ซีรีส์ อุ่นไอในใจเธอ Put Your Head On My Shoulder เป็นซีรีส์ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมอย่างท่วมท้นทั้งในจีนและในประเทศไทยเมื่อปี 2019 รวมถึงการแจ้งเกิดของคู่พระนาง หลินอี และ ซิงเฟย ที่ตกแฟนคลับชาวไทยจนเกิดฐานแฟนคลับเหนียวแน่นมากมายขึ้นในประเทศไทย

ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ที่ทำให้คนไทยกลับมานิยมดูซีรีส์จีนอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของการเลือกซีรีส์เรื่องนี้มาทำเป็นรีเมกเวอร์ชันไทย ได้คว้าตัวนักแสดงระดับไอดอลอย่าง นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ และ ไข่มุก นิลาวัลย์ เอี่ยมเชื้อสวัสดิ์ มาประกบคู่กันเป็นครั้งแรก เรียกความฟินและเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามให้กับแฟนซีรีส์อย่างมาก 

สำหรับ ไข่มุก นิลาวัลย์ เอี่ยมเชื้อสวัสดิ์ อดีตไอดอลเจ้าของฉายา “พระแม่สูงสุด” เธอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง Cm Cafe ก่อนจะลาออกจากวง เพื่อตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ นั่นคือการแสดง 

เจ้าตัวได้เปิดใจกับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ถึงการได้รับโอกาสเข้ามาเล่นซีรีส์รีเมกเรื่องนี้ กับบทของ พระพาย สาวโก๊ะช่างฝัน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เป็นงานแสดงครั้งแรก เพราะที่ผ่านมา เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกวงไอดอลดัง ยังไม่เคยรับงานแสดง และครั้งนี้เป็นครั้งแรก ท้าทายฝีมือมากๆ พยายามทำการบ้านอย่างหนักเลยทีเดียว

“ซีรีส์เรื่อง อุ่นไอในใจเธอ Put Your Head On My Shoulder เป็นการแสดงเรื่องแรกของ ไข่มุก เลยค่ะ และเป็นซีรีส์รีเมกด้วยค่ะ มันค่อนข้างที่จะตื่นเต้น อีกทั้งยังได้แสดงกับนักแสดงมืออาชีพที่มีผลงานดังๆ มาอยู่แล้ว แอบกดดันตัวเองเล็กๆ แต่ว่าก็พยายามทำอย่างเต็มที่ค่ะ”

“การเข้ามาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ของ มุก คือมีพี่แคสติ้งเขาติดต่อมา และเขาส่งบทมาให้ดู ว่าบทเป็นแบบนี้ เราสนใจมาลองแคสต์มั้ย หนูก็ลองเลยค่ะ เราอยากหาโอกาสให้ตัวเองดู ก็ได้ไปแคสต์ จากนั้นประมาณ 3-4 วัน เขาก็โทรมาคอนเฟิร์มว่าเราได้บท พระพาย ค่ะ”

“ดีใจมาก หนูดีใจมากๆ มันเป็นผลงานเรื่องแรกของเราจริงๆ ในเวอร์ชันจีนก่อนหน้านี้ไม่ได้ดูค่ะ แต่ว่าหนูมาดูหลังจากที่ได้รับบทนี้ ก็มาดูว่า ตัวละครเขาเป็นยังไง เนื้อเรื่องเขาเป็นยังไง ประมาณไหน แต่ว่าไม่ได้ดูจนจบเรื่องค่ะ

จริงๆ เขาก็ไม่อยากให้เราติดภาพลักษณ์ของนางเอกทางจีนมาก เขาก็อยากให้เราปรับให้เข้ากับตัวบทของเราด้วยค่ะ เพราะของเราก็เขียนบทใหม่ เอาตัวละครตรงนั้นมาเปรียบเทียบ ดัดแปลงในบทของเราให้มันกลมกล่อมมากขึ้นค่ะ ไม่ต้องไปเหมือนกับของเขามากค่ะ”

