ปราง กัญญ์ณรัณ เผยนิยายรักภาค 2 กับ โต้ง ทูพี ชีวิตนี้เลือกมีแฟนคนเดียว


ให้คะแนน


แชร์

3 ต.ค.ที่ผ่านมา วันเกิดโต้ง ทูพี ให้ของขวัญวันเกิดกี่ชิ้น?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ให้ 10 ชิ้น เพราะฉลองครบรอบ 10 ปี คือเป็นของเล็กๆ น้อยๆ เราอยากเซอร์ไพรส์เขา เพราะตอนวันเกิดปรางเขาก็เซอร์ไพรส์โดยการเอากระเป๋าชาแนลใส่ในกล่องรองเท้าไนกี้มาให้ เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรให้เขาบ้าง แต่เขามาบอกเราว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา ปีนี้อยากให้เก็บตังค์ไว้ เราก็เลยรู้สึกว่าต้องเซอร์ไพรส์หน่อย ก็มีกล้องฟิล์ม มีแผ่นเสียง มีแก้วไวน์ มีไวน์ มีหนังสือสุพรีม มีสร้อยทอง มีเกมที่ออกกำลังกาย และชิ้นที่สิบคือตัวเองผูกโบ คือเราพยายามหาของขวัญให้ครบ 10 ชิ้น แต่มันไม่ครบจริงๆ ก็เลยเอาตัวเองผูกโบไป ชิ้นสุดท้ายเขาก็ตกใจ เขาเขิน ก็น่ารักดี

คุณโต้งชอบให้ปรางแต่งตัวเซ็กซี่ไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ปรางว่าเขาน่าจะชอบ คือถ้าออกมาดูแล้วสวยงาม ไม่ได้ดูน่าเกลียด หรือไม่เหมาะสมกับสถานที่ แต่วันนั้นมันไม่มีใครเลย มีแค่เรา 2 คน ถามว่าเขาขี้หึงไหม ก็ขี้หึง แต่ถ้ามีใครมองเขาเราปล่อยเลย เพราะหนูเป็นคนไม่ขี้หึงเลย และไม่อยากไปยุ่งกับการทำงานเขาสักเท่าไร เพราะในเอ็มวีเขาต้องถ่ายกับสาวเซ็กซี่ เราก็ไม่เคยไปคอมเมนต์หรือไปติงว่าไม่ดีนะ ไม่เคยว่าเลย เราเข้าใจว่ามันคืองานของเขา

เคยเซอร์ไพรส์กันไปมาแล้วโป๊ะบ้างไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ไม่เคยเลย คือมันเหมือนความสุข เซอร์ไพรส์อย่างไรก็ไม่เคยจับได้ มันคือความเฟรช มันทำให้รู้สึกว่าเหมือนยังจีบกันใหม่ๆ เสมอ

เห็นว่าช่วงโควิดไม่ค่อยได้เจอกัน ตอนนี้เจอกันมากขึ้นไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ไม่เจอเลย เพราะอย่างตอนโควิด ปรางก็จะอยู่กับที่บ้าน อยู่กับครอบครัว ตอนที่ระบาดหนักๆ ปรางกลัวมากก็เลยไม่ออกไปไหนเลย ส่วนเขาแม้จะไม่มีไปเล่นคอนเสิร์ต แต่ก็มีไปอัดเพลง ไปทำงานที่สามารถที่ทำได้อยู่ ก็เลยกลัว ซึ่งเขาก็เข้าใจ แต่พอมีชุดตรวจโควิด เขาก็ตรวจก่อนมาเจอเรา

คบกันมา 10 ปี เขาเคยมานอนบ้านเราไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ไม่มีเลยค่ะ มาบ้านยังมาน้อยมาก เพราะที่บ้านปรางค่อนข้างซีเรียสเรื่องอะไรแบบนี้ คุณแม่หัวโบราณมาก

