อุ๊บ หนุน ลุงพล-ป้าแต๋น เต็มที่ ปัดปาดหน้า ไอซ์ สารวัตร ชิงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัว

อุ๊บ หนุน ลุง พล-ป้าแต๋น เต็มที่ ปัดปาดหน้า ไอซ์ สารวัตร ชิงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัว

อุ๊บ หนุน ลุง พล-ป้าแต๋น เต็มที่ / จากกรณีที่ ลุงพล นายไชย์พล วิภา คนดังแห่งบ้านกกกอด จ.มุกดาหาร ลุงของน้องชมพู่ ที่เสียชีวิตปริศนา และยังไม่สามารถจับคนร้าย หรือปิดคดีนี้ได้ จนมีงานหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย อุ๊บ วิริยะ นักปั้นดารามือทอง ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่เข้ามามีส่วนร่วมให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการรับงานของ ลุงพล – ป้าแต๋น

ล่าสุดได้มีโอกาสเจอ อุ๊บ วิริยะ ที่มาสอนลุงพล – ป้าแต๋น เดินแบบในงานการกุศลหนึ่ง ที่สถานีอมรินทร์ทีวี จึงได้สอบถามถึงเรื่องที่มีข่าวว่าปาดหน้า ไอซ์ สารวัตร เพื่อเป็นผู้จัดการส่วนตัว รวมถึงเรื่องหารทำงานของลุงพล ว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่

อุ๊บ เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษา

ลุงพล ป้าแต๋น มาซ้อมเดินแบบด้วย
“ใช่ เดินแบบวันที่ 6 ก.ย.นี้ โดยคุณชาไทย top model thailand 2017 ซ้อมเดินแบบให้ ป้าแต๋น ลุงพล เพื่อที่จะไปเดินแบบในงาน อุ๊บแฟชั่นโชว์ ฟอร์ด็อก แอนด์ แคท ครั้งที่4 ที่ตะวันนา พลาซ่า บางกะปิ จัดมา 4 ปีแล้ว เป็นงานการกุศลเพื่อช่วยหมาแมว และระลึกถึงพี่เตี้ยม.ช. ที่ถูกทารุณกรรม ครบรอบ 4 เดือน ก็จะมีแฟนคลับพี่เตี้ยมช. บินมาจากเชียงใหม่ร้อยกว่าคน และในงานนี้ก็จะมีแฟชั่นจากพวกศิลปินดัง เช่น สิตางค์ส้มหยุด น้องแจ๋วแว๋วขายพวงมาลัย น้องเนยบิ๊กไบท์ พี่อุ๊บวิริยะ ลุงพล ป้าแต๋น ป๋าแต๋นตกลงเดินด้วย ไหนๆก็มาแล้วไม่เสียเที่ยว ผัวเดิน เมียต้องเดิน ได้เงินแพ็กคู่กันเลย”

มีค่าตัวให้ใช่ไหมคะ
“มีแค่คนละหมื่นบาท สองคนก็สองหมื่นบาท งานการกุศลก็เทียบเท่าดารานะ สมัยก่อนอั้ม-พัชราภา เดิน เอ๊ะ-อิศริยา ก็เดินหนึ่งหมื่นบาท พวกงานเดินแบบจะได้ไม่เยอะ มันไม่เหมือนงานอีเวนต์”

ที่อยากให้ลุงพลกับป้าแต๋นเดินด้วยเพราะอะไร
“ก็ได้เงินสิคะ อย่างน้อยก็มาโปรโมตงาน หลังจากที่ได้คุย ไปกกกอกมาหลายครั้งแล้วก็รู้สึกประทับใจ ว่าเขาไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่ถูกกล่าวหานะ ไปดูได้สัมผัสพื้นที่ ตอนที่พี่ไป พี่ให้กำลังใจสองฝ่ายเลย ไปให้เงินทางฝ่ายโน้นด้วย ไปครั้งแรกทำบุญร้อยวันช่วยไปหนึ่งหมื่นบาท ครั้งที่สอง ครั้งต่อมาให้อีกห้าพัน กับลุงพลกับป้าแต๋นเราบอกว่าไม่ให้เงินนะ แต่ให้คุณทำงาน เพราะพี่มีงานให้ วันนี้ติดต่อมาเกือบสิบงานได้ ก็บอกลุงพล ได้ล้านหนึ่งเลยนะ เดือนนี้ถ้ารับจริงๆถ้าพี่สามารถหาเงินให้ลุงพลได้หนึ่งล้านเลยนะ ลุงพลจะได้ผ่อนค่ารถสี่แสน โป๊ะให้หมดเลย”