“ถามว่า กดดันมั้ย กดดันค่ะ คือด้วยความที่มันเป็นเรื่องแรกด้วย เราก็กังวลว่าเราจะทำออกมาได้ดีมั้ย ถูกใจรึเปล่า ก็อย่างที่บอกหนูพยายามทำเต็มที่จริงๆ พยายามทำการบ้าน พยายามเวิร์กช็อปกับผู้กำกับ ว่าเราควรทำแบบไหน ให้มันออกมายังไง เต็มที่จริงๆ อยากให้เป็นกำลังใจให้นะคะ”

“จริงๆ ยังไม่เคยเล่นละครหรือซีรีส์มาเลยค่ะ อันนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการแสดงค่ะ ส่วนบรรยากาศการทำงานในกองถ่ายสนุกค่ะ พี่ๆ เขาน่ารัก ทั้งทีมงานเอย นักแสดงเอย ใดๆ คือน่ารักมาก มันทำให้บรรยากาศการทำงานในกองมันสนุก ไม่ตึงเครียดค่ะ 

ถามว่าชอบฉากไหนมากที่สุด ตัวหนูชอบฉากงานลอยกระทงค่ะ เพราะว่าฉากวันนั้นมันสวยจริงๆ ค่ะ เขาเล่นใหญ่มาก อลังการมาก แล้วก็มีแฟนคลับของ พี่นิว ฐิติภูมิ และยังมีแฟนคลับของ ชิม่อน วชิรวิชญ์ และ จีจี้ ชณันภัสร์ มาร่วมด้วยค่ะ แถมยังเป็นวัฒนธรรมไทยด้วยค่ะ หนูรู้สึกว่ามันเป็นซีนที่สวยมาก อยากให้ทุกคนได้ดูซีนนี้ค่ะ”

“ในเรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนมั้ย มีบ้างค่ะ (ยิ้ม) แรกๆ ยอมรับว่าเขินมาก เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกที่เราได้เล่นเลิฟซีนด้วย ได้เล่นกับนักแสดงมืออาชีพด้วย มันเขินและกดดันค่ะ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกผ่อนคลาย รีแลกซ์ สบายมากขึ้น”

“ในกอง พี่นิว (นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ) เป็นคนตลกค่ะ แบบว่าพูดได้ไปเรื่อยเลยอยู่ในกองไม่ค่อยเหงา ไม่รู้สึกเซ็งๆ เหงาๆ ตัวหนูเองถ้าไม่ค่อยสนิท หนูจะไม่ค่อยกล้าพูด หนูจะแบบขี้เกรงใจ พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้าสนิทแล้ว หนูจะพูดไปเรื่อยเหมือนกัน แต่ก็อาจจะไม่เก่งเท่าพี่นิว (หัวเราะ)”

“ถ้าถามหนู จริงๆ หนูชอบการแสดงนะ หนูว่าการแสดงมันท้าทายค่ะ มันได้แสดงอารมณ์ต่างๆ ออกมา หนูรู้สึกมันดูเป็นหนูมากกว่า ส่วนการร้องเพลงหนูก็ชอบนะคะ แต่ว่ามันเป็นโอกาสมากกว่า ตอนนั้นเราได้รับโอกาสเข้าไปอยู่ในวงไอดอลน่ะค่ะ ถามว่าสนุกมั้ย มันก็สนุกค่ะ แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันคงอาจจะยังไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงขนาดนั้นค่ะ”

“อืม ถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำด้านการแสดงเต็มตัว แต่ก็อาจจะไม่ได้ละทิ้งความเป็นศิลปินไปเลยซะทีเดียว หนูอาจจะมีอัลบั้มเดี่ยวหรือใดๆ เลยออกมาในอนาคตค่ะ”

