หนุ่มถามถึงเรื่องความรัก นาย ณภัทร คือสเปกไหม ใบเฟิร์นบอกว่าเป็นคนไม่มีสเปกว่าหน้าตาผิวพรรณส่วนสูงยังไง แล้วแต่ฟีล สมมติเขาทำอะไรแล้วอุ๊ย ตกหลุมรักไปเลย แต่ก็แค่ชอบ น่ารักจังเลย ถ้าเขามาจีบก็อาจจะเป็นแฟน หรือไม่ชอบไปเลย

คือชอบในวินาทีนั้น แต่ถ้าเขามาจีบอาจจะคิดมากว่าจะเสียใจไหม จะคุยกันรู้เรื่องไหม ทำให้ไม่ได้คุยต่อ ทุกวันนี้ไม่มีใครจีบเลย นิสัยไม่ดี ผู้จัดการไม่ได้กัน ก็อยู่กับนางทุกวัน นางบอกว่าใครเขาจะเอามึ- มึ-น่ารำคาญ เขาบอกหนูน่ารำคาญ

หนุ่มถามว่าเคยมีแฟนไหม ใบเฟิร์นตอบว่าเคย หนุ่มถามอีกว่าครั้งล่าสุดเฮิร์ตมากมั้ย ใบเฟิร์นบอกว่าประมาณนึง ก่อนจะเลี่ยงตอบด้วยการพูดถึงอาหาร

หนุ่มถามต่อว่าตอนนั้นเสียใจถึงขั้นไหน ใบเฟิร์นบอกว่า “ที่สุดในชีวิตที่เคยเสียใจมาเลย แต่พอเลิกแล้ว วันที่ร้องไห้จริงๆ คือร้องวันเดียว เอาให้เสร็จ” หนุ่มถามต่อว่าแสดงว่าเรารู้วันหนึ่งมันต้องเลิกกันแน่ๆ แต่เรายังไม่ยอมรับความจริง ใบเฟิร์นตอบ

“ใช่ อยากแต่งงาน อยากแต่งงานกับทุกคน เป็นเหมือนความฝัน โตขึ้น 25 ฉันจะแต่งงาน แล้วเดี๋ยวฉันจะท้อง แค่ตกหลุมรักใครก็คืออยากแต่งงานกับคนนั้น เดี๋ยวจะท้องแล้วจะเป็นแม่ที่ดีเลี้ยงลูกเลย”

ถามว่ามีแฟนมากี่คน ใบเฟิร์นบอกว่า “ไม่กี่คนค่ะ คนสองคน ไปแอบชอบใครก็อยากแต่งงานกับเขาค่ะ ลึกๆ แล้ว เหมือนคิดเป็นเด็กๆ อาจจะดูการ์ตูนเยอะตอนเด็ก คิดว่าชีวิตปลายทางคือต้องแต่งงาน”

หนุ่มแซวว่าอยากแต่งงานกับกงยูเหรอ ใบเฟิร์นบอกว่า “ชอบกงยูค่ะ ไดเรกต์ไปชื่นชม ส่งไปบอกว่าหนูเลิกงานแล้วนะคะโอปป้า แต่พิมพ์ไทยไปแล้วเขาไม่อ่าน ไม่ตอบ”

หนุ่มถามต่อว่าวันก่อนมีคนเอาภาพจากกล้องวงจรปิดร้านลูกไก่ทองมาเปิด เห็นใบเฟิร์นนั่งร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น ใบเฟิร์นตอบว่า คือเพื่อนๆ หนูจะเป็นคนพูดตรงมาก หนูเริ่มเป็นบ้าจากตัวละครไหน เริ่มด่าหนูแล้ว นี่ไม่ใช่มึ-แล้ว มึ-ท่าทีแปลก ไปหาจิตแพทย์เดี๋ยวนี้ จะโดนอะไรแบบนี้ตลอด ที่ร้านลูกไก่ทองเป็นอีกวันที่เครียดสะสมหลายๆ อย่างมาก ทำอะไรก็กังวลไปหมด ขาดความมั่นใจ หน้านิ่วคิ้วขมวด

หนุ่มถามว่ามาจากอะไร ใบเฟิร์นบอกว่า “ทำงานเยอะ การทำงานแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน บางที่เขาทำคนละแบบกับเรา ไม่เหมือนที่คิดไว้ ไม่ได้อย่างที่คิดไว้ งานจะออกมาดีไหม ก็จะมีความคลั่งนิดหนึ่ง เพื่อนก็จะเรียกมา หลอกไปกินน้ำแข็งไส