อีเวนต์แบบไหนที่ติดต่อมา
“อีเวนต์ก็จะมี โครงการถ่ายบ้านหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใส่สูทหรูเลยคะ มีคลินิคเกี่ยวกับฟัน มีคลินิคเกี่ยวกับผิวพรรณ มีริวิวสินค้า เยอะแยะไปหมด มีถ่ายเวดดิ้ง มีถ่ายเอ็มวี มีหนัง มีละคร ครบวงจรเลยครับ”

พี่อุ๊บ เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณางานให้ลุงพลใช่ไหม
“ยังไม่เรียกผู้จัดการ วันนี้จะมีการคุยกันนอกรอบ ก็หลายคนบอกว่า จริงๆน้องไอซ์ (สารวัตร) ก็ปฏิเสธเป็นผู้จัดการ พี่อุ๊บก็ยังไม่เต็มตัว แต่เป็นที่ปรึกษา ตอนนี้จะมีสามคน คือ หมอปลา มีพี่อุ๊บ มีน้องไอซ์ แต่หมอปลาก็กำลังยุยงให้พี่อุ๊บเป็นเต็มตัว เพราะด้วยศักยภาพ ดีกรี ผลงาน ประสบการณ์ที่โชกโชนมาสิบๆปี ซึ่งเราบอกว่าเราทำได้ เดี๋ยวต้องคุยกันอีกทีหนึ่ง คือ มันก็ยังเครียดหน่อย ตอนที่ข่าวออกมาว่า พี่อุ๊บจะมาปาดหน้าน้องไอซ์หรอ ก็โดนแฟนคลับน้องไอซ์รุมกระหน่ำด่าๆๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หมอปลาเองก็โดนไปแล้ว พี่เองก็ไม่อยากด่าตอบ สมัยก่อนก็จะด่า แต่เดี๋ยวนี้เฉยๆ ไว้ให้เขาดูผลงาน การกระทำดีกว่าว่าเราทำจริง โหนจริง ฉันพูดจริง ฉันลงพื้นที่จริง ทุกสิ่งทุกอย่างปีนี้ ฉันทำมาหมด ทำด้วยใจและก็ทำบุญ เพราะว่า ณ วันนี้มีเงินพอแล้ว พี่อยากช่วยเหลือสังคม คน และสัตว์”

ซ้อมเดินแบบ

ถามเรื่องลูกค้าเลือกลุงพลกับป้าแต๋นเพราะอะไร
“เพราะกระแสสิคะ ดัง กำลังเป็นคนดัง พูดตรงๆนะ พี่ทึ้งมาก พี่ไปเต่างอยมา ไปร่วมขึ้นเวทีกับจินตหรา กับ ลุงพลมา พี่ตกใจมาก ประชาชนเยอะ นาทีนี้ เทียบเท่ากับดาราตัวท็อปไปออกงานกันเลย ไม่ต้องใช้ดาราดังๆ เรียกว่าเทียบเท่า ณเดช ญาญ่า ได้เลย ตกใจมาก เราอยู่วงการนี้เป็นสิบๆปี ออกงานอีเวนต์เจออะไรมาเยอะแยะ เราเห็นแล้วเราประทับใจ คนๆหนึ่งถูกกล่าวหา แล้ว ณ วันนี้ มีคนสงสารมากมาย คนรักเขาขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งตรงนี้มาจากที่ลูกค้าเลือก เขา ก็ดูจากสื่อ ดูจากข่าว ดูจากภาพต่างๆที่ออกมา มันก็เลยกลายเป็น ทอค์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เกิดกระแส ซึ่งมันก็เลยเป็นการตลาดในตัว เขาก็กล้าที่จะใช้สองคนนี้มาเป็นพรีเซนเตอร์ มาทำงาน มารีวิว มันคุ้มตรงนี้”

