ภรรยา-ลูกสาวร่ำไห้เปิดใจ! เผยสาเหตุ ‘อ๊อด คีรีบูน’ ไม่บอกอาการป่วยให้ใครรู้


ให้คะแนน


แชร์

ภรรยา-ลูกสาวร่ำไห้เปิดใจ! เผยสาเหตุ ‘อ๊อด คีรีบูน’ ไม่บอกอาการป่วยให้ใครรู้ มีแฟนเพลงเยอะ คนรักพี่อ๊อดเยอะ ไม่อยากให้ใครห่วง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 17 ต.ค. ที่วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร สถานที่บำเพ็ญกุศศสวดอภิธรรมศพ นายรณชัย ถมยาปริวัฒน์ หรือ อ๊อด คีรีบูน นักร้องชื่อดัง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำศพ น้องเอิ๊ก ชมนวรรณ ลูกสาว และคุณเอ้ก ปภัสสรา ถมยาปริวัฒน์ ภรรยา เปิดใจถึงการสูญเสียในครั้งนี้ว่า

ได้ยินว่าพี่อ๊อดไม่ยอมให้บอกใครเลยว่าป่วย?
ภรรยา “ใช่ค่ะ จริงๆ พี่อ๊อดป่วยมาตั้งแต่ปี 59 แล้ว แต่ว่าพี่อ๊อดเข้มแข็งมากยังทำงานปกติเลย”

เหตุผลที่ไม่ยอมให้บอกใคร?
ภรรยา “พี่อ๊อดมีแฟนเพลงเยอะ คนรักพี่อ๊อดเยอะไม่อยากให้ใครห่วง”

ใจสู้มากในการต่อสู้กับโรคต่างๆ?
ภรรยา “ใช่ เพราะว่าพี่อ๊อดคิดเสมอว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร เขาคิดเสมอว่าเขาต้องหาย”

กำลังใจเป็นยังไงบ้าง?
ภรรยา “คนป่วยเขากำลังใจดี เราก็กำลังใจดีตามเขา”

เห็นว่าช่วงต้นปีดีขึ้นแล้ว มาทรุดช่วงไหน?
ภรรยา “คือจริงๆ พี่อ๊อดเป็นมาตั้งแต่ปี 59 เริ่มมาจากมะเร็งปอด แต่ว่าอาการก็คงที่ โรคไม่ได้ลุกลามไปไหน จนมาปลายปีที่แล้วโรคมาที่สมอง พี่อ๊อดผ่าสมองไป 2 ครั้ง พอมาเดือนเมษาปีนี้ พี่อ๊อดก็เริ่มจะทรุดลง โรคเริ่มลุกลามมากขึ้น เริ่มทรุดมากๆ เลยคือเดือนมิถุนายน”

ไปอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่?
ภรรยา “เข้าๆ ออกๆ ค่ะ เข้า 10 วัน ออกมา 20 วัน ตั้งแต่เดือนมิถุนา”

มีอะไรที่พี่อ๊อดเป็นห่วงไหม?
ภรรยา “ก็น่าจะห่วงบริษัท เพราะว่าพี่อ๊อดทำโรงเรียนดนตรี ช่วงนี้ติดโควิดด้วย พี่อ๊อดก็ห่วงคุณครู ตอนนี้ก็เลยให้ลูกสาวมาทำแพลตฟอร์มออนไลน์”

ทราบความดีของพี่อ๊อด?
ภรรยา “เขาดีที่สุดแล้ว พี่อ๊อดเกิดมาเพื่อให้ มีแต่เป็นห่วงทุกคน ไม่ห่วงตัวเขาเองเลย”

คุณพ่อได้สั่งเสียอะไรไว้ไหม?
ลูกสาว “จริงๆ เหมือนคุณพ่อเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทรุดลงหรือจะไป ทุกครั้งที่เข้าออกโรงพยาบาลคุณพ่อก็จะมีหวังตลอดว่าเดี๋ยวจะหาย จะลุกขึ้นมาวิ่ง กลับไปเตะบอล (สะอื้น) ก็เลยไม่ได้พูดถึงการสั่งเสียในลักษณะนั้นไว้ แต่ว่าหนูเองก็จะบอกกับคุณพ่อตลอดด้วยความที่รู้ระยะโรคของคุณพ่อ ก็จะไม่อยากให้คุณพ่อห่วง บอกว่าไม่ต้องห่วงนะคุณพ่อปล่อยเลย อะไรที่ปล่อยได้ปล่อยแล้วเดี๋ยวลูก ครอบครัวทุกคนก็จะมาช่วยดูแลในสิ่งที่คุณพ่อห่วงเอง”

