แซมมี่ เคาวเวลล์ ตัวตน 30 ปี มั่นใจ ‘ฉันสวย’ แต่งโป๊ไม่ได้แปลว่าอ่อย


ให้คะแนน


แชร์

“ไม่ใช่การตลาดแน่ๆ และก็ไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้ว่าจะต้องเป็นยังไง มันเป็นของมันเอง เราไม่ได้คาดหวังว่าเราโตมาจะเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ คือมันเป็นมาเอง ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน สมมติเราจะออกงาน เราจะเลือกชุดที่ดีที่สุด ที่มั่นใจที่สุด แต่มันดันออกมาเป็นเซ็กซี่ตลอดเลย” 

เชื่อหรือยังว่าการคุยกันหลังจากนี้มันเข้มข้นขนาดไหน!

“หนูว่ามันเป็นความคิดที่จะเชย ที่มองว่าผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่จะมาอ่อยผู้ชาย คนสมัยนี้เรารักตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น แล้วทำไมล่ะ ฉันดูแลตัวเองดีขนาดนี้ ฉันต้องใช้เสื้อปิด (ทำท่าปิดขึ้นคอ) เหรอ สำหรับตัวหนูนะ การไปทะเลต้องใส่เสื้อแขนยาวเพื่อลงทะเลเหรอ มันก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ

ฉันรักร่างกายฉัน ฉันอยากจะโชว์ ฉันมีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าฉันจะโชว์ หรือฉันจะปิด มันคือร่างกายฉัน ฉันจะปิดฉันก็ปิด ฉันอยากเปิด ฉันก็เปิด แต่คำว่าเปิดในที่นี้ต้องรู้จักกาลเทศะ สถานที่ด้วย

และเธอก็เล่าว่า การแต่งตัวเซ็กซี่ก็เป็นดาบสองคม แม้จะมั่นใจว่าฉันสวยและรักตัวเอง แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องระวังตัวไปอีกนาน เมื่อหลายปีก่อนแซมมี่ไปออกงานที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง แล้วเจอผู้ชายคนหนึ่งมาสัมผัสที่บั้นท้าย ซึ่งในวันนั้นไม่สามารถจับตัวคนทำได้ ถามว่าแค้นไหม เธอสูดหายใจลึกมากก่อนตอบว่า “ทำบุญค่ะ”

ฝันอยากเป็นกระเป๋ารถเมล์

“เด็กๆ มีสองความฝันค่ะ เป็นนางแบบแน่นอนอยู่แล้ว และอีกฝันอยากเป็นกระเป๋ารถเมล์ เพราะแม่พาขึ้นรถเมล์ตั้งแต่เด็ก เห็นแบบนี้ทุกวันเลยรู้สึกว่าอยากทำอะ อยากเป็น สกิลการทรงตัวดีมาก (ยิ้ม) โตขึ้นก็พยายามไปหาซื้อกระบอกตั๋วรถเมล์ก็หาไม่ได้ สรุปแฟนคลับส่งมาให้ ถือว่า Complete มาก (ปรบมือยิ้ม)”

จากคำพูดข้างบนทำให้เรารู้ว่าแซมมี่ไม่ได้เกิดในครอบครัวที่สบายมากนัก แต่ก็ได้รับความอบอุ่นจากคุณแม่ และคุณแม่เลี้ยงดูมาอย่างตามใจ แม้คุณพ่อของแซมมี่จะเป็นชาวอังกฤษ แต่หัวใจก็มีความเป็นไทยอยู่มาก หลังจากนั้นแซมมี่ก็เริ่มเล่าถึงช่วงเวลาที่คุณพ่อจากไป เธอต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาล พร้อมกับถ่ายละครไปด้วย แต่แซมมี่ก็ต้องยืนหยัดให้ได้ เพราะเธอคือเสาหลักของครอบครัว ถ้าล้มแล้วแม่กับพี่สาวจะอยู่กันอย่างไร 

“แล้วงานก็ต้องทำ ถ้าเราไม่ทำ กองละครก็ต้องมารอเรา มันก็เลยต้องเข้มแข็ง เราไม่อยากอ่อนแอ และหนูก็ไม่ค่อยร้องไห้ให้ที่บ้านเห็น แต่หลังจากคุณพ่อจากไป ก็เข้าไปในห้องเขา แล้วก็ร้องไห้บนเตียงคุณพ่อ บอกท่านอยู่ตลอดว่าไม่ต้องห่วง หนูโตแล้ว หนูดูแลครอบครัวได้ ไม่ต้องห่วง ถ้าเจอแสง พ่อไปเลยนะ พ่อไม่ต้องห่วง

พอเขาเสีย เราก็ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ได้ขึ้นบิลบอร์ดตามสถานีรถไฟฟ้า พ่อไม่ได้เห็น เพราะเขาชอบขึ้นรถไฟฟ้า

