ธิดาวานร ละครเย็นที่ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งของช่อง 7 ที่ต้องบอกเลยว่าแม้จะถูกนำมาทำใหม่อีกครั้งเรตติ้งและความนิยมก็ยังถล่มทลาย อีกทั้งยังแจ้งเกิดให้กับนางเอกของเรื่องได้เสมอ 

และในเวอร์ชัน 2021 ละครเรื่องนี้ก็ได้แจ้งเกิดให้กับนางเอกน้องใหม่อย่าง ปิ่น ชรินพร เงินเจริญ สาวน้อยหน้าใสเจ้าของตำแหน่ง มิสทีนไทยแลนด์ 2019 ไปได้อย่างสวยงาม 

เพราะในวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เมงกาเลีย เอ๊ย ปิ่น ชรินพร เราเลยจะพาไปทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งต้องบอกเลยว่า ประวัติของเธอคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ 

สำหรับ ปิ่น ชรินพร นั้นนอกจากจะเป็นนางเอกที่อายุน้อยแล้ว ต้องบอกเลยว่าเธอเป็นคนที่เรียนดีมากๆ คนหนึ่ง มีเกรดเฉลี่ยถึง 3.8

ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี เรียนสายภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และมีความฝันอยากเข้าเรียนต่อด้านมนุษยศาสตร์

และนอกจากนี้ ปิ่น ชรินพร ได้เรียนทางด้านศิลป์จีน เพราะว่าชื่นชอบการดูซีรีส์จีน อีกทั้งเธอยังมองว่าการได้ภาษาหลายๆ ภาษาจะช่วยเปิดโอกาสในชีวิตให้มากขึ้น และนอกจากนั้นปิ่นยังมีความสามารถในการรำไทยอีกด้วย

ปิ่น ชรินพร ถือเป็นเด็กกิจกรรมอีกคน ซึ่งมีความโดดเด่นไม่แพ้ใคร เพราะปิ่นเคยเป็นตัวแทนของกระทรวงวัฒนธรรมไปเผยแพร่นาฏศิลป์ไทยที่ประเทศอินเดีย, เดนมาร์ก, จีน และอีกหลายประเทศมาแล้ว เรียกว่าทั้งสวย ทั้งเก่งครบเครื่องจริงๆ 

ส่วนตัวตนจริงๆ ของสาวน้อยคนนี้เธอนั้นเป็นคนเฟรนด์ลี่ พูดเก่ง หรือเรียกว่าพูดมากเลยก็ว่าได้ และยังมีนิสัยซนๆ ลุยๆ อีกด้วย

ต้องบอกว่าตอนนี้ ปิ่น ชรินพร ได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวแล้ว งานนี้เราเลยถามความรู้สึกของสาวน้อยคนสวยว่ารู้สึกอย่างไรกับอาชีพนักแสดง หลังจากได้มาทำงานด้วยอย่างเต็มตัว

“รู้สึกเขินนะ เขินมาก มันจั๊กจี้นะ จากนักเรียนมาเป็นนักแสดง การได้มาเล่นละครเรื่องแรกมันคือ เขินจริง ๆ นะ ยิงพอละครออกอากาศการได้เห็นตัวเองในโทรทัศน์ ตอนนี้ก็ยังเขินอยู่ค่ะ (ยิ้ม)”

หลังจากที่ได้ตำแหน่ง มิสทีนไทยแลนด์ 2019 มาครอง ปิ่น ชรินพร ก็มีผลงานละครและเป็นนางเอกน้องใหม่ของช่อง 7 งานนี้เราจึงถามถึงการเล่นละครเรื่องนี้แรกของเธอ งานนี้นางเอกสาวน้อยใหม่ตอบด้วยรอยยิ้มสดใสมากๆ ว่า  

“เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะเป็นละครเรื่องแรกของปิ่น เราไม่รู้อะไรเลยทั้งการแสดง การเตรียมตัว ก็คือใหม่ไปหมดทุกอย่าง ปิ่นกังวลมาก ละครเรื่องนี้ปิ่นตั้งใจมากๆ พี่ๆ นักแสดงทุกคนก็ตั้งใจมากเหมือนปิ่นเช่นกัน

