แจ็คกี้ เล่าอดีตเคยถูกดาราดังเมินใส่ แต่พอดังแล้วไดเรกต์มาทัก (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

ไทยรัฐออนไลน์

20 พ.ย. 2564 17:09 น.

อยู่ในวงการมานานกว่า 13 ปีแล้ว สำหรับนักแสดงสาวสายฮา แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์ ซึ่งในช่วงหลังกลายเป็นคนดังในโซเชียลเพราะเป็นที่รู้จักจากการเป็นแม่น้องบอง ตุ๊กตากระบองเพชรพูดได้ ด้วยลีลาขายขำแบบฮาๆ น่ารักๆ สร้างความประทับใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก แต่ก่อนจะมีวันนี้ แจ็คกี้เผยว่าในอดีตตอนยังไม่ดังเคยถูกดาราเบอร์ใหญ่เมิน แต่พอดังแล้วกลับไดเรกต์มาขอให้ช่วยเรื่องงาน

โดย แจ็คกี้ ชาเคอลีน เล่าผ่านทางคลิป “[FULL EP.19] “แจ็คกี้” โดนดาราเบอร์ใหญ่เมินใส่แรงมาก!!!! l ซานิเบาได้เบา l One Playground” ทางยูทูบแชนแนล One Playground ว่าเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เล่นละครมา 13 ปี ช่องป้อนละครให้ตลอด บทที่ได้รับจะเป็นนางร้ายพระเอกไม่รัก เมียเก็บของนายร้าย ไม่ได้บทนางร้ายหนึ่งของเรื่อง แต่ก็เป็นเด็กดี ไม่เคยเลือกบท รับเล่นหมด แต่บางบทมีเขย่าค็อกเทลราดตัว ลงไปรูดเสา ก็รู้สึกเล่นไม่ไหว โทรถามช่องว่าไม่เล่นได้มั้ยบทนี้ เขาก็รู้สึกว่าถ้าแจ็คกี้ไม่รับก็จะมีผลกับเรื่องต่อๆ ไป สุดท้ายก็รับ แต่บอกผู้จัดว่าเขย่าแรงมากก็ไม่ไหว

และเมื่อซานิถามว่า 13 ปีที่ผ่านมาเจอมาเยอะมาก จริงไหมที่แจ็คกี้เคยโดนเหยียด โดนดูถูก แจ็คกี้บอกว่า “อือ” และพยักหน้ายอมรับ ก่อนจะบอกว่ามองว่าเป็นเรื่องดี ข้อดีของมันก็คือเราเห็นการเปลี่ยนแปลงของคน ซานิถามว่าแปลว่าเคยเจอที่แบบว่า 5 ปีที่แล้ว ตอนแสงยังไม่จับเราเขาเมิน แต่ตอนนี้แสงจับเราแล้ว พอเจอเขาอีกรอบเปลี่ยนเป็นคนละคนเหรอ แจ็คกี้บอกว่าเปลี่ยน ก่อนจะเล่าว่า “เขาแทบไม่คุยกับเราเลย คือเดินมาถึงปุ๊บก็ไม่คุย แล้วก็แบบ…”

ซานิถามว่าทั้งที่อยู่กองเดียวกับเราเหรอ แจ็คกี้ตอบว่า “ใช่ ใครอยากคุยกับเรา ใครไม่อยากคุยกับเรา เราสัมผัสได้ถึงพลังงาน แจ็คกี้เคยเจอถึงขั้นว่าสวัสดีค่า แล้วคนทำอย่างนี้อะ (ทำหน้าตึง) แล้วทุกวันนี้คือทักไดเรกต์มาว่าพี่มีงานนี้ช่วยหน่อย หนูก็เลยบอกไงว่า ข้อดีของการอยู่มา 13 ปี มันเห็น ถามว่าช่วยงานเขามั้ย หนูก็ช่วยเขา (หัวเราะ)”

ก่อนจะเล่าอีกเรื่องให้ฟังว่า “หรือไม่ที่เคยเล่าไปก็คือเรื่องกระเป๋า ชอบตัดสินคนที่ของนอกกาย คือหนูอะเป็นคนแบบว่าไม่ได้ถือแบรนด์เนม ถือกระเป๋าชะลอมอะไรต่างๆ ของที่เราสบายใจ เราก็จะมีจังหวะที่เอาชะลอมของเราวางบนเก้าอี้ กลับมาอีกทีเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม ชะลอมฉันไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ฉันก็อ้าว…กระเป๋าไปอยู่ไหนอะคะ โน่นจ้ะ ไปอยู่ในป่า แล้วเราก็เลยถามว่าทำไมชะลอมไปอยู่ในป่า ชะลอมทำอะไรผิด เก้าอี้มีเป็นสิบ ไม่ไปลากเก้าอี้มาล่ะ”

ซานิพูดอีกว่ายังไม่พอเคยโดนแยกโต๊ะกินข้าว แจ็คกี้บอกว่า “เคยเจออารมณ์แบบประมาณว่าโต๊ะผู้จัด แต่นี่แปลก มีโต๊ะพระนาง เราก็งงว่าทำไมต้องแยก แต่ประเด็นคือพระนางก็ไม่ได้ยินดีที่จะไปนั่งแยกนะ พระนางก็มีความอิหลักอิเหลื่อว่าแยกทำไมอะ แล้วเราคือนึกออกเปล่า เราทำงานมาทั้งวันอะ ช่วงเวลากินข้าวมันคือช่วงเวลาเม้าท์มอย บางคนเขาก็น่ารัก เขาก็อยากเม้าท์ ให้เขาไปนั่งคุยกันสองคน พระนางเขาจะคุยอะไรกันก่อน เขาก็จะมีความแบบมานั่งด้วยกันๆ เชิดๆ”

ซานิถามว่าตอนนี้เปลี่ยนไปขนาดไหน แจ็คกี้ตอบว่า “ตอนนี้สิ่งที่ได้เห็นก็คือ คนที่ไม่น่ารักกับเราอะ หันกลับมาน่ารักกับเรา” ซานิพูดอีกว่าเราเหมือนเดิมแหละ แต่เราแค่ได้รู้แล้ว แจ็คกี้พูดเสริม “ว่าเขาเป็นยังไง มันเปลี่ยนจริงๆ พับผ่าอยากจะ… มันเปลี่ยนน่ะ” ทีมงานบอกว่าบอกอักษรย่อซิ แจ็คกี้บอก “อุ๊ย เยอะ”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2246705
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2246705