บันเทิง – ‘ไม้ ’ออกจากเซฟโซนช่อง3 เปิดโอกาสให้ตัวเองเจอสิ่งใหม่


ให้คะแนน


แชร์

‘ไม้ ’ออกจากเซฟโซนช่อง3เปิดโอกาสให้ตัวเองเจอสิ่งใหม่ – ตัดสินใจออกมาจากเซฟโซนที่อยู่ มานาน 9 ปี สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘ไม้’ วฤธ ศิริสันธนะ อดีตลูกหม้อช่อง 3

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ตัดสินใจผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ ไม่ต่อสัญญาช่อง 3 พร้อมกับอัพเดตผลงานแสดง รวมถึงเผยสถานะของหัวใจ

ตัดสินใจยากไหม กับการออกมาเป็นนักแสดงอิสระ?

ไม้ – “คิดอยู่นานครับ ช่อง 3 คือบ้าน คือความมั่นคง คือความปลอดภัย เรารู้ว่าผู้ใหญ่ให้ความเมตตาให้ความโด่งดัง แต่การที่เราออกมาข้างนอกก็เป็นการท้าทายตัวเราเองที่ได้เจออะไรใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ แล้วเราจะได้รู้ว่าเราทำได้แค่ไหน จริงๆ ทางผู้ใหญ่อยากให้ต่อสัญญา แต่ผมคิดว่าผมอยากลองออกมาจากเซฟโซน อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานใหม่ๆ อยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง ก็เข้าไปขอกับผู้ใหญ่ ก็ได้ความเมตตามา ผู้ใหญ่ให้โอกาส เราก็ได้ทำตามความตั้งใจครับ”

รวมระยะเวลากี่ปี กับช่อง 3?

ไม้ – “ถ้าตามสัญญาก็ 9 ปี เซ็นสัญญา 3 ครั้ง จริงๆ หมดสัญญาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้วครับ แต่ว่าไม่ได้ออกสื่อ”

พอออกมาก็เรียกว่าได้รับการตอบรับจากค่ายต่างๆ อย่างดี?

ไม้ – “ใช่ครับ ผมว่าเราได้เจอบรรยากาศใหม่ๆ ก็มีทางเลือกในการทำสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น ลองดูครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไงต่อไป”

ผลงานแสดงตอนนี้มีอะไรบ้าง?

ไม้ – “ก็จะมีให้ชมกันหลังจากนี้มี 3 เรื่อง เรื่องแรกที่เพิ่งปิดกล้องไป ภูตแม่น้ำโขง กับทางช่อง 3 น่าจะได้ชมกันปีหน้า เพราะต้องมีขั้นตอนเรื่องซีจีเยอะ แล้วก็มีคลับฟรายเดย์ it happen on Valentine’s Day และ สามีเงินผ่อน”

บทบาทใน “ภูตแม่น้ำโขง” เป็นอย่างไร?

ไม้ – “รับบท 2 ตัวละคร คาแร็กเตอร์ค่อนข้างต่างกัน เรื่องแบ่งเป็น 2 พาร์ต อดีตกับปัจจุบัน พาร์ตอดีตตัวละครชื่อ ขุนแสนเมือง เป็นแม่ทัพที่ไปหลงรักลูกเจ้าเมือง คนเก่า คือเจ้าแม่ทอหูก ที่รับบทโดย ยี่หวา ปรียากานต์ พาร์ตปัจจุบันเป็น หมออัคนี จิตแพทย์ที่ทำวิจัยเรื่องของคุณพ่อที่ทำทิ้งไว้เป็นเรื่องสิ่งลี้ลับ พาร์ตนี้จะคู่กับ บัวผัน ที่รับบทโดย อุ้ม อิษยา เรื่องนี้เรื่องราวจะเกี่ยวกับความรักข้ามภพข้ามชาติ ความรักที่มั่นคงของเจ้าแม่ทอหูกครับ”

“เวอร์ชั่นนี้จะเป็นในทางความรักที่มั่นคง เป็นไปทางแนวลึกลับต้องค้นหาคำตอบ มากกว่าเรื่องผีที่จะเป็นผีมากๆ หรือน่ากลัวมากๆถามว่าน่ากลัวไหม ก็ยังน่ากลัวอยู่ โดยเรื่องนี้จะจบต่างจากครั้งก่อนๆ เนื้อหาตามนิยายเพียงแต่ดัดแปลงนิดๆ เพื่อให้ทันสมัย เหมาะสมขึ้น”

แล้วเรื่อง “สามีเงินผ่อน” ล่ะ?