เพราะทุกคนอยากให้ละครเรื่องนี้ออกมาสนุกที่สุด ดีที่สุด เพื่อแฟนละคร แม้จะเป็นละครที่รีเมกแต่พวกเราก็พยายามทำเต็มที่ให้ครบทุกรสสนุกทุกตอน”

จากนั้น ปิ่น ชรินพร สารภาพกับเราตรงๆ เมื่อรู้ว่าจะได้เล่นละครเรื่องนี้ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับมีความถามว่าทำไมเกิดขึ้นมากมาย รวมไปถึงความกดดันและคิดเยอะมาก ซึ่งปิ่นเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันวานให้เราฟังด้วยรอยยิ้มอีกครั้งว่า 

เรื่องธิดาวานรเป็นละครที่โด่งดังมากมาก่อน พอรู้ว่าจะได้เล่นละครเรื่องนี้ ก็มานั่งคิดว่า ทำไมเราถึงได้เล่น หรือ เพราะเราทำท่าลิงๆ ให้เขาดูหรือเปล่า ทำไม ทำไม

แล้วคือตอนนั้น เพิ่งได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ 2019 มาใหม่ๆ ด้วย ก็คือมึนไปหมด เพราะไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่ได้โอกาสมาค่ะ

แล้วคือกดดันมาก เพราะเรายังไม่เคยแสดงละครมาก่อน พื้นฐานเรียนการแสดงก็ไม่มี เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ทั้งหมด

ตอนแรกรีบหาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตก่อนเลย แต่ก็ไม่เคยดูในเวอร์ชันก่อนนะคะ แต่รู้จากพี่ๆ ว่ามันฮิตมาก คราวนี้ก็คือ กดดัน และคิดไปเยอะมากว่าเราจะทำได้หรือไม่ พยายามศึกษาข้อมูลเก่า บทที่ส่งมาให้เราเตรียมตัว อะไรที่เป็นการเตรียมความพร้อมได้ก็คือทำหมดเลยค่ะ”

และหลังจากที่ละครเรื่องธิดาวานร ออกสู่สายตาแฟนๆ อีกครั้ง แม้จะเป็นละครรีเมกแต่ก็เปิดตัวด้วยเรตติ้งที่สูงมาก งานนี้ทำเอานางเอกน้องใหม่ถึงกับยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว 

“ปิ่นดีใจมาก ตื่นเต้นมาก เพราะ ไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ ก็เป็นละครเรื่องแรกของเรา แค่เห็นผลงานละครเรื่องแรกของตัวเองที่ออกอากาศวันแรกก็คือ ดีใจมากแล้ว

แล้วคือวันแรกที่ละครออกอากาศมีเพื่อนมีคนมาทักเต็มเลย ทักไลน์ เมนต์ไอจีมา แล้วคือปิ่นเขินมากที่ได้เห็นตัวเองในทีวี

คุณครูที่โรงเรียน คนที่รู้จักเรียก ลิงๆ มานี่หน่อยซิ ไม่มีใครเรียกชื่อปิ่นแล้ว ไปไหนมาไหนก็มีคนเรียกแบบนี้เหมือนกันค่ะ ปิ่นก็เขินนะแต่ก็ดีใจเพราะแสดงว่าเขาดูละคร

แล้วเขาก็มีแซวกันด้วยนะว่า ทุกคนไม่ต้องตกใจนะถ้าเปิดเทอมได้มาโรงเรียนแล้วปิ่นจะทำท่าลิงเข้ามาในโรงเรียน ซึ่งปิ่นก็ไม่โกรธนะ เพราะแสดงว่าเขาติดตามดูละครเราอยู่ (ยิ้ม)”

จากนั้นเราถาม ปิ่น ชรินพร ถึงการรับบทเป็นเมงกาเลีย ที่จะต้องแสดงท่าทางเหมือนลิง ปิ่นนั้นไปฝึกฝนและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง งานนี้เราได้รับคำตอบที่ทำให้เอ็นดูนางเอกน้องใหม่ไม่น้อยว่าอย่างไร 

“เชื่อมั้ยคะปิ่นไม่ได้ไปเรียนที่ไหนเลย ก็คือทำได้เองเลย ซึ่งปิ่นก็งงเหมือนกันว่าทำไมปิ่นทำได้เองเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)”

