ไม่มีงานมาตั้งแต่จบละครเรื่อง กี่เพ้า เป็นเรื่องสุดท้ายมากกว่า 5 ปีแล้ว พอไม่มีงานก็ไปหาร้องเพลงเพื่อประทังชีวิต แต่มันก็ไม่ดีเพราะเรามีค่าใช้จ่าย ทั้งเช่าคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์

ส่วนรูปที่เดินตามพระอันนั้นเริ่มจากบวช แล้วเราเป็นคนที่ไม่ชอบทำบุญตอนเช้า เพราะเป็นคนที่นอนดึก ตอนเดินบิณฑบาตรู้สึกสุขใจสุขกาย หลังจากสึกก็เดินตามพระที่วัดเดิมทุกเช้า ช่วงนั้นกับข้าวที่บ้านแม่ก็ไม่ต้องซื้อ เพราะมันเยอะมาก แต่ไม่เกี่ยวกับว่าไม่มีงานแล้วขอข้าววัดกิน

ตอนนี้มีภาระค่าใช้จ่ายค่าบ้านเช่า เพราะก่อนหน้าเคยมีบ้านแต่ถูกยึดไป มีค่าผ่อนรถ และมีแม่ที่ต้องดูแล จิปาถะต่างๆ ตกเดือนละหมื่นกว่า ภาระยังมีอยู่แต่ไม่มีรายได้เข้ามา ทำให้รู้สึกหนักมาก ที่ผ่านมาก็จะมีงานเข้ามาบ้าง 1 เดือนจะมีครั้งหนึ่ง พอประคองชีวิตได้บ้าง แต่ถ้าเมื่อก่อนที่เข้าจะไปอยู่ในเรือนจำมันหนักมาก เครียดมากจนคิดฆ่าตัวตาย ตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่บ้านพี่สาวแล้วเพราะพยายามลดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ แม็กก้า ยังเผยต่อกับรายการ สุดจัด ปนัดดา ทาง อมรินทร์ทีวี ว่าตอนที่ออกมาจากคุกใหม่ๆ มันเหมือนได้ชีวิตใหม่ มีงานเข้ามาดีเข้ามาเยอะ จนเรามองว่าจะมีบ้านให้แม่อยู่ มีทุกอย่างเหมือนเดิม แต่สุดท้ายมันกลับพังลงตอนที่รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ทุกอย่างหยุดลง ค่าใช้จ่ายยังเท่าเดิม เราต้องใช้จ่ายทุกอย่างมันก็เริ่มหมดลง จนมาเป็นปัญหาเดิม เราเครียดมาก แต่มาตอนนี้เจอปัญหาเข้ามาเรากลับยิ้มได้ หัวเราะได้ ไม่เป็นไร เจออีกแล้ว ให้กำลังใจตัวเองตลอดเวลาว่าเราต้องรอด ต้องสู้ เจออะไรมาก็พอยิ้มได้ เราตายไม่ได้

ก็มีของานเพื่อนในวงการบ้าง แต่ไม่กล้าขอมากเพราะกลัวเค้ามองไม่ดี จะออกไปไหนไปหาเพื่อนก็ไม่กล้า เพราะไม่มีเงิน นอนอยู่บ้านดีกว่า

ย้อนไปถึงสมัยที่กำลังดัง เป็นตลกเด็กคนแรกของประเทศไทย ทำมาหมดทุกอย่างแล้ว ช่วงที่มีเงิน ด้วยความที่รักเพื่อน เพื่อนชวนทำนั่นนี่ทำ ก็ทำกับเพื่อน แต่ไม่เคยคิดจะศึกษาเลย เพราะมีแต่ใจให้ไป เอาเงินไปลงทุนกับเพื่อน แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย เจ๊งหมด เงินที่ลงทุนไปกว่าหลักล้าน

เรื่องยาเสพติด ตอนนั้นเป็นคนที่มีเพื่อนฝูงเยอะมาก เจอคนหลายรูปแบบอีกอย่างใจอยากลองด้วย ก็เลยพลาดมา ถูกจับในข้อหาจำหน่าย ถามว่าตนเองเสพมั้ย เสพ แต่ไม่ได้ขาย ถ้าขายจริง คงไม่ต้องเอารถไปจำนำเพื่อประกันตัวออกมา ในวันแรกที่ไปอยู่ในคุก ทำใจยากมาก รู้สึกว่าแย่สุดๆ จากที่ทำงานได้เงินเดือนหลายหมื่น ก็ต้องมาเหลืออาทิตย์ละพัน ด้วยการร้องเพลงตามร้าน เพราะงานอื่นในวงการตัดเราออกไปเลย

และคณะชวนชื่น เราออกมานานแล้ว เพราะอยากจะมาออกอัลบั้มทำเพลง แต่เหมือนการสื่อสารผิดพลาด ทางคณะบอกคนอื่นว่า เราออกไปแล้ว เราก็เลยรู้สึกน้อยใจ ก็เลยเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งไปเกี่ยว และตอนที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือใคร เพราะเราทำผิดเอง

หลังจากนั้นเวลาผ่านไป ตอนที่เราบวชก็ไปขอขมาพี่จิ้ม ชวนชื่น ทุกอย่างมันเลยรู้สึกโล่ง พี่เค้าก็มาช่วยงาน ตอนนี้ก็ยังรักชวนชื่นเหมือนเดิม