ด้วยความที่คดียังไม่เสร็จสิ้น ลูกค้าไม่ได้คำนึงถึงตรงนี้ และไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบกับเขาหรือ
“ไม่นะ เพราะว่าลุงพลก็ยังไม่ได้เป็นผู้ร้าย เขาอาจจะถูกกล่าวหา ซึ่งคนในพื้นที่ก็โดนกันทุกคน แต่พี่ก็เชื่อนะ หลังจากที่ได้ลงไปสามสี่ครั้ง เราก็เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ หลายๆคนที่เข้ามาเกี่ยวพันธ์กับตรงนี้ เราได้ไปคุย ได้ไปสัมผัส เราก็เชื่อว่า คงไม่ใช่คนในหมู่บ้านนั่น ในความเชื่อของพี่นะ มันอาจเป็นเรื่องวิบากกรรม ได้คุยกับพระ ได้คุยหลายๆอย่างแล้ว พี่ก็เชื่อในสิ่งนั้นนะ แต่ก็ดูต่อไป”

หนักใจไหมหากในอนาคต เผื่อคดีพลิก
“เราก็เชื่อมั่นในสิ่งที่เราคิด เชื่อว่าเขาคงไม่ใช่ จากความคิดพี่คิดว่าคงไม่ใช่ เก้าสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เชื่อตรงนี้ ไม่เชื่อว่าลุงพลเป็นผู้ต้องหา ประมาณนั่น”

ส่วนตัวได้ลงไปที่นั่น ได้สัมผัสไหมว่าใครทำกันแน่ ในความรู้สึกตัวเอง
“ได้คุยกับอาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นพระอาจารย์บุญมา มันเป็นเรื่องของวิบากกรรม บางทีมันต้องเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ สิ่งเร้นลับ แต่อาจารย์ท่านไม่กล้าพูด เขาถูกกระทำ มันถึงเวลาของเขา โดยสิ่งที่เป็นวิญญาณชั่วร้ายประมาณนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าออกข่าว แต่พี่ก็เชื่อนะ มันเป็นไปได้นะ เพราะว่า บนภูเขาต่างๆนาๆมันก็มีเรามองไม่เห็น เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ พี่ก็เชื่อเป็นแบบนี้ ก็สงสารน้อง”

แล้วที่บอกว่า ไสยศาสตร์ถอดเสื้อผ้าไม่ได้
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตรงนี้ก็งงเหมือนกัน (หัวเราะ)”

มันมีฆาตกรจริงใช่ไหม
“มันมีนะ พี่เชื่อว่ามันมีนะ แต่ถ้ามีจริงๆมันก็คงเก่งมาก ที่มันสามารถทำให้ตำรวจจับไม่ได้ หรือถ้ามันมีจริง ป่านนี้มันคงไม่อยู่ประเทศไทยแล้ว มังคงไปตะเข็บชายแดนแล้ว พี่ก็เชื่อในมุมมองของพี่นะ เราก็คิดว่า เอ๊ะทางพ่อแม่เขามีศัตรูหรือเปล่า แล้วเข้ามาลอบกัด เขาทำเสร็จแล้วเขาก็ไปเลย เราคิดของเราอย่างนี้”

ป้าแต๋นซ้อมเดิน

ทำไมพี่ถึงออกตัวลุงพลมากกว่าฝั่งพ่อแม่
“ฮะ ก็ไม่ได้ออกนะ ทางฝั่งพ่อแม่พี่ก็ไปหา คือไปกกกอกทุกครั้ง พี่ก็จะไปร่วมให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย อย่างครั้งแรกไปร่วมทำบุญร้อยวัน ก็ให้หมื่นหนึ่ง ครั้งที่สองก็ไป เมื่อวันที่หนึ่งก็ให้อีกห้าพัน ก็บอกจะช่วยทุกครอบครัว ช่วยเท่าที่เราจะช่วยได้ แต่ครอบครัวลุงพลกับป้าแต๋นไม่ได้ให้เงินเลยนะ ให้งาน”

