แต้ว ยังไม่ประมาท ถึงไม่ติด แต่ขอซ้อมใช้ชีวิตเหมือนติดโควิด  


ให้คะแนน


แชร์

แต้ว ยังไม่ประมาท ถึงไม่ติด แต่ขอซ้อมใช้ชีวิตเหมือนติดโควิด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

หลังจากที่ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ประกาศผ่านไอจีส่วนตัวว่า ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมแจงไทม์ไลน์ และเวลาต่อมาแต้วได้โพสต์อีกครั้ง ชี้แจงว่าได้ทำการตรวจเชื้อซ้ำกับโรงพยาบาลแห่งที่สอง ซึ่งผลออกมาว่าไม่พบเชื้อ

ข่าวสดออนไลน์ ได้สอบถามไปยังนางเอกสาว ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งสอบถามความรู้สึกว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ย้อนไปตอนที่พบเชื้อวันนั้น ตกใจขนาดไหน และเตรียมการยังไง? “ตกใจมากค่ะ อย่างที่บอกว่าไม่ได้ตั้งรับว่าจะติดเชื้อ เป็นการไปตรวจเพื่อความปลอดภัย เพราะเราไม่ได้ไปเสี่ยงที่ไหน ยอมรับเลยว่ามีอาการสั่น เตรียมการยังไงก็แพ็กกระเป๋า เพราะคิดว่าจะต้องแอดมิต จนกระทั่งใจเย็นลงก็ค่อยๆศึกษาข้อมูลว่า เรายังไม่ได้มีอาการ และสามารถโฮไอโซเลชั่นได้ ก็เลยจะเลือกที่ทำโฮมไอโซเลชั่นค่ะ”

ตอนที่บอกว่าติดเชื้อมีชาวเน็ตเข้ามาตำหนิ และให้กำลังใจมากเช่นกัน หลายคนบอกว่า กักตัวไม่ครบ อยากให้ชี้แจงเรื่องนี้? “ตอนที่ถูกตำหนิ เขาอาจจะอ่านข้อมูลไม่ครบ และอาจจะรวมจากที่แต้วเคยทำพลาดเรื่องการกักตัวไม่ครบไปคาเฟ่ แต่เคสกรณีนั้นก็จบไปแล้ว ขอโทษแล้ว คนที่ให้อภัยก็คงไม่ได้มาเมนต์ แต่คนที่เขายังฝังใจกับความผิดพลาดอยู่เขาเลยเอามารวมกันค่ะ

สำหรับคนที่ให้กำลังใจ แม้จะเป็นข้อความสั้นๆ ว่าสู้ๆ ก็มีผลในการช่วยเยอะมากๆ สำหรับเรา ณ ตอนนั้น ที่เชื่อว่ากำลังเผชิญกับการติดเชื้ออยู่ค่ะ ส่วนการกักตัวที่ไม่ครบ ตรงส่วนนั้นเป็นข้อผิดพลาดได้ขอโทษแล้ว แต่ก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไรเพิ่ม เพราะเรามีเรื่องที่หนักหนากว่าที่ต้องคิดค่ะ”

ตัดสินใจรักษาที่บ้านเพื่อลดการหาเตียงด้วย? “ใช่ค่ะ เพราะรู้สึกว่าตอนนี้หมอ พยาบาล ที่ดูแลคนป่วยโควิดอยู่ ตอนนี้เขาโหลดกับงานมากๆ จากข่าวที่ได้เห็นนะ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเรามีทางเลือกว่าสามารถทำโฮมไอโซเลชั่นได้ ก็อยากทำแบบนั้นมากกว่า และห่วงคุณแม่ด้วย

เพราะผลของคุณแม่ก็ยังไม่ออกตอนนั้น และคิดว่าเราสามารถมอนิเตอร์ และมีวินัยพอที่จะวัดอุณหภูมิ กินยาอะไรก็ตามที่จะได้ตามสั่งมาจากแพทย์ได้ เลยเลือกที่จะโฮมไอโซเลชั่นดีกว่าค่ะ”

รักษาอยู่บ้านต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง? “ง่ายๆ เลย มีเครื่องวัดอุณหภูมิ มีเครื่องวัดออกซิเจน ถ้ามีเครื่องหวัดความดันด้วยก็จะดีมาก เพราะว่าความแตกต่างของการอยู่ในมือหมอที่โรงพยาบาล ที่ตอนนี้หายากมาก เท่าที่ทราบข่าว คือต้องอยู่เป็นเตียงรวม หรือฮอสพิเทลเขาก็ไม่สามารถเอ็กซเรย์ปอดได้

