‘นิว’ โต้ผันตัวเป็นคนส่งอาหาร


ให้คะแนน


แชร์

“นิว” วงศกร ปรมัตถากร แจงไม่ได้พลิกอาชีพจากพระเอกเป็นแมสเซ็นเจอร์ส่งอาหาร แค่สัมผัสจากการไปส่งอาหารให้แฟนสาว “นาว” ทิสานาฏ ศรศึก แล้วอยากให้กำลังใจอาชีพนี้ พร้อมฝากข้อคิดดีๆ ให้มองมุมบวกในการกักตัวอยู่บ้านเพื่อนประโยชน์

           ทีมบันเทิง คมชัดลึก – การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อคนในแวดวงบันเทิงไม่ต่างจากวงการอื่นๆ ทำให้นักแสดงหลายๆ คนมีเวลาว่างจากการงานที่ถูกยกเลิกไป ล่าสุดพระเอกหนุ่ม “นิว” วงศกร ได้โพสต์คลิปว่าเขาเอาช่วงว่างโดยหันมาสวมบทเป็นแมสเซ็นเจอร์ส่งอาหารจนกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก ซึ่งเมื่อสอบถามเรื่องนี้และได้คำตอบดังนี้

 

          “ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้คืออาชีพที่เป็นหน้าบ้านของพวกเราคือคุณหมอ คุณพยาบาล แต่อาชีพที่เป็นหลังบ้านเราในสถานการณ์นี้คือพี่ๆ แมสเซ็นเจอร์ ที่ช่วยเหลือพวกเราที่อยู่บ้านไปไหนไม่ได้ ให้เรามีอาหารกินได้ อยากกินอะไรก็ได้กิน คือพอผมไปทดลองเป็นแมสเซ็นเจอร์ส่งอาหารให้น้องนาว ไม่ได้ส่งให้ลูกค้า แต่เราได้ไปสัมผัสด้วยการเห็นแมสเซ็นเจอร์ที่เขาส่งอาหาร เราเห็นเลยว่ามันไม่ได้ง่าย ค่อนข้างลำบากและต้องมารับความเสี่ยงแทนเรา แล้วยิ่งผมไปอ่านเจอว่ามีคนแกล้งแมสเซ็นเจอร์ด้วยการสั่งอาหารแล้วไม่มารับ สั่งอาหารแล้วให้เขายืนรอนานๆ ตากแดดร้อนๆ การที่เขาไปเข้าแถวเสี่ยงติดโรคแทนเราและยังต้องมาเสี่ยงบนท้องถนนเพื่อมาส่งของให้เราอีกและยังมาถูกแกล้ง ผมเลยรู้สึกไม่สบายใจเลยอยากให้กำลังใจพี่ๆ น้องๆ แมสเซ็นเจอร์เท่านั้นเอง จริงๆ ก่อนหน้านี้ประมาณ 8-9 ปี ผมเคยส่งอาหารมาก่อน ตอนที่เปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว

ติดตามข่าวสาร “คมชัดลีก” ผ่าน Line official

เพิ่มเพื่อน

 

 

          ถามต่อว่าฝากถึงอะไรถึงคนที่อาจจะรู้สึกลำบากกับการกักตัวอยู่บ้าน

          “ผมว่ามันเป็นผลกระทบที่กระทบทุกคน แต่ตอนนี้ทุกคนจะต้องยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวมจริงๆ อาจจะต้องกลั้นใจกันนิดหนึ่ง แต่ทุกคนลำบากเหมือนกันหมด ไม่มีใครไม่ลำบาก ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด แต่เราต้องเสียสละสิ่งที่เราทำได้คือการอยู่บ้านเพื่อส่วนรวม ไม่เพิ่มภาระให้คุณหมอคุณพยาบาล จริงๆ ผมว่าถ้ามองให้มันเป็นโมเมนต์ที่ดีในเหตุการณ์แย่ๆ ก็คือเรามีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น มีเวลาให้ทำหลายอย่างเวลาที่ได้อยู่ที่บ้าน ผมว่าเราลองหาข้อดีของการอยู่บ้านมา ผมว่าเราจะได้ข้อดีเยอะมาก เป็นช่วงเวลาทองที่เราน่าจะตักตวงเอาไว้”

 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/ent/425305
ขอขอบคุณ : https://www.komchadluek.net/news/ent/425305