ถ้าเขายังอยู่ เขาก็คงยืนถ่ายรูปหนูบนรถไฟฟ้า”

ชีวิตแซมมี่
นักแสดงอิสระ

ปัจจุบันแซมมี่ไม่ใช่นักแสดงสังกัดช่อง 7 อีกแล้ว ซึ่งแซมมี่ยอมรับว่าการจากกันเป็นไปด้วยดี และยังยินดีที่ได้ทำงานร่วมกันอีกในอนาคต 

“หนูคิดว่ามันถึงจุดที่แตะเพดาน เราเลยอยากกระโจนไปในอะไรใหม่ๆ ไปเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การแสดงมันมีอะไรให้เรียนรู้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราก็เลยอยากเรียนรู้มากขึ้น”

และตอนนี้ชีวิตนักแสดงอิสระก็ได้เลือกอีกบทบาทใหม่ในชีวิต กับภาพยนตร์เรื่อง ‘Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด’ เธอบอกเรื่องย่อว่า เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวช่วงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 โลกไม่มีกฎหมาย ไม่มีตำรวจ ไม่มีรัฐบาล ใครอยากจะฆ่าใครให้ตายก็ไม่มีใครสนใจ ซึ่งแซมมี่รับบทเป็น ‘เฟีย’ ผู้มีอุปนิสัยรักความถูกต้อง อยากจะแก้ไขสังคมนี้ให้มีความยุติธรรม ซึ่งจะไม่ได้เห็นแซมมี่ในลุคเซ็กซี่ขยี้ใจแบบนี้แน่นอน เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ 

บอกกับช่อง

“หนูไม่อยากแสดง”

“หนูเล่นละครมา 14 ปี แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเล่นละครได้ดี เวลาเปิดกล้องเรื่องใหม่จะตื่นเต้นมาก ฉันจะทำออกมาได้ดีไหม มันจะเป็นอย่างไร ถึงขนาดเคยบอกกับช่องว่า ‘หนูไม่อยากเล่นละครค่ะ’ ก็ไม่รู้ไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน อยากแค่เดินแบบ รู้สึกว่าไม่ใช่เรา ทำไมต้องมาทำอะไรต่อหน้ากล้อง ต่อหน้าคนเยอะๆ ต่อต้านเลย แต่ช่องผลักดันให้เราเล่นให้ได้”

แต่พอเริ่มแสดงได้ มีเสียงตอบรับดีขึ้น ก็เริ่มมั่นใจขึ้น กลายเป็นชอบการแสดง จนทุกวันนี้แซมมี่ยอมรับว่า รู้สึกรักมัน คล้ายเหมือนถูกมันดึงดูดเข้าไป เธอบอกว่าข้อดีของการเป็นนักแสดง คือ ทำให้ได้เป็นคนนั้นคนนี้คนโน้น ได้วิเคราะห์ตัวละคร ได้ออกแบบตัวละคร มันสนุก และการกระโจนไปเป็นตัวละครนั้น แซมมี่ยิ้มก่อนพูดดังๆ ว่า “โหมันแม่งโคตรสนุกเลย แล้วถ้าเราทำได้เต็มที่ พอเราลงไปเต็มตัว มันฟินมาก การที่เราร้องไห้จนหายใจไม่ออก มันรู้สึกดี (แววตาประกายแห่งความสุข)”

เราเลยให้อดีตนางเอกช่อง 7 คนนี้ให้คะแนนตัวเองกับอาชีพนักแสดง แซมมี่คิดสักพักก่อนเอ่ยปากว่า ให้สัก 7 คะแนน เพื่อเป็นรางวัลผลักดันตัวเองต่อ ส่วนอีก 3 คะแนนที่เหลือ เพื่อไม่ให้มั่นใจในตัวเองเกินไป จนลืมว่าชีวิตต้องโฟกัสที่อะไรเป็นสำคัญ เพราะเธอเองก็เคยมีช่วงหลงระเริง ไม่ใช่หลงระเริงว่าตัวเองแสดงละครเก่ง แต่มั่นใจว่าตัวเองสวย

“ฉันสวย มั่นใจในความสวยของตัวเอง (กอดอก) ก็มีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆ ไม่ได้มีจังหวะที่ขาดความรัก หรือคนมาจีบเลย จนคิดว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะมันเคยมีตลอดเวลา พอเลิกก็มีต่อเลย ไม่มีจังหวะให้ได้อยู่กับตัวเองคนเดียวเพื่อตั้งสติเลย”

พอเราถามถึงจำนวนหนุ่มที่มาจีบ บอกแล้วว่านางเอกคนนี้ไม่ได้เขินอาย กล้าตอบชัดถ้อยชัดคำ 

“ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ในจำนวนนี้ก็มีพระเอกด้วยค่ะ (ยิ้ม)”

ผู้เขียน : Bouquet Talk 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/2237569
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/2237569