ไม้ – “ฟิตติ้งไปแล้ว กำลังจะเปิดกล้องเร็วๆ นี้ อยู่ขั้นตอนการ เตรียมงาน แต่ผมได้อ่านบทไประดับหนึ่งแล้ว เป็นละครรีเมกอีกเหมือนกัน แต่ทางพี่ฉอด (สายทิพย์) จะปรับให้ทันสมัยมากขึ้น ต้องรอดูครับ เพราะผมเองได้อ่านบทแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้เริ่มถ่าย เท่าที่อ่านบทคือทันสมัยเป็นปัจจุบันเลย ปรับเข้ากับยุคสมัยนี้แน่นอน แต่อย่างที่บอกคือเรื่องนี้รีเมกกันเยอะ ช่อง 3 ก็เคยทำแต่ทำในชื่อ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ผมเชื่อว่าแต่ละเวอร์ชั่นจะมีเสน่ห์ของตัวมันเองครับ”

เรื่องนี้ต้องประกบ ‘ขวัญ อุษามณี’?

ไม้ – “ครับ มีการเวิร์กช็อปกันแล้ว ได้ทำความรู้จักกัน แต่จริงๆ อีกเรื่องหนึ่งคือคลับฟรายเดย์ ผมก็ได้เจอพี่ขวัญ ก็จะคุ้นเคยกันครับ โดยเรื่อง สามีเงินผ่อน ผมรับบทเป็น คุณหมอศตวรรษ ครอบครัวเป็นหนี้มหาศาล ต้องชดใช้หนี้ด้วยการแต่งงานเพื่อให้แม่มีชีวิตสุขสบาย จะเป็นคนมองโลกแง่ดี เล่าคร่าวๆ ประมาณนี้ เพราะรายละเอียดต่างๆ ขออุบอีกนิด”

อีกเรื่อง คลับฟรายเดย์ ตอน it happen on Valentine’s Day?

ไม้ – “เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ ผมรับบท แทน ผู้ชายที่เจ็บปวดกับความรักมาเยอะ เพราะถูกผู้หญิงที่ตัวเองรักทิ้งไปหาผู้ชายอีกคนหนึ่งที่รวยกว่าเสมอ เขาเลยจะต้องมีความทะเยอทะยานว่าวันหนึ่งฉันจะต้องดีกว่านี้ เก่งกว่านี้ ร่ำรวยกว่านี้เพื่อจะได้ชนะใจใครสักคน ตัวละครนี้จะสีเทาๆ คลับฟรายเดย์จะเป็นที่รู้กันว่าตัวละครเขาจะเป็นมนุษย์จริง ไม่ได้ขาวสะอาด มีความอยากได้ใคร่ดี มีวิธีการทำตามความต้องการของเขาซึ่งไม่ได้ถูกต้องเสมอไป คิวถ่ายคาดว่าพฤศจิกายนนี้น่าจะเสร็จ”

ตอนนี้เรียกว่าเนื้อหอมมาก?

ไม้ – “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะดีมากครับ (หัวเราะ)”

ได้ร่วมงานกับคนใหม่ๆ กองใหม่ๆ เป็นยังไงบ้าง?

ไม้ – “คือกองละครก็ยังเป็นกองละคร แต่สิ่งที่สำคัญคือเราได้เจอผู้คนใหม่ๆ ทีมงานใหม่ๆ ได้เจอคนเยอะขึ้น ได้เห็นวิธีการทำงานที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย หรือมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ผมก็รอดูตัวเองเหมือนกันว่าหลังจากออกมาแล้วจะเป็นยังไงจะพาตัวเองไปจุดไหน แต่ก็พยายามให้ถึงที่สุดครับ ส่วนงานอื่นๆ มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าคิวว่างจะรับไปเรื่อยๆ”

พร้อมรับบทอื่นที่ไม่ใช่พระเอก?