ที่เรียกว่าเป็นนิยายรักภาค 2 เพราะทั้งคู่เคยเลิกกันมาแล้ว อยากทราบว่าครั้งแรกที่คบกัน กับครั้งที่ 2 ที่คบกันต่างกันมากไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ต่างกันเลย เพราะตอนแรกที่คบกันเรายังเรียนมหา’ลัยกันทั้งคู่ ยังเด็กมาก ความรักที่มีให้กันก็มี แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมาก ก็พยายามปรับจูนกันมาเรื่อยๆ แล้วปรางก็ยังมีความฝัน อยากซื้อบ้านให้ครอบครัว อยากพาครอบครัวไปต่างประเทศ เพราะครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยมาก เราก็เลยคิดว่าถ้าเรายังต้องมาให้เวลามานั่งปรับจูนกับแฟนอยู่ มันก็จะไปไหนไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจเลิกกันไป

ตอนเลิกกันนั้นโต้งเป็นแร็ปเปอร์หรือยัง?
ปราง กัญญ์ณรัณ : เป็นแล้วค่ะ ตอนที่เขาออกซิงเกิลแรกตอนนั้นเพิ่งคบกันเลย ที่ปรางตัดสินใจเลิกเพราะไลฟ์สไตล์เราต่างกันมากๆ ยอมรับว่าเสียใจกันทั้งคู่ เขาอาจจะช็อกด้วย ทำให้ตอนนั้นทำเราไม่คุยกันเลย 2 ปี เพราะเราก็ใช้ชีวิตกันมาเรื่อยๆ พยายามปรับกันมา ถามว่ารักกันไหม รักกันมาก และที่ผ่านมาไม่เคยบอกเลิกกันมาก่อน เขาก็มียื้อบ้าง คือพยายามหาเหตุผลให้กลับมา แต่เราตัดสินใจแล้ว ปรางว่าเขาก็คงมีความไม่เข้าใจว่าทำไมปรางถึงตัดสินใจแบบนี้ด้วย ส่วนปรางเองก็รู้สึกอยากมั่นคงในความรู้สึก ทำให้เราไม่คุยกัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทะเลาะกันเลยแม้นิดเดียว ไม่มีเรื่องมือที่ 3 หรือไม่ชอบอะไร ไม่มีเลย หลังจากเลิกปรางก็โฟกัสแต่เรื่องทำงานและครอบครัว ไม่ได้ใส่ใจใคร

ที่ไม่มีใครใหม่เพราะลึกๆ คิดว่าจะได้กลับไปคบกันใหม่หรือเปล่า?
ปราง กัญญ์ณรัณ : เชื่อไหมว่าไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย คิดแค่ว่าวันหนึ่งอยากกลับมาเป็นเพื่อนที่ดี เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่รู้จักเราดีมากๆ เป็นแฟนคนแรกด้วย

ไม้ได้คุยกัน 2 ปี แล้วมาเจอกันได้อย่างไร?
ปราง กัญญ์ณรัณ : อันนี้เริ่มจากปรางเอง เพราะเรารู้สึกว่า 2 ปีแล้วไม่ได้คุยกันเลยมันตลกมาก และเราก็ไปเจอคนหลายคนมากที่ เขาเคยเป็นแฟนกัน แล้วเป็นเบสเฟรนด์กันได้ ก็เลยรู้สึกว่าอยากเป็นเบสเฟรนด์บ้าง ก็มีวันหนึ่งเราก็เดินผ่านกัน โดยไม่ได้ทักกัน เราก็รู้สึกแย่ว่าทำไมต้องขนาดนี้ คนเป็นแฟนกันเดินผ่านกันมันต้องไม่ทักขนาดนี้เลยเหรอ ก็เลยทักไปว่าเมื่อกี้ไม่ได้ทัก ซอรี่ด้วยนะ เขาก็ขอโทษเราที่ไม่ได้ทัก ก็เลยคุยกันว่า ว่างๆ มากินข้าวกันไหม ก็จากข้าวมื้อนึงก็กลายเป็นสองมื้อ เป็นสามมื้อ