ถ้าเรามีเครื่องหวัดออกซิเจนก็เหมือนเป็นการตรวจว่าเชื้อลงไปในปอดหรือยังค่ะ ก็ประมาณเท่านี้ ก็พยายามหาน้ำอุ่นดื่ม ทานยาสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร และก็แยกห้องแยกโซน ไม่ใช้อะไรร่วมกับใครเลย อยู่แต่ในห้องอย่างเดียวเลยค่ะ”

เอะใจใช่ไหม ถึงทำการตรวจซ้ำทันที และสงสัยใช่ไหมว่าพลาดตรงไหน? “มันเกิดจากการที่ก่อนที่จะแอดมิต เจ้าหน้าที่เขาซักประวัติค่ะ แล้วเราไม่สามารถบอกเขาได้ว่า เรามีเอะใจไหม ว่าจะติดเชื้อที่ใคร เวลาไหน เราไม่สามารถบอกได้ และประกอบกับไม่มีอาการด้วยก็เลยคิดว่าตรวจอีกสักครั้งก็ไม่น่าจะเสียหาย เพราะไม่รู้ว่าตรวจมาตั้งกี่ครั้งแล้ว ก็เลยตัดสินใจตรวจซ้ำกับเจ้าหน้าที่ที่เขาบอก”

พอผลออกมาว่าไม่ติดก็สบายใจขึ้น? “ถือว่าสบายใจขึ้นมากๆ ยอมรับว่าถ้าเราต้องอยู่กับมันไปอีก 14 วัน หรือเกือบเดือน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเรามีภูมิต้านทานพอที่จะทำให้เชื้อตายได้ไหม แล้วปอดเราจะเสียหายยังไง ก็ตัดความกังวลตรงนั่นได้ประมาณหนึ่งค่ะ

แต่ว่าเราเองก็รู้สึกว่าเชื้อพัฒนาและกลายพันธุ์ มีโอกาสที่จะติดมากขึ้นได้ทุกขณะ เพราะเราก็มีการสั่งอาหาร พัสดุอะไรก็ตามก็สามารถรับเชื้อได้ตลอดเวลา แม้ใส่หน้ากากอนามัยก็ไม่ใช่การการันตีว่ามันจะปลอดภัยจากเชื้อ มือเราเองก็อาจจะจับแคะแกะเกาในบางจุด

ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะรับเชื้อมาตอนไหน แม้ว่าเคสนี้จะจบไป แต่ก็อาจจะเป็นบวกได้ในโอกาสหน้าค่ะ ถือว่ายังไม่จบเกมส์ ต้องระวังขึ้นตัวขึ้นไปอีกค่ะ ในครั้งนี้ก็พยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันเแน่ ก็ยังไม่สบายใจร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น แต่โล่งใจขึ้นโดยเฉพาะการที่คุณแม่ไม่ติดค่ะ”

แพทย์ลงความเห็นว่า ไม่นับเป็นผู้ติดเชื้อ อธิบายให้ฟังหน่อย? “เนื่องจากว่าโรงพยาบาลแห่งที่สอง ตรวจว่าไม่พบเชื้อ และมีการตรวจอีกครั้ง ที่แล็บเดียวกันด้วยวิธีเดิม ซึ่งเชื่อถือได้ และยิ่งมีการคอนเฟิร์มจากโรงพยาบาลเดิมที่เขาไปแก้ไขกระบวนการที่น่าจะเกิดการผิดพลาด

ซึ่งทางไหนต้องรอเขาออกมาขี้แจง ว่าเอาเชื้อขอเราไปตรวจใหม่อีกทีแล้วผลออกมาในแนวทางเดียวกันก็คือไม่พบเชื้อ ก็เลยลงความเห็นว่าน่าจะเป็นลบแน่ๆ ซึ่งเราก็ยังไม่หยุดแค่นั้น แต้วเองก็รอเวลาที่จะทำการตรวจแบบ pcr อีกครั้งกลางอาทิตย์หน้า เพื่อยืนยันผล และประกอบกับโรงพยาบาลแห่งที่สองคอนเฟิร์มว่าเราไม่พบเชื้อ

เขาเอาเชื้อไปตรวจกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกทีหนึ่งด้วยค่ะ ต้องรอดูผลว่ายังไง แต่ ณ วินาทีนี้ผลที่ออกมาและที่แพทย์อ่านค่าก็ค่อนข้างมั่นใจ มั่นใจเลยแหละไม่ใช่ค่อนข้างว่าเราไม่ได้ติดเชื้อค่ะ

