เพิ่งรู้ว่าศิลปินในวงการโดนเรื่องบูลลี่มาหลายคนเลย คุณก็โดน?
ตั้ม “คือต้องบอกว่าเรื่องบูลลี่ จริงๆ ผมบูลลี่คนเหมือนกันนะ คือตอนสมัยเรียน เพื่อนสนิทเนี่ยเราก็จะหยอกกัน ไอ้อ้วน ไอ้ดำ เพื่อนล้อเรา เราไม่รู้สึกโกรธ ณ ยุคนั้น ความสนิทกันด้วย ทุกวันนี้ก็ยังเป็น ล้อชื่อแม่ เจอเพื่อนเก่าๆ ก็ยังมีด่ากัน บูลลี่กันปกติ แต่สำหรับคนที่ไม่สนิทไม่รู้จักกัน อันนี้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่”

โดนอะไร?
ตั้ม “หน้าไม่หล่อบ้าง ไม่เหมาะกับการอยู่ในแก๊งนี้ เมื่อก่อนจะมีคอนเสิร์ต 7 wonder ก็มีพี่โตโน่, พี่กัน นภัทร, พี่ฮั่น, พี่แกงส้ม, พี่ริท, กั้ง คือระดับพระเอกทั้งนั้น แล้วมีผม”

ใครเป็นคนพิมพ์เข้าไปว่าไม่เหมาะ?
ตั้ม “สักคนหนึ่งในโซเชียล มันกระแทกในจังหวะนั้นจริงๆ คือผมกำลังจะขึ้นคอนเสิร์ต ลดความอ้วน แล้วมันก็โหย ผมอยู่คนเดียวด้วย จังหวะนั้นอารมณ์มันก็เหมือนสวิงด้วย ผมก็เลยลั่นพิมพ์ตอบกลับไป ผมจำไม่ได้ว่าตอบยังไง แต่มันก็ไม่ดีหรอก มาคิดได้ตอนหลังมันก็ไม่ควรหรอก”

ตอนนั้นเรียกว่าเฟลไหม?
ตั้ม “เฟล รู้สึกนอยด์ว่าทำไม เพราะเราพยายามที่จะทำให้มันดี เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้วพอสมควร”

ทีมงานบอกว่าช่วงแรกที่เข้าวงการเงินที่ได้มาหมดไปกับคลินิก?
ตั้ม “ใช่คลินิกทำหน้า หูย พี่หนังหน้าผมมะกรูดอะเอาง่ายๆ แล้วเป็นสิวด้วย คือตอน ม.ปลาย เป็นอีสุกอีใสก่อน แล้วมันเป็นแบบ 1 ใน 100 คนที่มันเป็นแบบนี้ มันเป็นแบบไม่มีที่ว่าง เป็นเหมือนเม็ดข้าวโพดเลย พอมันหายมันก็ทิ้งรอย มันก็เป็นหลุม

เพราะฉะนั้นผิวหน้าคือมะกรูดไปแล้ว แล้วพอมาเข้าวงการก็เริ่มรู้จักการแต่งหน้า สเปรย์ฉีดนู่นนี่นั่นมาโดนหน้า แล้วหน้าแพ้ง่าย กลายเป็นสิว มันดันเป็นมะกรูดที่แทรกด้วยตะปุ่มตะป่ำ มันหนักมาก เราก็เลยมีการรักษาผิวหน้า ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามีคลินิกให้ลงโปรโมตรักษาฟรี เราก็ไปดุ่มๆ ของเรา โดนไปแบบว่าซื้อรถได้คันหนึ่ง”

ตอนนี้ยังไปอยู่ไหม?
ตั้ม “ตอนนี้ไม่ค่อยแล้ว หลังๆ มันก็เริ่มดีขึ้น เราก็รู้สึกว่าโอเค มันไม่ได้ดูแย่ เพราะแต่ก่อนเวลาเราออกทีวี แล้วเราไปดูตัวเองนี่เรายังรู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยดีเลย แล้วคนดูเขาจะรู้สึกไหม

เราก็เลยต้องไปทำให้มันพอดูได้ ไม่ได้ให้แบบให้มันเรียบเนียนกริบ ตอนนี้หน้าก็ดีจากเดิมมากๆ แล้วพี่ มันอาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์เหมือนกับหน้าคนที่ใสๆ แต่ว่ามันดีขึ้น”