ตอนที่ได้กินข้าวกันมื้อแรกมันทำให้เราได้คุยกันทุกเรื่อง ที่เคยไม่เข้าใจ ปรางถึงได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ไม่คุยกับปรางเลย ปรางก็มีคำถามใจค่อนข้างเยอะว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น หลังจากนั้นก็คุบกันมาเรื่อยๆ มีไปกินข้าว มีไปออกเดต เหมือนจีบกันใหม่ ซึ่งเราก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ก็มีข่าวอยู่บ้างว่าไปโน่นไปนี่ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเซย์เยส คือเรายังกลัวว่าเราจะเข้ากันไม่ได้เหมือนเดิม และเราก็เป็นห่วงพ่อแม่ด้วย

แล้วโต้งทำอย่างไรให้เราเปลี่ยนความรู้สึก?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ปรางไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร อย่างปัญหาที่ปรางเคยมี มันไม่เจอปัญหาอะไรเลย เรียกว่ากลับมาคบกัน มันดีกว่าเดิม คือเขาเป็นคนที่โรแมนติกมาก ทุกๆ อย่างที่เขาเคยทำให้เราเมื่อ 10 ปีก่อน ทุกวันนี้ก็ยังทำเหมือนเดิม อย่างคุยกันก่อนนอน มีกู๊ดไนต์ บอกรัก บอกคิดถึง

กลับมาคบกันคราวนี้แล้วมีคำสัญญาให้กันไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยมีกฎเกณฑ์อะไรเลย แต่เขาจะรู้ว่าปรางชอบอะไรไม่ชอบอะไร ปรางว่าเขารู้อยู่แล้วตั้งแต่คบกันรอบแรก เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขาทำไม่ได้

แล้วปรางไม่ชอบอะไร?
ปราง กัญญ์ณรัณ : เป็นเรื่องของเวลา อย่างเมื่อก่อนปรางว่ามันมีเวลาที่สามารถเจอกันได้ เราทำงาน เขาทำงาน เราก็เข้าใจว่าเขาเหนื่อย แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่งาน แล้วเขาก็ยอมรับว่าเขาติดเพื่อน มันเลยมีปัญหา จริงๆ ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย กลับมาคราวนี้เขาก็จัดสรรเวลาได้เองโดยที่เราไม่ต้อกะเกณฑ์ต้องมาเจอกัน โทรหา ต้องรายงาน ต้องอะไร คือเขาทำเองหมดเลยโดยที่เราไม่ต้องขอ ปรางถึงบอกว่าเขารู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก ปรางเข้าใจเขานะ และปรางรู้ด้วยว่าเขาไม่ควรเอาทั้งหมดของเขามาอยู่กับเรา

แล้วเมื่อก่อนเขาอารมณ์ร้อนไหม ทะเลาะกันบ่อยไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : จริงๆ เขาเป็นคนที่มีอารมณ์เป็นศิลปิน เวลาน่ารักน่ารักมาก เวลาหวานก็หวานมาก แต่เวลาที่เขาคิดมาก ขี้งอน เขามีหมดเลย เป็นผู้ชายที่มีทุกอารมณ์ ที่มันดีขึ้นอาจจะเป็นเพราะเราโตขึ้น คราวนี้กลับมาคุยก็สบายๆ

มีกฎว่าถ้าทะเลาะกันต้องง้อกันภายในครึ่งชั่วโมง?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ใช่ คือโต้งเขาจะเป็นคนที่อารมณ์เสียค่อนข้างง่าย เวลานั้นเขาก็จะพูดไม่ค่อยดีแล้วก็จะวางสายไป แต่ปรางจะพูดทุกครั้งว่าให้เวลาครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวก็มาละ อาจจะเป็นสติกเกอร์ หรืออะไรก็ตาม คือเขาจะรู้ว่าเขาทำผิด แล้วเขาจะเป็นคนที่ขอโทษเร็วมาก เขาเป็นอย่างนี้มาตลอด มันก็เลยกลายเป็นว่าทุกครั้งที่ทะเลาะกันปรางไม่เครียดเลย เพราะปรางรู้ว่าเดี๋ยวก็ดีกัน