คงสถิติจากการรอดการติดเชื้อ? “จริงๆก็รู้สึกว่าไม่อยากประมาทค่ะ ไม่อยากคิดว่าไม่ติดเชื้อนะ จนถึงทุกวันนี้ถ้าเราตั้งไว้ว่าเราเป็นผู้ติดเชื้อไว้ก่อน เราเองก็จะไม่ใช้ชีวิตอย่างประมาท และเป็นผลดีที่จะทำให้เราไม่ได้รับเชื้อจากคนอื่นๆด้วย เลยสมมติตัวเองไว้ก่อนว่าเราอาจจะติดเชื้อ เพราะเราก็ห่วงคุณแม่เป็นอันดับแรก ไม่ได้รู้สึกว่าโล่งอกขนาดนั้น เพราะเรายังอยู่ในสถานการณ์วิกฤตนี้ไปพร้อมกับทุกคนอยู่ค่ะ

สถานการณ์ตอนนี้มีคนติดเชื้อมากจริงๆ คิดเห็นอย่างไร? “ได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ว่าจะมีอะไรทำให้การตรวจเข้าถึงให้ได้ง่ายก่อน เพราะแต้วคิดว่ามีหลายคนที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงว่าจะติด แล้วยังไม่สามารถเข้าถึงการตรวจได้

อันนี้เป็นสิ่งแรกที่ทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะเราไม่สามารถแยกได้ว่าใครติดไม่คิด คนที่รู้สึกติดก็ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ อันนี้ถือว่าอยากให้รีบแก้ตรงนี้ รวมวัคซีนด้วยก็หวังว่าจะเข้าถึงได้และได้รับการแก้ไขในเร็วๆนี้ค่ะ”

หลายคนอยากให้ดาราช่วยเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์กระตุ้นรัฐบาล ให้กระตือรือร้นมากกว่านี้เพื่อลดจำนวนผู้ป่วย? “แต้วว่าทุกคนก็ทำหน้าที่ตามความสามารถ ตามทักษะที่ตัวเองมี อีกอย่างหนึ่งแต้วอยากให้แต่ล่ะท่านพยายามปฏิบัติตัวเพื่อช่วยเหลือกัน เพราะทุกคนมีส่วนในสังคมหมด ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นยังไง หรือสาธารณสุข เขาก็ต้องดิวกับปัญหาจำนวนมากเหมือนกัน แต้วรู้สึกว่าพยายามหาข้อมูล

ถ้าใครคิดว่าตนเองติดและสามารถโฮมไอโซเลชั่นได้ มีศักยภาพที่จะทำ ก็อยากให้ช่วยเหลือกันในทุกด้าน และถ้าใครที่ไม่ติดแล้วมีแรงมีกำลังทรัพย์ก็หยิบยื่นมือเขามาช่วยเหลือช่วยกัน ก็น่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระของสังคมไม่มากก็น้อยค่ะ”

ยังมีหลายคนฝ่าฝืน ยังจัดปาร์ตี้ ในสถานการณ์ตอนนี้? “แต้วว่าอะไรที่เป็นการช่วยเหลือได้ อยากให้มองเป็นเรื่องของส่วนรวมมากกว่าในตอนนี้ เรื่องของการรับผิดชอบต่อสังคม อะไรที่เคยพลาดไปแล้วแม้แต่แต้วเองก็ตาม มีพฤติกรรมที่ออกไปที่สาธารณะแม้ยังกักตัวไม่ครบ 14 วัน เข้าใจว่าเราอาจจะมั่นใจ

แต่ว่าก็ไปเพิ่มความกังวลใจให้กับคนที่ทราบและพบเห็นในที่ต่างๆ ก็เห็นแล้วว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆมันสร้างผลกระทบในวงกว้างจริงๆ จะทำอะไรอยากให้คิดเยอะๆ หรือให้คิดถึงตนเอง พ่อแม่ที่บ้าน คนรอบข้างและสังคมทั่วไปด้วยว่าเราจะไปเพิ่มภาระให้เขาหรือเปล่า”

ให้กำลังใจกับคนที่กำลังลำบากในสถานการณ์ตอนนี้? “หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี แต้วเชื้อว่าตอนนี้ แต้วเองซ้อมแล้วล่ะ เหยียบเข้าไปขาหนึ่งแล้วว่าเป็นผู้ติดโควิด ก็ดิวกับมันอยู่ถึงแม้จะไม่มีอาการหนักเท่ากับคนที่เป็น แต่แต้วเชื่อว่ามันกระทบกับร่างกายและจิตใจ ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้มันไม่เอื้ออำนวยให้ทุกอย่างกับการแก้ปัญหาได้ทันท่วงที

แต้วอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกคนมากๆ อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ต้องขอบคุณทุกคนมากๆที่พยายามช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นการบริจาค อะไรก็ตาม อยากให้ทุกคนอยู่กับข้อมูลความเป็นจริงติดตามข่าวสาร ดูแลตนเองอยู่กับบ้าน หรือโฮมไอโซเลชั่น หนึ่งคนช่วยได้หลายชีวิต เราช่วยๆกัน และเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีในเร็ววันนี้ ให้สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : taewaew_natapohn

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6515696
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6515696