ไม้ – “พร้อมรับครับ เพราะการเป็นนักแสดงเราสามารถเป็นได้ทุกตัวละคร ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นพระเอก ก็อยากได้บทที่ท้าทายเช่นกัน ความท้าทายก็ไม่ใช่ว่าบทจะขาวหรือดำ แต่อยู่ที่ความน่าสนใจของตัวละคร ว่าจะสร้างแรงบันดาลใจ สร้างแรงขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีได้แค่ไหนมากกว่า ไม่ใช่ตัวละครแค่สะท้อนสังคมนะ แต่เป็นการนำพาสังคมไปในทางที่ดี บทแบบนี้ท้าทายและสร้างสรรค์สังคมด้วยครับ”

ตลอดการแสดงที่ผ่านมา คิดว่าตัวเองมีข้อ ผิดพลาดอะไรไหม?

ไม้ – “ผมว่าน่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่แล้ว ในเรื่องการทำการบ้านไม่เพียงพอ ความผิดพลาดที่เราต้องเรียนรู้ มนุษย์ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ เรามีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขเสมอ ช้าเร็วก็ต้องแก้ไข พยายามแก้ไขสิ่งที่ทำผิดไป ให้ดีขึ้นในวันนี้ และเก็บเรื่องในอดีตให้เป็นบทเรียน”

เข้าวงการมาแรกๆ เห็นว่าเจอ คอมเมนต์ต่อว่าเรื่องการแสดงเยอะเลย?

ไม้ – “ครับ ก็จะแบบ ‘เป็นพระเอกได้ยังไงเล่นแข็งขนาดนี้’ ซึ่งคอมเมนต์พวกนี้มันมีความจริงอยู่ว่าเรายังทำดีไม่มากพอเราต้องพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านั้น หน้าที่เราคือนักแสดงต้องพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ เพื่อวันนึงเราจะลบคำ เหล่านี้ไปได้ ผมยอมรับทุกข้อติ พร้อมปรับเปลี่ยน”

เจอคอมเมนต์เยอะๆ เคยคิดถอดใจ คิดลาวงการบันเทิงไหม?

ไม้ – “เคยครับ มีอยู่ช่วงนึงที่รู้สึกว่าเราพยายามแล้ว พัฒนาการแสดงยังไงก็รู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดี ตัวเองเรารู้ว่ามันไม่ใช่ แล้ว คอมเมนต์จากผู้กำกับฯ จากคนดู เรารู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่มากพอ หรือว่ามันไม่ใช่ทางที่เราถนัด จะกลับไปทำอาชีพอื่นหรือหาทางอื่นกับชีวิตดูดีไหม คือตอนนั้นรู้สึกว่าการแสดงของเรามันไม่ได้จริงๆ เลยจะไปทำอย่างอื่น แต่โชคดีที่มีผู้จัดเรียกกลับมา และให้โอกาสเราอีกครั้ง ตอนนั้นก็กลับมาทบทวนตัวเองว่าเราต้องพัฒนาและปรับปรุงการแสดงยังไงอีก”

ต่อจากนี้วางแผนในเส้นทางบันเทิงอย่างไร?

ไม้ – “ไม่ได้คิดหวัง หรือมองไกลเท่าไหร่ แค่ทำสิ่งที่มีอยู่ปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนครับ ส่วนอุปสรรคก็คือประสบการณ์ของ เราเอง ที่ต้องสะสมไปเรื่อยๆ ให้มากพอต่อไป”

ที่ผ่านมาไม้ถือเป็นนักแสดงอีกคนที่ไม่มีข่าวด้านลบ เพราะการวางตัวที่ดี?

ไม้ – “จริงๆ ไม่ใช่เรื่องวางตัว แต่ไม่มีใครอยากมีเรื่องไม่ดี ผมก็ไม่ได้อยากทำเรื่องแย่ๆ หรือเรื่องเสียๆ หายๆ นะ ถ้าเรารู้ว่าเราทำผิดก็ต้องอย่าทำ ไม่ได้วางตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่เราไม่ได้อยากทำอะไรที่ไม่ดีนี่นา”

ก่อนมาเป็นนักแสดง เรียนด้านวิศวะมา?

