“โก๊ะตี๋ะ” ได้กลับบ้านแล้ว! ซึ้งใจ “ชมพู่ อารยา” ส่งยาจีนให้ ขอบคุณทุกคนทั้งน้ำตา


ให้คะแนน


แชร์

“โก๊ะตี๋ะ” ได้กลับบ้านแล้ว! ซึ้งใจ “ชมพู่ อารยา” ส่งยาจีนให้ ขอบคุณทุกคนทั้งน้ำตา

วันที่ 13 ก.ค. 2564 เวลา 18:30 น.

“โก๊ะตี๋ะ” ไลฟ์สดขอบคุณทุกคนทั้งน้ำตา หลังหายป่วยได้กลับบ้าน ซึ้งใจ “ชมพู่ อารยา” ส่งยาจีนมาให้

ตอนนี้นักแสดงตลก อย่าง “โก๊ะตี๋ อารามบอย” สามารถกลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้านได้แล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้แจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกระทั่งหายป่วย

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 12 ก.ค. “โก๊ะตี๋” ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเพจ Suansanook Cactus ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทุกคนมอบให้ และยังได้เอ่ยขอบคุณน้ำใจจากสาว “ชมพู่ อารยา” ที่ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันมานาน แต่ยามที่ป่วยเธอนั้นได้แสดงความห่วงใย และส่งยาจีนมาให้รับประทาน

?

โดยในไลฟ์ “โก๊ะตี๋” ได้เผยว่า “หนูอยากจะขอบคุณ พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอบคุณทุกความห่วงใยทุกกำลังใจ หนูรู้ว่าใครรักเรา (ร้องไห้) ตอนนี้หนูหายแล้วครับ ได้เห็นทุกข้อความเลยครับ หนูกลับมากักตัวที่สวนขั้นต่ำ 10 ตามที่คุณหมอแนะนำ ไลฟ์นี้เป็นการขอบคุณผู้ใหญ่ รุ่นน้อง รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน พอเขาทราบข่าวว่าเราป่วยเขาก็มีความห่วงใยส่งข้อความมาให้กำลังใจ รู้ว่าเวลาคนเรากำลังจะตายได้รู้เลยว่าใครรักเรา

อาต๋อย พี่ยุทธ พี่ซุป พี่บอล ชมพู่ อารยา พอพูดถึงย่า (ชมพู่ อารยา) แล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง เขาเป็นคนที่เซนซิทีฟมาก เราเล่นหนังด้วยกันมานาน พอเขารู้ว่าติดเชื้อโควิดเขาพยายามจะโทรหาหนู ก็ได้คุยกันเขาบอกเดี๋ยวเขาส่งยาจีนมาให้ แวปแรกไม่ได้คิดว่าจะต้องหายจะต้องรอด แวปแรกคือชมพู่ อารยาเขาเป็นคนดัง ตั้งแต่ตอนเขาท้อง เราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย วันนั้นชมพู่โทรมาถามว่าเป็นยังไงมั่ง เราเป็นตลกตัวเล็กๆ ชมพู่พูดกันตามตรงเขาเป็นดาราดัง เขาก็รวย ไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจอะไรก็ได้ แต่ด้วยความที่เราสนิทกัน คือวันหนึ่งเราจะตายเราอยู่ในห้วงชีวิตรอดหรือไม่รอดเราจะได้รู้ถึงความรักเลย ด้วยพื้นฐานเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม หนูไม่ค่อยชอบคนเยอะ แต่ก็มีพี่ๆ น้องๆ ส่งกำลังใจมาให้ ขอบคุณมากๆ

ที่ห่วงอย่างเดียวคือเป็นห่วงแม่มากๆ แต่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้เข้าไปกอดแม่ ตอนนี้บอกแม่ว่าอย่าออกจากบ้านอยากได้อะไรบอกลูก ชีวิตต้องดำเนินต่อไปครับ ความรักความห่วงใยจากทุกคนที่เอ่ยชื่อไม่หมด แต่หนูรับรู้และซาบซึ้งใจมาก”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/657909
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/657909