ทำไมครอบครัวลุงพลกับป้าแต๋นถึงเลือกที่จะช่วยเขาเรื่องงาน ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกับเขา
“อย่างที่บอก เราอยากไปอย่างมิตรภาพ ไปอย่างมีคนรัก เราให้กำลังใจสองฝ่าย และก็ไม่ใช่ลุงพลป้าแต๋น คุณแม่สาวิตรี หรือคุณพ่อ ที่วัด กับคนชาวบ้านหลายๆคน เราอยากจะไปทำอะไรที่ให้ประโยชน์กับเขา ไปร่วมทำบุญผ้าป่า กฐิน รับปากไว้แล้วเราจะต้องไปทำ ไปทำกับอาจารย์ มีงานอะไรก็บอกกัน มีเวลาว่างเราก็จะไป”

มีดรม่า กระแสใครดัง ก็เกาะกระแสตลอดเลย
“ฉันยอมรับว่าฉันเกาะจริง โหนจริง แต่ฉันไม่ใช่เมียทาซานนะ ฉันทำแล้วฉันก็พูดจริง ทุนส่วนตัวด้วย ซึ่งหลายๆคนที่ด่าฉัน ก็ทำไม่ได้อย่างฉัน ทำได้แค่เล็บตีนของฉันไหม ทำได้ฉันจะกราบตีนเลย เงินกู สร้อยกู ทองกู เกี่ยวไรด้วย นี่ของจริงนะ (หัวเราะ) ด่าๆกันเข้าไป ก็ไม่เข้าใจ ด่าแล้วไม่ทำอะไร มันต้องมาสัมผัส อย่างพี่เมื่อก่อนดูข่าว อย่างจ่าโคราช เราก็ด่า พอได้ไปสัมผัส เราก็ไปช่วยแม่เขา เฮ้ยไม่ใช่ เราต้องตัดสินจากต้นเหตุ ปลายเหตุ จ่าโคราชพี่ไปช่วยแม่เขา ได้สามล้าน ทำบุญร้อยวันก็ยังติดต่อกัน แม่มีชีวิตที่ดีขึ้น หมาเตี้ยมช. ก็ไปช่วย เตี้ยมช. ถูกทารุณกรรมโดยที่มีขบวนการ มันมีทีม มันแค่หมาตัวหนึ่ง แต่รู้ไหมหมาตัวนี้มันมีมูลค่าตั้งสิบห้าล้าน ที่บ้านกกกอกเราก็อยากจะไปสัมผัส ก็ช่วยทุกคน เพราะว่าวันนี้มีทุกอย่างแล้ว เราก็อยากช่วยสังคม คน และสัตว์ เราก็ทำต่อไป ใครด่าก็ไม่สนใจนะ (หัวเราะ)”

แล้วเรื่องส่วงแบ่งทางการเงิน แบ่งกันยังไง เรื่องหางาน
“ยังไม่หัก เดี๋ยวต่อไปค่อยว่ากัน งานเดินแบบที่ได้เสาร์นี้ ก็ไม่ได้หัก ไม่มีสัญญา”

แล้วงานมูลค่าล้านหนึ่งที่ได้มา หลังจากนั้นต้องหักไหม
“เดี๋ยวต้องมาคุยกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีค่าใช้จ่าย แต่พี่พูดตรงๆ ในการทำงานเราก็มีประสบการณ์จากดาราดังๆ ที่เคยดูแลว่าส่วนนี้ของพี่นะ เพราะว่าเวลาเราไป เท่ากับแพ็คคู่ คุณได้ฉันไปด้วย ได้ลุงพล ป้าแต๋นไปด้วย ได้ดาราดังๆที่ฉันจะดันไปด้วย มันก็คุ้มค่านะ เพราะเวลาพี่บวกราคา เราก็จะบวกของเราไปในตัว ซึ่งลูกค้าจะแฮปปี้ นี้ส่วนของเรานะ นี้ส่วนของดารานะ อะไรประมาณนี้ ซึ่งเราไม่ไปยุ่งอะไรกับของดารา ไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนของเรา ค่าตัวของเรา ซึ่งเราไป เราก็มีมูลค่า แพ็กคู่เราก็มีมูลค่า เราก็มีค่าตัว ไม่ใช่โนแนมด์ แต่งตัวกระโหลกกระลาไป”