ปกติเลิกกองจะกลับบ้านเลย ไม่ชอบไปนั่งกินข้าวที่ไหน เพราะจะกลับไปอ่านบท นั่งกินน้ำแข็งไส เพื่อนบอกว่าอีใบ วันนี้ท่าทีมึ-ไม่ดีเลยนะ มึงหน้าตาคร่ำเครียดตลอดเวลา รู้ไหมทำคนอื่นเขาเสียหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทีมงานต้องมานั่งเกร็งกัน

ตอนนั้นร้องไห้หนักเป็นเรกเก้เลย ไม่ได้ตั้งใจ เสียใจ และเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นด้วย ทำไปไม่รู้ตัว ทำไมต้องเครียดกดดัน บางทีทำงานเยอะๆ อยากให้เพอร์เฟกต์”

ถามว่าอันนี้คือที่เล่นสองเรื่องควบกันไหม ใบเฟิร์น ตอบว่า “ช่วงนี้แหละค่ะ” หนุ่มถามอีกว่าเป็นที่มาต่อไปนี้เราจะเล่นเรื่องเดียวรึเปล่า ใบเฟิร์นบอกว่า “ด้วยค่ะ คือบางทีถ่ายละครสองเรื่อง ยังไม่รวมโฆษณาอื่นที่ต้องหาคิวแทรกให้ได้ กลับมาบ้านฟิตติ้งอีกงานนึง ยังไม่ได้นอน นอกจากยังไม่ได้อ่านบทอยากที่อยากอ่านแล้ว ยังฟิตติ้งทำโน่นนี่ ทำทุกอย่าง หนูจะมีความเครียด พรุ่งนี้ต้องทำไร กลางวันต้องทำไรตลอดช่วงนึง”

หนุ่มบอกว่าเข้าใจมุมนี้ เพราะก็เป็นแบบนี้ ทำงานอย่างนี้ทุกวัน ได้มีโอกาสคุยกับจิตแพทย์ จิตแพทย์บอกว่าผมว่าคุณหนุ่มมีปัญหาแล้วนะ คุณอาจคิดว่าคุณเก่ง แต่เปล่า เรื่องที่ฟังทั้งหมดมันอยู่ใต้จิตสำนึก ถ้าวันนึงโมโห หลุดรั่วขึ้นมา จะไปหยิบสิ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกออกมาใช้ เพราะคุณฟังเขาเล่าหมดเลย ใบเฟิร์นถามว่าแล้วต้องทำยังไง หนุ่มบอกว่าต้องปรึกษา ต้องมีคนคนนึงที่สามารถเข้าไปคุยกับเขาได้เลย แต่ยังไม่ได้ทำแบบนั้นเลย

หนุ่มถามว่าเฟิร์นเป็นแบบนั้นมั้ย ใบเฟิร์นตอบว่าเป็น แต่จะมีผู้จัดการคอยรับฟัง นางจะบอกว่าเฟิร์นเป็นแล้วนะ เป็นบ้า นี่โรคจิต เวลาเล่นเป็นนิรา เขาเป็นโรคจิต หลังๆ -ูเป็นนิราหรือเปล่า -ูสบายมากเลย ผู้จัดการก็บอกสบายไม่ได้ เพราะเขาไม่ปกติ รู้สึกสบายในอาการเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เริ่มแกะไม่ออกแล้ว แต่หนูก็จะคิดว่าตัวเองเก่งเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก เลิกงานยังหัวเราะกับเพื่อน แต่หัวเราะสักพักตาขวางก็มี

จากนั้นใบเฟิร์นเล่าถึงการทำงานตอนละคร “หลงไฟ” ซึ่งตัวละครที่เล่นชอบเช็กแบรนด์เนม แต่จริงๆ ใบเฟิร์นไม่รู้จักแบรนด์เนม แล้วในละครจะชอบชะโงกไปดูแบรนด์เนมผู้ชาย ซึ่งเป็นวิธีคิดของตัวละคร แล้วในชีวิตจริงก็เผลอทำแบบนั้นไป ถามว่าทำไมถึงไม่ชอบแบรนด์เนม ไม่รู้จักเลย ใบเฟิร์นบอกว่า รู้จักขึ้นตามกาลเวลา ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบหรืออะไร ชอบเป็นอย่างไปดีกว่า เรารู้สึกชอบกระเป๋าใบนี้เพราะถือเข้ากับเรา