นอกจากหน้าที่พัฒนาขึ้น เนื่องด้วยหน้าเราดร็อปกว่าคนอื่น เราก็ต้องพัฒนาฝีมือให้เทียบเท่า หรือเก่งกว่าคนอื่นถูกไหม?
ตั้ม “ไอเก่งกว่าคนอื่นก็อาจจะไม่ขนาดนั้น คือตอนแรกผมจะเข้ามาอยู่ 4 โพดำ เขาก็มาบอกว่าเนี่ย ตั้มจะได้ขึ้นคอนเสิร์ต 4 โพดำนะ ก็ถามว่ามีใครบ้างครับ เขาก็บอก พี่แก้ม พี่กัน พี่โดม และผม พอฟังชื่อแต่ละคนคือเราไม่น่าจะไปอยู่ในกลุ่มนั้นได้

เราก็คิดว่าเพราะอะไร ตอนนั้นเรามองไม่เห็นตัวเอง พี่บอยเป็นคนที่มองเห็นว่าเราจะเป็นคนมาอยู่ในกลุ่มนี้แล้วมันลงตัวได้ ตอนแรกผมไม่สามารถร้องเพลงหลบเสียงได้ ไม่สามารถร้องเพลงเสียงสูงๆ ได้ คือใส่เต็มสูบ อีกวันไม่มีเสียงพูด คือเด็กต่างจังหวัดก็แหกปากอย่างเดียว ไม่มีเทคนิคใดๆ ประสานเสียงนี่คือไม่ได้เลย หูดับ ทำไม่เป็น แต่พอมาอยู่กับแก๊ง 4 โพดำ มันต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เขาเก่ง เราก็ต้องฝึก”

ข่าวล่าสุดเราเป็นใช่ไหม ทำไมแต่หญิงบ่อยจัง?
ตั้ม “ที่แต่งหญิงบ่อย เพราะเป็นบทบาทหน้าที่ที่ได้รับ ใน 4 โพดำมันมีการละคร ก็แต่งหญิงเล่นละคร ไม่ได้คิดอะไร เล่นแล้วดันคนชอบ”

แล้วตกลงเป็นไหม?
ตั้ม “ไม่ได้เป็นครับ แต่ก็มีช่วงที่เคยคิดว่าเราเป็นหรือเปล่าวะ เพราะมันมีคำจากหลายๆ คนที่บอกว่าตั้มเป็นแหละ ไม่รู้ตัวหรือเปล่า อาการเราเหมือน เราไปนั่งดูทีวีเรายัง เฮ้ย…มันเหมือนจริงๆ ก็มีการเช็กตัวเองเกิดขึ้น อันดับแรกเลยดูหนังเกย์ หนังโป๊เลย ดูซิเราจะรู้สึกอะไร

พอดูแล้วมันไม่รู้สึก เพราะว่าเรารู้สึกว่าเขามีทุกอย่างเหมือนกับเรา แล้วเขาก็ไม่ได้มีทรวดทรงที่เราพึงพอใจ สองการที่เราเป็นแบบนี้หรือเราต้องลองจี้ไปที่จุดสัมผัสทางด้านหลังของเรา เราก็ไปคนเดียว ด้วยการใช้นิ้วของเราในการวัดว่ามันใช่ไหม”

เราพิสูจน์ด้วยการเอานิ้วไปเขี่ยตรงไหน?
ตั้ม “ตรงจุดที่เขาจะไปกันได้ ข้างหลัง แล้วมันไปได้นิดเดียว มันไม่รู้สึกอะไร มันต่างจากข้างหน้าที่เราไม่ต้องใช้นิ้วมันก็มา แต่นี่การที่เราไปดูหนังเกย์หรือว่าเราจะเป็นรุกไง คือถ้าเราดูแล้วเรารู้สึกแสดงว่ามันใช่เป็นทางบวก

แต่ถ้าเราเป็นทางฝ่ายตั้งรับล่ะมันใช่ไหม เราก็พิสูจน์ทางฝ่ายตั้งรับของเรา เราก็ลองเข้าไปปั๊บมันไม่ใช่ มันไม่ใช่ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเป็นคนแปลกเหมือนกัน ไปถามเพื่อนเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อเพื่อนผู้ชายเกือบทุกคนก็ทำ ผมก็เลยรู้สึกว่าไม่แปลก”.