“แฟนๆ ตื่นเต้นมากค่ะ ก่อนหน้านี้หนูจะมีผลงานทางด้านศิลปินใช่มั้ยคะ แต่หนูก็ยังไม่เคยเห็นถ้าหนูได้มาเล่นซีรีส์จริงๆ จะเป็นยังไง แล้วหนูได้รับโอกาสเล่นเป็นบทนางเอกด้วย เขาก็ตื่นเต้นกันมากๆ และเขาก็ติดตามซีรีส์เรื่องนี้เวอร์ชันจีนอยู่แล้วด้วย เลยทำให้เหมือนว่าเขาตื่นเต้นที่จะดูเรื่องนี้มากๆ เลยค่ะ”

“ฝากเป็นกำลังใจ ติดตาม ซีรีส์เรื่อง อุ่นไอในใจเธอ Put Your Head On My Shoulder ด้วยนะคะ ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจเล่นเรื่องนี้และทำเรื่องนี้กันมากๆ จริงๆ อยากให้เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ”

“คือจริงๆ ตอนแรกหนูเริ่มจากเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ เพราะตอนนั้นบ้านมุกอาจจะลำบากนิดนึง ก็เลยช่วยเขาทำ เราก็อยากจะหาเลี้ยงตัวเองไปด้วยค่ะ เขาอยากให้เราหาค่าเทอมเองนะ เราก็โอเคได้ ไม่เป็นไร เราก็ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอมเอง ค่าขนมเองค่ะ

แล้วมีพี่แคสติ้งหรือแมวมองไปเห็นเราในที่นั้น ก็เลยติดต่อมาให้เราไปแคสต์โฆษณาดู เริ่มจากเป็นสายโฆษณาแล้วขยับมาเล่น MV ก็เลยเป็นที่รู้จักมากขึ้น และทางวงไอดอลเขาก็เห็นผลงานเรา และสนใจ ติดต่อให้เราไปลองออดิชันดูและติด

เราก็ได้เซ็นเป็นศิลปินอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง และทางแคสติ้งของซีรีส์เรื่องนี้ ก็ได้เห็นหนูจากการเป็นศิลปินไอดอล และได้ติดต่อให้มาแคสติ้ง จากนั้นก็ได้รับโอกาสในบทของ พระพาย ค่ะ”

“ก่อนหน้านั้นหนูเป็นสมาชิกของวงไอดอล Cm Cafe ของค่าย Cm Cafe ค่ะ อยู่ในวงนั้นประมาณเกือบ 2 ปีค่ะ ตอนนี้หนูออกจากวงมาเรียบร้อยแล้วค่ะ อยากมาทำการแสดงเต็มตัว และหนูวางแผนไว้ว่า ในอนาคตอยากทำเพลง คือตอนนี้ก็แอบซุ่มทำเพลงอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา น่าจะประมาณช่วงปลายๆ ปีค่ะ เป็นซิงเกิลเดี่ยวค่ะ”

“หนูได้ประสบการณ์การทำงานกับวงไอดอลมาหลายอย่างเลย อย่างแรกคือ มันทำให้หนูกล้าแสดงออกมากขึ้น เพราะว่าก่อนหน้านี้หนูไม่เคยได้มีโอกาสแสดงสด เล่นสดให้คนได้ดู แต่พอเราอยู่ในวงนี้ มันจำเป็นที่จะต้องเล่นสดหรือว่าแสดงสด เราต้องแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ ก็เลยได้รับประสบการณ์ทางนี้ค่ะ เรากล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วก็มีไหวพริบมากขึ้นค่ะ”

“มุกทำงานในวงการบันเทิงมาประมาณ 5 ปีแล้วค่ะ ตอนเด็กๆ หนูไม่กล้าฝันเลยว่าจะเข้ามาทำงานในวงการนี้ คือตอนเด็กหนูเป็นเด็กอ้วนฉุ ตัวดำๆ นิดนึง แม่ก็จะเรียก ไอ้อ้วนๆ เขาก็จะบอกว่า พี่สาวหนูต้องได้เป็นดาราแน่ๆ แต่เราไม่เคยฝันเลยว่าจะได้มาอยู่ตรงนี้ พอเราได้รับโอกาสตรงนี้ รู้สึกว่าชีวิตเราเปลี่ยนไปหมดเลยทุกอย่าง เปลี่ยนมุมมองไปหมดเลยค่ะ”