ไม้ – “ใช่ครับ เป็นวิศวะไฟฟ้า สื่อสาร เป็นเรื่องเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต มือถือ เกี่ยวกับการสื่อสารทั้งหมด ผมกำลังจะจบพอดีก็ได้เข้าวงการบันเทิงมาก่อน ถ้าไม่ได้เข้าวงการบันเทิง ผมคงเป็นพนักงาน จริงๆ สมัยเรียนจะมีแมวมองมาตลอด แต่ผมขี้อาย ไม่ชอบคนเยอะ ก็เลยปฏิเสธ แต่พอตอนนั้นไปฝึกงาน อยู่กับคอมพิวเตอร์ นั่งโต๊ะทั้งวัน รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ชีวิตเรา ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสอะไรเข้ามาก็จะคว้าดู และในหัวก็มีแพลนว่าจะไปเรียนต่อ พอดีไปฝึกงานที่บริษัทนั้นแล้วมีพี่เขามาเห็นก็เอาไปประกวดหนุ่มคลีโอ ประกวด M THAILAND แล้วได้เป็นพระเอกครับ ก็ยาวต่อเนื่องถึงทุกวันนี้”

ที่บ้านว่ายังไงบ้างตอนนั้น?

ไม้ – “คุณแม่โอเค แต่คุณพ่อไม่ค่อย คุณพ่อทำงานราชการ มองว่างานประจำมั่นคงกว่า ณ ตอนนั้น แล้วเราจบวิศวะมาเกรดค่อนข้างดี ก็คิดว่าน่าจะทำทางนี้ได้ดี คุณพ่อรู้สึกเสียดายความรู้ที่เรียนมา แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดี ถ้าทำได้ดีก็ทำต่อไป สมมติว่าถ้างานตรงนี้มันหมด เราก็รู้นะว่างานวงการบันเทิงมีอายุสั้น ก็ค่อยหาทางต่ออย่างอื่นได้”

ไม่ค่อยแสดงออกด้านการเมือง แต่พอออกมาทีหนึ่งก็เป็น ที่ฮือฮา?

ไม้ – “ผมเองแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมาแต่ไหนแต่ไร นานมากแล้ว ผมเชื่อว่าการแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิ พื้นฐานของทุกคน เพราะเราจ่ายภาษีให้กับประเทศนี้ เรามีสิทธิ์ได้รับสิ่งที่ดีกลับมา ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะครับ แต่ส่วนมากค่อนข้างเห็นด้วย จริงๆ เราควรเลิกคิดว่า เรื่องการเมืองไม่ควรพูดได้แล้ว เพราะมันอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกลมหายใจที่เราใช้ชีวิตอยู่เลยนะ”

“วงการบันเทิงก็เกี่ยวกับการเมือง เพราะฉะนั้นควรยอมรับได้แล้วว่าควรแสดงความคิดเห็นได้ และควรยอมรับว่าเมื่อรู้ว่ามีอะไรไม่ดี จะได้แก้ไขและนำพาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น แต่ถ้าราเลือกที่จะปิดไม่พูดถึงมัน หรือปฏิเสธหรือต่อต้าน เราก็จะอยู่ที่เดิม ที่เดิมๆ ที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือแย่ลง แต่ผมเชื่อว่าเราต้องพูดต้องแสดงออกได้”

โควิด-19 ระบาดที่ผ่านมากระทบอย่างไรบ้าง?

ไม้ – “ทุกคนกระทบหมด อย่างผมก็เรื่องงาน หยุดถ่ายละคร ช่วงที่หายไปมันคือรายได้ ก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เพียงแต่ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว ตั้งแต่โควิดรอบแรก ก็รู้ว่าจะรับมือ ยังไง แต่ดารานักแสดงกระทบน้อยกว่าคนทั่วไป เพราะรายได้เราค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น”

ขอถามเรื่องความรักหน่อย หัวใจตอนนี้เป็นยังไง?

ไม้ – “ผมก็มีคนคุยๆ อยู่บ้าง ที่สบายใจอยู่ แต่ยังไม่ได้เป็นแฟน เรียกว่ายังไม่มีแฟน ผมพอที่จะผ่านอะไรมาเยอะ สเป๊กที่เคยตั้งไว้ ตาอย่างนี้ หุ่นแบบนี้ ชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ พอถึงเวลามันไม่ใช่เลย ผมไม่ได้มีสเป๊กแล้ว คืออยู่กับใครมีความสุขก็คนนั้น ตอนนี้ผมไม่มีแฟนนะ แต่อยู่ในฐานะเพื่อนสนิทครับ ถึงเวลาจะบอกทุกคนครับ”

พลเทพ สารภิรมย์

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6679699
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6679699