ภาพจำที่มีต่อคุณพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง?
ลูกสาว “คุณพ่อเป็นเหมือนไอดอลของหนู (สะอื้น) ไม่ใช่แค่เป็นคุณพ่อแต่ว่าเป็นคนที่หนูอยากเอาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต ในการทำทุกๆ อย่างให้เหมือนเขา อยากแคร์คนอื่น อยากรักคนอื่น อยากสร้างความสุขอย่างที่คุณพ่อเคยทำ”

มีคำสอนหรือแนวทางอะไรที่คุณพ่อสอนเราไว้?
ลูกสาว “ถ้าพูดจริงๆ คือคุณพ่อจะพูดตลอดเลยว่าให้หนูทำในสิ่งที่หนูรัก ให้หนูทำในสิ่งที่หนูมีความสุข แล้วใช้สิ่งที่เรารักไปสร้างความสุขให้คนอื่น แบบนั้นเราก็จะมีความสุขไปด้วย เราก็จะมอบความสุขให้คนอื่นได้ด้วย สิ่งที่หนูจำมาตลอด แล้วก็พยายามทำแบบที่คุณพ่อทำ”

รักดนตรีจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต?
ลูกสาว “ใช่ค่ะ”

ภรรยา “ก่อนที่พี่อ๊อดจะเสียประมาณ 3 วัน ก่อนเข้าโรงพยาบาลรอบนี้ คือพี่อ๊อดมีอาการสับสนทางสมอง พี่อ๊อดร้องออกมาเป็นเพลงเหมือนกำลังขึ้นคอนเสิร์ตอยู่ แต่ว่าร้องออกมาเป็นภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง แต่เรารู้ว่าเขาร้องเพลงอยู่ มีโบกไม้โบกมือให้แฟนเพลง คือมันยังอยู่ในใจเขาอยู่ แล้วเขาชอบมอบความสุขให้กับคนค่ะ”

จริงๆ มีแพลนที่จะมีคอนเสิร์ตไหม?
ภรรยา “จริงๆ พี่อ๊อดก็มีคอนเสิร์ตตลอดอยู่แล้วค่ะ มันก็เลยเป็นอะไรที่อยู่ในใจเขาว่าเขาต้องขึ้นคอนเสิร์ต”

วันนี้สูญเสียหัวหน้าครอบครัวไป จะดูแลกันกับลูกยังไงบ้าง?
ภรรยา “คือคุณพ่อเขาก็ฝากลูกไว้ ก็คิดว่าลูกน่าจะทำในสิ่งที่คุณพ่อทำเอาไว้ คือคุณพ่อทำโรงเรียนดนตรีมา 20 กว่าปี ตอนคุณพ่อป่วยหนักลูกก็เข้ามาช่วยคุณพ่อดู คุณพ่อเห็นในสิ่งที่ลูกทำก็ค่อนข้างสบายใจค่ะกับผลงานที่ลูกทำออกมา จากที่เขาเป็นคนที่ไม่อยากทำเลย แต่พอคุณพ่อป่วยเขาสามารถทำได้ดีค่ะ คุณพ่อก็เลยสบายใจ”

มีได้พูดอะไรก่อนจากไปไหม?
ภรรยา “อย่างที่ลูกบอกว่าเขาไม่เคยเตรียมตัวว่าจะไป เพราะพี่อ๊อดสู่เสมอ เขาคิดตลอดว่าจะหาย จะกลับไปทำงาน”

แฟนๆ ช็อกกับการจากไปครั้งนี้?
ภรรยา “ใช่ พี่อ๊อดไม่ได้บอกใครเลยนอกจากที่ใกล้ชิดจริงๆ แม้กระทั่งพี่อ๊อดนอนป่วยอยู่มีคนโทรมาปลายสายจะไม่รู้เลยว่าพี่อ๊อดนอนป่วยอยู่ เพราะจะคุยปกติมาก”

ตอนที่พี่อ๊อดบอกไม่ให้บอกใคร รู้สึกยังไง?
ภรรยา “คือจริงๆ ก็ไม่เคยโกหกใครนะ เวลาใครถามก็จะบอกช่วงนี้โควิดพี่อ๊อดทำงานออนไลน์อยู่ เราก็จะเลี่ยงตอบ เพราะสิ่งที่พี่อ๊อดไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรารู้เจตนาเขา เราก็เลี่ยงคำตอบเอา”

ลูกสาว “จริงๆ เราเอาคุณพ่อเป็นหลักที่พูดอะไรสั่งอะไรไว้ หนูจะเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ หนูค่อนข้างจะเข้าใจความรู้สึกของคุณพ่อเวลาที่ต้องทำงานไปด้วย อย่างเวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็ป่วยแล้ว แต่ความรู้สึกเขาคืออยากขึ้นไปมอบความสุขให้คนหนูก็จะเคารพตรงนั้น สิ่งที่คุณพ่ออยากทำ สิ่งที่ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6681639
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6681639