จากนั้น เราถามนางเอกน้องใหม่ ปิ่น ชรินพร ว่ารู้สึกอย่างไร ที่วันนี้แจ้งเกิดเป็นนางเอกคนใหม่ของช่องได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์ นางเอกสาวยิ้มเขินและตอบว่า 

“ปิ่นยังรู้สึกตื่นเต้น และเขินอยู่ทุกครั้งที่เห็นตัวเองในละครอยู่เลยค่ะ ปิ่นอยากขอบคุณแฟนละครทุกคนที่ชื่นชอบ และขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามานะคะ

ขอบคุณช่อง 7HD ที่ให้โอกาสปิ่นได้เรียนรู้ และได้เล่นละครเรื่องนี้ สำหรับตัวปิ่นคิดว่ายังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลยค่ะในเรื่องของการแสดงธิดาวานรเป็นละครเรื่องแรก เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีมาก ที่ได้มีโอกาสในการทำงานตรงนี้

ซึ่งโอกาสที่เราได้มา เราต้องตั้งใจทำให้ดีและเต็มที่ที่สุด รวมถึงในอนาคตไม่ว่าจะเป็นโอกาสในด้านไหน ปิ่นก็จะตั้งใจเต็มที่เช่นกันค่ะ”

เพราะเป็นการเล่นละครเรื่องแรกในชีวิต แต่ก็ไม่ได้เป็นงานหมูๆ สำหรับ ปิ่น ชรินพร เพราะในเรื่องนี้ นางเอกสาวน้องใหม่ผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางการแสดงเลยต้องมารับบทที่ค่อนข้างจะยากอยู่ไม่น้อย ซึ่งเรื่องนี้สาวปิ่นก็ยอมรับกับเราแบบตรงๆ ว่าละครเรื่องนี้ยากมาก

“ละครเรื่องนี้ยากมากสำหรับปิ่นค่ะ เพราะเป็นละครเรื่องแรก และเรื่องนี้ก็รับถึง 2 บทบาท 2 คาแรกเตอร์ การเป็น เจ้านางทรายคำ ก็จะเป็นคุณแม่ แต่พอเป็นเมงกาเลีย ก็จะเป็นลูก

ซึ่งมันจะมีวันหนึ่งที่ถ่ายฉากที่แม่ลูกต้องเผชิญหน้ากันในฉากเดียวกัน แล้วคือซีนนั้นบทพูดทั้งหมดรวมกัน 2 หน้าเป็นปิ่นหมดเลย

คือช็อกมากวันนั้น เพราะเราต้องเป็นให้ได้ทั้งแม่และลูก แล้วคือบทพูดยาวมาก แม่ก็พูดอธิบายแล้วลูกก็ช่างถามมาก แต่ก็คือค่อยๆ พยายามจนผ่านมาได้ค่ะ (ยิ้ม)”

จากนั้น ปิ่น ชรินพร ได้เล่าให้เราฟังถึงการร่วมงานกับแม่มา ลิงอุรังอุตังตัวโตๆ ซึ่งปิ่นเล่าถึงการทำงานให้เราฟังด้วยน้ำเสียงที่สดใสร่าเริงว่า 

“ต้องบอกก่อนเลยว่า ปิ่นเป็นคนที่กลัวสัตว์ทุกชนิดมาก วันแรกที่ได้เจอกันก็คือแม่ตุ่มผู้กำกับจะให้ทำความรู้จักกับเขาก่อน ค่อยๆ แนะนำตัว ค่อยๆ เข้าใกล้ ค่อยๆ พูดกับเขา

แล้วอย่างเวลาที่ต้องฉากด้วยกัน ด้วยความที่เขาเป็นลิง เขาก็ไม่ได้เข้าใจในภาษามนุษย์อยู่แล้ว ปิ่นก็ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์เขานัก แต่พอเข้าฉากด้วยกันก็ต้องพูดกับเขาว่าเล่นหน่อยนะ

บางทีก็เอาของกินมาให้เขา เป็นการทำความรู้จักกันให้สนิทกัน แต่บางทีเขาก็มีเล่นแรงกับปิ่นเหมือนกันนะคะ อาจด้วยสัญชาตญาณสัตว์แต่ปิ่นก็เข้าใจเขานะ แต่ก็มีเจ็บเหมือนกันบางทีแต่ปิ่นก็เข้าใจค่ะ (ยิ้ม)”

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Chonticha Pinijrob