โต้งเคยบอกไหมว่าอะไรถึงทำให้อยากกลับมาคบกับเรา?
ปราง กัญญ์ณรัณ : คือวันที่ไปกินข้าวกันวันแรก อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า รู้ไหมตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาคิดถึงทุกวันเลย ไม่ใช่ว่าปรางเชื่อคำพูดเขานะ แต่ปรางสัมผัสได้ว่าเขายังรักเราอยู่จริงๆ ตอนนั้นเราก็ตกใจนิดหนึ่ง

โมเมนต์หวานที่โต้งทำให้คืออะไร?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ไม่รู้เหมือนกัน คือทุกวันเขาก็น่ารักของเขาอยู่แล้ว เขาไม่ค่อยจัดเซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ แต่ก็มีเล็กๆ น้อยๆ มาตลอด

ชื่อที่เรียกกันคืออะไร?
ปราง กัญญ์ณรัณ : คือเวลาอยู่ข้างนอกก็เรียกที่รัก เวลาอยู่กัน 2 คน มันบอกไม่ได้จริงๆ

โต้งดูแลเราอย่างไรถึงบอกว่าดีมาก?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ถ้าให้ปรางตอบ คือความสม่ำเสมอ คือแรกๆ เราก็คิดว่ามันต้องเป็นโปรโมชันแน่ๆ แต่ผ่านมา 10 ปีเขาก็ยังเหมือนเดิม คือเขายังใส่ใจ เขาไม่เคยลืมเรา เขาจะหาเวลาให้เรา มาเจอเราเสมอ

เคยมีแพลนจะแต่งงาน?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ไม่ขนาดนั้น แค่เคยคุยว่าเดี๋ยวอีก 2 ปีจะแต่ง พอเจอโควิดก็บอกว่าอีก 2 ปีแล้วกัน (หัวเราะ) คือตอนนั้นโต้งถามว่าอยากแต่งตอนไหน เราก็บอกว่าอีก 2 ปีไหม เมื่อ 2 ปีที่แล้วเขาก็บอกว่าก็ดีนะ ถามว่าตอนนี้พร้อมหรือยัง ยังค่ะ ล่าสุดที่เพิ่งคุยกันไป คือเขาก็อยากได้เวลา เพราะหายไปช่วงโควิด 2 ปี เขายังมีโปรเจกต์อีกเยอะเลย และปรางก็ยังเอนจอยกับการทำงาน ปรางยังอยากอยู่กับครอบครัว อยากไปเที่ยวกับที่บ้าน คือถ้าเราแต่งงานแล้ว ปรางก็ต้องไปดูแลเขา ไปใช้เวลากับเขาให้มากกว่านี้

คิดจะมีลูกไหม?
ปราง กัญญ์ณรัณ : 50 : 50 คือโต้งรักเด็กมาก ปรางก็ชอบเด็ก แต่เราก็เผื่อไว้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้แต่งเมื่อไหร่ ก็ต้องดูว่าตอนนั้นอายุเยอะไปหรือเปล่า หรือพร้อมหรือเปล่า ก็ต้องดูอีกที คือเขาก็บอกปรางว่าเขาไม่ซีเรียส อย่างไรก็ได้

(โฟนอิน)
อยากจะบอกอะไรปรางหลังจากคบมา 10 ปี?
โต้ง ทูพี : ก็อยากขอบคุณนะที่ทนมาได้ตั้งนาน (ยิ้ม)
ปราง กัญญ์ณรัณ : ก็ขอบคุณที่เข้าใจเหมือนกัน คือปรางอาจจมีอะไรหลายๆ อย่างที่เขาไม่เข้าใจ แต่เขาก็พยายามปรับ

โต้งเรียกปรางว่าอะไร?
โต้ง ทูพี : เรียกว่า ปราง (หัวเราะ) ส่วนเรื่องแต่งงาน ช่วงนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์ รอเก็บเงิน เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานอะไรเลย และต้องจ่ายค่าบ้านด้วย ก็ขอเวลาหน่อย

ของขวัญวันเกิดที่ผ่านมา ของขวัญวันเกิดชิ้นที่ 10 ถูกใจขนาดไหน?
โต้ง ทูพี : ก็ตกใจว่าเขาก็คิดได้เนอะ ก็เซอร์ไพรส์