แบ่งกับยังไง ระหว่างงานนี้ให้ไอซ์ดู งานนี้ให้พี่อุ๊บดู
“ก็ปรึกษา อย่างเมื่อวานติดต่อไอซ์มา ไอซ์ก็บอกค่าตัวไม่ได้ พี่ก็สรุปให้ลงตัว เมื่อวานมีงานหนึ่ง ได้ล้านบาทคะ ตอนนี้ช่วยกันดิว อย่างหนึ่งล้านบาทไม่มีส่วนแบ่ง ให้เขาเต็ม ส่วนวันนี้ก็ได้เต็ม เจ็ดหมื่นห้าพันบาท งานหมอปลา”

ใครดูแลเรื่องภาษีอะไรให้ลุงพล
“เดี๋ยวต้องมี เพราะว่าในสัญญา การรับเงิน มันต้องมีเรื่องภาษีอยู่แล้ว ตรงนี้ต้องให้เขาเก็บไว้ ภาษีเราต้องคุย ต้องทำตามกฎหมาย ไม่ได้เดี๋ยวงานเข้า เดี๋ยวซวย”

ตอนนี้ลุงพลเงินทองไหลมาเทมา
“พี่บอกไม่ได้ว่าเป็นการฉวยโอกาส แต่เป็นโอกาสที่ทุกคนหยิบยื่นให้ และโอกาสก็ไม่ได้มาง่ายๆ ถ้าไม่รับก็โง่ พูดตรงๆ เดี๋ยวมีคดีใหม่มาลุงพลก็จะเป็นหมาหัวเน่า คนก็จะลืม ถ้าไม่รับไว้ โง่ ควรจะรับไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเป็นผู้รับ แล้ว เราก็เป็นผู้ให้ด้วย ทำบุญเยอะๆ พี่ก็สอนเขาตลอดนะ พี่บอกเลยว่าอย่าทิ้งคนที่ร่วมสู้อยู่เคียงข้าง อย่าลืมคนที่ร่วมสร้างทางยิ่งใหญ่ อย่าละเลยคนมีน้ำใจ อย่าลืมเป็นผู้ให้เมื่อได้ดี สอนตลอด สอนทั้งผัวและเมียเลย ในฐานะที่เราเป็นผู้ใหญ่ เราอายุ 61 ปีแล้ว อีกเรื่องหนึ่งข่าวบอกว่าจะเอาลุงพลเป็นผัว โอ้โหไม่ใช่ ขอปฏิเสธ ดิฉันชอบเด็กวัยรุ่น ชายสูงวัยดิฉันไม่เอาหรอก”

งานที่ติดต่อมาตอนนี้รับไว้หมดไหม
“เดี๋ยวคุยอีกที งานตามผับ ตามเทคเดี๋ยวก่อน ที่มีโคโยตี้ โคโยตี้บอย รูดเสา จะให้เต้นคู่สิตางค์ ส้มหยุด ก็ปฏิเสธไปเแล้ว มันไม่สมควร น่าเกลียดมาก ก็บอกไปว่างานถุงยาง งานผ้าอนามัย อย่าเพิ่งไม่เอา”

ดิวงานให้ลุงพล และป้าแต๋น
“ใช้ ส่วนมากจะขายงานคู่ และแถมเด็กในสังกัดพี่อุ๊บไปอีก”

รีวิวสินค้าตัว 7 หมื่น จริงไหม
“จริงครับเย็นนี้ เจ็ดหมื่นห้าพัน สบายๆ”

ตอนนี้ใครจ้างก็ 7 หมื่นขึ้น
“ไม่ๆ แล้วแต่งาน เราคุยกันได้ อาจจะไม่ถึง งานหมูทอด สามหมื่น สี่หมื่น ก็มีเข้ามา ได้ของกินด้วย ก็โอเค ลงรูป 1 วัน อาทิตย์หนึ่ง ก็ได้แล้ว”

