง ก็คงทำให้หลายคนหวนนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองในฐานะ ‘นักฟังเพลง’ เมื่อนานมาแล้วไม่ต่างกัน

ที่สำคัญ ตอนนี้เพิ่งมีการยืนยันว่า พวกเขาจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อทำเพลงใหม่ออกมาในช่วงปลายปีนี้ …โปรดติดตามกันให้ดี ทั้งอดีตวัยรุ่นจากยุคที่ปาร์ตี้ Dudesweet ยังรุ่งเรืองเฟื่องฟู และเด็กรุ่นใหม่ที่หลงเสน่ห์การฟังเพลงย้อนวัยทั้งหลาย

ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของ Saliva Bastards ได้ ที่นี่