ช็อกเวที MUT ช่างภาพดังล่วงละเมิดนางงาม ปุ้ย TPN เอาเรื่องถึงที่สุด


ให้คะแนน


แชร์

โดย ทนายนิด้า บอกว่า วันนี้มาแจ้งความเพราะว่ามีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศกับบุคคลอื่น โดยมีตากล้องคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ในกองประกวด MUT ฉกฉวยโอกาสกระทำการในสิ่งที่ไม่เหมาะสม หลังจากที่ พี่ปุ้ย MUT ทราบเรื่องก็รีบติดต่อมอบหมายให้ตนเองเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพราะจะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้เด็ดขาด 

และ ทนายนิด้า ได้เผยว่า ในกองประกวดยังมีน้องๆ ที่โดนแบบนี้อีกเยอะ แต่ยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการกับคนคนนี้ เพราะกลัวตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และกลัวสังคมจะมองตนเองไม่ดี 

เมื่อถามว่า ช่างภาพคนนี้ก่อเหตุแบบนี้กับผู้เสียหายแล้วกี่คน ทนายนิด้า เผยว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีเกือบๆ 10 คน รวมเวทีอื่นด้วย แต่กับเวที MUT ช่างภาพคนนี้จะทำพฤติกรรมอนาจาร จับก้น จับหน้าอก พยายามปลุกปล้ำ 

ตากล้องรายนี้นอกจากจะทำอนาจารในกอง MUT แล้ว กองอื่นที่ผ่านๆ มา ทนายนิด้า ก็ได้สืบทราบว่า ช่างภาพคนนี้ไปทำงานก็มีพฤติกรรมแบบนี้เช่นเดียวกัน และยังได้ทำอนาจารกับบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ใช่นางงามอีกด้วย ที่สำคัญการกระทำที่ร้ายแรงที่สุดคือ ถึงขั้นข่มขืนกระทำชำเรา แต่เมื่อซักถามแล้ว มันไม่ใช่การสมยอม 

ที่ผ่านมามีผู้เข้าประกวดหลายคนที่โดนแบบนี้ แต่ไม่กล้าดำเนินคดีเพราะกลัวคนไม่เชื่อ กลัวคนจะแพ้คดี โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งช่วงนางงามเก็บตัว ทั้งเขาใหญ่ ชลบุรี เพราะช่างภาพรายนี้มีสิทธิ์ที่จะเดินเข้าออกห้องกองประกวดทุกห้อง เพราะต้องเก็บภาพเบื้องหลังกองประกวด ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทาง ปุ้ย TPN ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด

เมื่อถามว่า ผู้เสียหายถูกถ่ายคลิปแบล็กเมล์ด้วยหรือไม่ ทนายนิด้า บอกว่า มี แต่ไม่ทุกเคส แต่ไม่ขอลงรายละเอียดการข่มขู่ 

โดยหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นทีมงานกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส เล่าว่า ตนเองถูกกระทำอนาจาร ผู้ก่อเหตุมีการจับเนื้อต้องตัวในส่วนที่เป็นของสงวน ในขณะที่เกิดเหตุนั้นยอมรับว่าตกใจมาก ในช่วงแรกก็ไม่กล้าที่จะเล่าให้ใครๆ ฟัง จนกระทั่งตัวเองมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะต้องปิด จึงเล่าให้เพื่อนฟัง และพบว่ามีผู้ที่ถูกกระทำลักษณะนี้อีกหลายคน

ด้านผู้เข้าประกวดอีกหนึ่งผู้เสียหาย เผยว่า ตนเองนั้นถูกกระทำอนาจารต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งเป็นห้องแต่งหน้าที่มีคนอยู่นับ 100 คน ขณะที่เขาก่อเหตุ ตนเองก็ได้ชักสีหน้าให้เขารู้ว่าไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องตลก และก็ยังกระทำอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นจะแจ้งความ แต่คนรอบข้างไม่เห็นด้วยกับการที่เราจะมาแจ้งความ เพราะกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง

จนทำให้ตนเองเป็นหนึ่งในนั้นผู้หญิงที่ถูกทำอนาจาร แล้วที่ไม่กล้าออกมาพูด วันนี้ที่กล้าที่จะออกมาพูด และมาแจ้งความ ต้องการทำเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้หญิงหลายคนที่ถูกกระทำแบบนี้อยู่ ได้กล้าที่จะออกมาปกป้องตนเอง.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2250442
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2250442