“ในวันที่มีแมวมองเข้ามาหาเรา เขาบอกให้เราไปแคสต์ ก็ไปลองแคสต์ดูค่ะ หนูเรียนศิลปศาสตร์ อังกฤษสื่อสารมาค่ะ อาจจะไม่เกี่ยวกับด้านการแสดงเลยด้วยซ้ำค่ะ เพราะหนูไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นศิลปินหรือนักแสดงเลย”

“อืม นิยามตัวเองเหรอคะ (หัวเราะ) หนูเป็นคนค่อนข้างง่ายๆ นะคะ แล้วก็ขี้เกรงใจ ถามว่าสดใสมั้ย ก็ในบางโอกาสค่ะ เป็นคนชอบเอาตัวเองไปอยู่ในที่สนุกค่ะ ชอบพูดคุย สนุกสนานค่ะ”

“ถามว่าการเป็นคนดังมีชื่อเสียงเปลี่ยนชีวิตมุกยังไง ถ้าถามมุกตอนนี้ มุกยังไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดังอะไรมากขนาดนั้น แต่ถ้าถามว่าตั้งแต่วันแรก วันที่มุกทำงานพาร์ทไทม์มาจนวันนี้ มุกรู้สึกว่า มันก็เปลี่ยนนะคะ มันเปลี่ยนมุมมองตัวเอง

เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการทำงาน หรือเราต้องรักษาภาพลักษณ์ วางตัวให้ดีขึ้น เพราะเรามาอยู่ในจุดนี้ มันเหมือนกับว่าเราอาจจะมีคนรู้จักมากขึ้น ไม่ว่าจะทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ เราก็อยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขา ไม่อยากทำอะไรที่แบบดูไม่ดีออกไปค่ะ”

“แม่ภูมิใจมาก (ยิ้ม) เขาภูมิใจมากที่หนูได้เล่นซีรีส์เรื่องแรกค่ะ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหนูจะได้รับโอกาสนี้ เขาดีใจมากๆ เลยค่ะ พี่สาวหนูก็ดีใจมากๆ ค่ะ 

มุกเป็นลูกคนที่สองค่ะ มีพี่สาวและน้องชาย ที่บ้านเขาจะเลี้ยงมาแบบว่า แม่ให้หนูเลือกชีวิตเองเลยค่ะ แม่ไม่ค่อยเคร่งค่ะ ก็คือหนูอยากจะทำอะไร แค่บอกแม่ แม่เขาก็จะให้ลองผิดลองถูกดูด้วยตัวเอง เราจะได้รู้ จะได้เจ็บด้วยตัวเองค่ะ เขาจะไม่มาบังคับว่าอันนี้ได้หรือไม่ได้”

“เอาจริงๆ หนูเองก็ไม่รู้ว่าเขาภูมิใจในตัวหนูมากน้อยขนาดไหน แต่ในความคิดหนู หนูก็คิดว่าเขาภูมิใจในตัวหนูนะ ที่ทำสำเร็จในขั้นหนึ่งของชีวิตได้ค่ะ ส่วนในอนาคต มุก ก็คงอยากจะเป็นนักแสดงไปแบบนี้ค่ะ อาจจะได้รับการแสดงที่มากขึ้นค่ะ”

“มุกต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ นะคะที่ติดตามมุกมาตลอด ตั้งแต่แรกที่มุกยังไม่เป็นที่รู้จักเลยด้วยซ้ำ จนมาอยู่กันถึงทุกวันนี้ ขอบคุณมากจริงๆ ถ้าไม่มีทุกคน ก็อาจจะไม่มีแรงผลักดันมาให้มุกมาถึงทุกวันนี้ ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้กันต่อไปนะคะ สำหรับเรื่องต่อไปก็จะมีซีรีส์ที่เป็นแนวระทึกขวัญนิดนึงค่ะ”. 

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Varanya Phae-araya