ถามว่าจำเป็นต้องแอร์เมสชาแนลไหม ไม่จำเป็น แค่อันนี้เหมาะกับเรา เข้ากับชุดได้ก็โอเค ก็ซื้อบ้าง หนุ่มถามว่า แอร์เมสซื้อไหม ใบเฟิร์นตอบว่า “ไม่ค่ะ อาจจะไม่ได้เข้าไปเดินดูชัดๆ เลยไม่ได้อยากได้ หนูแทบไม่ค่อยเดินห้างเลย” ถามว่ากระเป๋าแพงสุดซื้อใบเท่าไร นางเอกสาวบอกว่า ไม่ได้ซื้อกระเป๋ามานานมากแล้ว หลักแสนก็มีแต่นานมากแล้ว เอาจริงๆ แทบไม่ได้ใช้ตังค์ ทำบ้าน ตามฝัน

หนุ่มถามอีกว่าทำไมไม่มีแฟน ใบเฟิร์นบอกว่า พี่หนุ่มดูสภาพสิคะ หนุ่มพูดอีก “พี่เชื่อว่ามีผู้ชายอยากจะเป็นแฟนกับใบเฟิร์นนะ ผู้ชายต้องคลั่งไคล้มาก” ใบเฟิร์นพูดทันที “พี่หนุ่มคิดผิด มันไม่มีจริงๆ ค่ะพี่หนุ่ม” หนุ่มงง บอกว่าพูดเป็นเล่น ถามอีกว่าไม่มีคนมาจีบเลยเหรอ 

ใบเฟิร์นยืนยัน “ไม่มีเลยค่ะ มีฝากเพื่อนมาบอกชอบๆ นะ แต่จีบจริงจังไม่มีค่ะ” หนุ่มรีบพูดอีกว่าผู้ชายจีนเขาแอบชอบไม่ใช่เหรอ อวี๋ปิน ใบเฟิร์นตอบว่า ไม่รู้เรื่องเลย เขาน่าจะดูสิ่งเล็กๆฯ แล้วเขาโพสต์รูปเฟิร์น

หนุ่มถามว่ามีอะไรจะคุยอีกมั้ย ใบเฟิร์นถามกลับว่าพี่มีอะไรอีกมั้ย หนุ่มบอกว่าพี่มี แต่ถามในรายการแบบนี้ไม่ได้หรอก แต่งานนี้เจอกองเชียร์ยุให้จัดหนักเลย

งานนี้หนุ่มเลยจัดหนักเข้าสู่รายการโหนกระแส ถามใบเฟิร์นเรื่องในอดีต แต่งานนี้รายการได้ตัดส่วนนั้นออกไป ใบเฟิร์นถึงกับร้องว่านี่ออนไม่ได้เลยนะ ตายเลยนะ แถมมีน้ำตาไหล เช็ดน้ำตาเบาๆ ก่อนจะบอกว่าอันนี้คือคลับฟรายเดย์ ออนไม่ได้เลยนะ หนูออกอีเวนต์เลยนะ ตายแล้ว

จากนั้นหนุ่มขออภัยใบเฟิร์นและบอกว่า น้องเขาขอไว้ น้องพูดมาหมดแล้ว เอาเป็นว่าผมได้ยินคนเดียวก็แล้วกัน เรื่องนี้ขอไม่ออกอากาศ ขอเป็นความลับใบเฟิร์นกับผมเท่านั้น ถึงบอกว่าพอเป็นรายการแบบนี้ถามอะไรไม่ค่อยได้ แต่ละคนที่มานั่งในรายการวันกรรชัย พี่รู้หมดว่าต้องถามอะไร แต่ถามไม่ได้

ใบเฟิร์นพูดทันที “ก็ดีแล้ว พี่ก็พักบ้าง ไปขยี้ในรายการอื่น” จากนั้นหนุ่ม กรรชัย ย้ำกับทีมงานว่าตัดทิ้งให้หมด ห้ามออกอากาศ ไม่ได้เลยนะ ใบเฟิร์นย้ำว่าเละเลยล่ะ แต่หนุ่มแกล้งอีก บอกว่า “แต่เก็บไว้แบล็กเมล์ได้” ก่อนจะหัวเราะชอบใจ ใบเฟิร์นตาโต เหวอไปเลย.