มูลค่าลุงพล ราคาขึ้นไวไปไหม สูงไปไหม
“เร็ว พูดตรงๆเลย อั้ม พัชราภา ครั้งแรกเดินแบบ หนึ่งพันบาท ดิฉันพาไปเอง นี่ลุงพลหมื่นนึง อาจจะด้วยกระแสฟีเวอร์ เห่อตามแระแสนะ ก็อย่างที่บอกต้องรีบโกยนะ ไม่โกยตอนนี้เดี๋ยวหมดก็ไม่มีใครแลแล้ว”

แนะนำเขายังไงข้าง
“เจอกันทุกครั้งจะสอนเรื่องการวางตัว รักลูกรักเมีย เพราะว่าเอ็มซีนมใหญ่ๆ ทั้งนั้น เดี๋ยวมีวอกแวก ก็ให้รักลูกเมียอย่าวอกแวกนะ วันใดเปลี่ยนแปลงหายนะจะลง ทัวร์ลงแน่ สอนเขาเสมอ ให้ยิ้มไว้ และให้เป็นลุงพลแบบเดิมตลอดไป คนจะรักลุงพล และลุงพลจะอยู่ได้นาน จากประสบการณ์พี่ คนเรามีขึ้นมีลง ขาขึ้นอย่าหลง เวลาลงจะเจ็บตัว”

เท่าที่เห็นเป็นยังไงบ้าง ชีวิตลุงพลตอนนี้
“เขาก็ดีขึ้น บ้านก็มีฝา ห้องน้ำก็ไม่มีรูพรุนๆแล้ว เมื่อก่อนต้องแยกกันนอน ตอนนี้คงนอนด้วยกันได้แล้ว”

ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงาน มีเงินใช้จากรีวิว
“ใช่ครับ เขามีหนี้ มีรถที่ต้องผ่อนสี่แสนกว่าบาท ที่ต้องชำระ ที่บอกว่าจะปิดรถให้ก็ยังไม่มี จะส่งรถสางอะไรมาให้ก็ยังไม่มี มีที่เล็กๆน้อยๆ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน พัดลม ประมาณนี้ ซึ่งแกก็นำไปทำบุญส่วนหนึ่ง”

ต่อจากนี้เรื่องค่าตัวพี่อุ๊บจะคุยยังไง
“เอาจริงๆ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนนะ ก็บอกให้แกช่วยทำบุญไป แล้วก็จดไว้เป็นเรื่องเป็นราว เก็บให้แกเอาตัวรอดให้ได้ ลูกต้องเรียน ต้องใช้เงินอีกเยอะลูกสองคน”

เป็นห่วงพี่อุ๊บด้วย ว่าเซฟตัวเองหรือเปล่า เรื่องดราม่ามาหากินกับเขาอีกแล้ว
“ฉันชินชากับ อีคำด่านี้แล้ว โดนมายังไงก็โดนอย่างนั้น ไม่ได้คิดอะไร เราก็ไม่ได้ขอใครกิน ก็ให้ผลงาน วันเวลาเป็นเครื่องตัดสิน พิสูจน์กันที่ผลงาน พี่เชื่อแบบนี้ พี่คิดว่าพี่จะไม่ทำสิ่งที่เลวร้าย เพราะเราอยู่ตรงนี้ นักข่าวรู้ดี เราเป็นคนของประชาชน อยู่วงการนี้ 41 ปีแล้วนะ”

แล้วจะมีการตกลงกันหลังจากวันนี้เรื่องการเป็นผู้จัดการส่วนตัว
“เดี๋ยวคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ก็เอาสัญญาใจชั่วคราวไปก่อน มันจะรีบเร่งไม่ได้ เร่งนัดไปก็ต้องรอสักพักหนึ่ง”

คิดยังไงกับคำว่าสัญญาใจ ที่มันไม่มีอยู่จริง
“จริง เจอกับตัวมาแล้ว โดนเทมาก็หลายคนแล้ว”

อัดรายการ

อ่านข่าว :

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4841985
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4841985