คิดว่าปรางน่ารักตรงไหน?
โต้ง ทูพี : น่าจะเป็นความธรรมชาติ เขามีความแมนๆ อยู่ในตัวเขา เป็นเพื่อนกันได้

คบกันมา 10 ปี บอกรักปรางให้ฟังหน่อย?
โต้ง ทูพี : บอกรักอยู่ทุกวันอยู่แล้วครับ

ปรางบอกรักโต้งหน่อย?
ปราง กัญญ์ณรัณ : (ทำท่าไอเลิฟยู ) ร๊าก….ก

คุณแม่หวงมาก กว่าโต้งจะผ่านด่านได้ทำอย่างไร?
ปราง กัญญ์ณรัณ : คือรู้จักกันมา 10 ปี โต้งเพิ่งจะมีโอกาสได้กินข้าวกับที่บ้านปรางเมื่อปีที่แล้ว คือแม่ปรางจะมีกฎเยอะมาก และแม่ปรางจะเลี้ยงลูกให้เรียบร้อยสุด อย่างกฎเรื่องแฟน ห้ามพาแฟนเข้าบ้าน ห้ามขับรถมาส่งที่บ้านด้วย เวลาที่ปรางไปออกเดตกับโต้งตอนเด็กๆ เราก็นั่งบีทีเอส โต้งมาส่งที่สถานีแล้วแม่มารับ โต้งไม่มีสิทธิ์ไปส่งที่บ้านเลย แม่บอกว่าถ้าจะพามาบ้านต้องให้มั่นใจว่าคนนี้เราจะแต่งงานด้วย ต้องแต่งงานเท่านั้นถึงจะพามาได้

ตอนนี้คุณแม่ก็โอเคแล้ว และโต้งก็รับรู้มาตลอด ซึ่งปรางว่ามันก็คือความโชคดี เพราะพอเขาอยู่ในลุคที่พร้อมแล้วจริงๆ มีวุฒิภาวะ พอไปมันก็จบ เขาก็จะไม่รู้สึกไม่ดี ไม่กดดัน เขาก็จะสบายๆ คือกับแม่เขาเพิ่งเจอเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนพ่อ โต้งจะบอกเสมอว่า พ่อยูใจดีกว่าแม่ (หัวเราะ) คือพ่อปรางจะเป็นคนตลกๆ มากกว่าแม่ โต้งเลยคิดว่าเข้าทางนี้อาจจะง่ายกว่า แต่สุดท้ายก็ต้องผ่านแม่อยู่ดี

เห็นว่าปรางเป็นสายมูเตลูด้วย?
ปราง กัญญ์ณรัณ : ต้องบอกก่อนว่าเราตามคนอื่น คือเหมือเราจะไม่เชื่อนะ แต่เราก็ทำตามเขาไปด้วย ส่วนเรื่องเปลี่ยนบัตรประชาชนนั้น คือวันนั้นพี่หน่องพาหมอดูมาออฟฟิศ แล้วเขาก็ชวนให้เราไปดู เราก็ไปเพราะว่าพอดี เขาก็บอกว่าขอดูบัตรประชาชนหน่อย แล้วเขาก็บอกว่าต้องเปลี่ยนนะ เราก็งงว่าต้องเปลี่ยนอะไร เขาบอกว่าให้ไปถ่ายรูปใหม่ ใส่เสื้อสีชมพูบานเย็นเท่านั้น และทำอย่างไรก็ได้ให้ในรูปมีแพะอยู่

ทำไมชีวิตนี้ถึงเลือกจะมีแฟนเพียงคนเดียว?
ปราง กัญญ์ณรัณ : จริงๆ ก็เป็นความตั้งใจ คือถ้ามันเป็นรักแรกแล้วมันดี เราก็อยากให้เป็นความรักครั้งเดียวในชีวิต ไม่เคยคิดที่จะมีแฟนหลายๆ คน ปรางรู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีที่เรามีความรักให้กับคนคนหนึ่ง แล้วเขาน่าจะภูมิใจที่เขาเป็นแฟนคนเดียวของเรา.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2232580
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2232580