ซึ่งแอนนาได้เปิดใจพูดตรงๆ อีกครั้งรอบหลังจากที่ อัยการตีกลับสั่งสอบเพิ่มอีก 20 ประเด็น หลังจากที่ตำรวจสรุปสำนวนคดีแตงโม นิดา โดยแอนนาเล่าว่า 

มีสื่อลงว่า แอนนาพูดไม่เหมือนเดิม ตอนแรกบอกว่าแต่งหน้าโมไม่ได้เพราะสภาพของร่างกายไม่เหมือนเดิม แต่ทำไมเมื่อคืนพูดว่าสภาพเหมือนโมนอนหลับ

ครั้งแรกที่แอนนาเจอโมคือเจอที่ท่าน้ำ และตอนนั้นก็ยังไม่เห็นหน้าเห็นตา และก็ไปเจออีกทีที่สถาบันนิติเวช ที่โรงพยาบาลตำรวจ

ตอนนั้นร่างกายของโมโดนอากาศและโดนลม ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังจากนั้นไปประมาณครึ่งเดือนเราก็ติดตามคดีตลอด อันนี้คนไม่รู้เยอะว่าเราทำอะไรหลังบ้าน 

หลังบ้านเราก็ติดตามว่าบาดแผลมีกี่จุด หรือตอนที่จะเข้าสถาบันนิติเวชก็จะถามว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร อย่างฮิปโปก็จะถามทางนิติเวชตลอดว่า ร่างกายโมเจออะไรบ้าง มีบาดแผลตรงไหนบ้าง เราถามมาตลอด 

จนวันหนึ่งเราเจอรูปหนึ่งที่ได้มาแต่ไม่ขอบอกว่ามาจากไหน เขาให้ดูรูป รูปสภาพตอนแรกเป็นอย่างไร เราก็ดูรูป พอดูในรูปตอนที่โมขึ้นมาจากน้ำเลย คือสภาพตาหลับแต่ร่างกายบวมน้ำเล็กน้อย 

แต่สภาพที่เราเห็นที่นิติเวช สถาบันตำรวจมันผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว และที่ไลฟ์เมื่อวานเราต้องการให้ทุกคนยังจับตาเรื่องคดีอยู่ ยังไม่ปล่อยเรื่องการติดตามคดี ต้องบอกว่าเรื่องคดีโมเราไม่ปล่อยอยู่แล้ว

เราตามตลอดว่ามีอะไรผิดปกติ ถ้าเราไม่พูดเมื่อคืนนี้จะมีประเด็นวันนี้หรือเปล่า เราพูดมาตลอด แต่ว่าบางอย่างตอนที่ตำรวจไม่สรุปคดี เรายังไม่พูด เพราะเรามองว่า ถ้าพูดไปแล้ว ถ้าตำรวจสรุปอีกแบบแล้วไม่เหมือนกัน 

แต่ตอนนี้สรุปคดีออกมาแล้ว เราก็พูด อะไรที่เราสงสัยเราพูดตลอด พวกเรา แอนนา โม อมีนา และฮิปโป เราไปจำลองเหตุการณ์กันมาว่าท้ายเรือนั่งฉี่ได้หรือเปล่า เรือระดับน้ำลึกลงไปสามารถนั่งท้ายเรือได้จริงมั้ย

เราไปทำกัน ไม่มีใครรู้ และหลายคนพยายามพูดว่าเราเข้าข้าง 4 คนบนเรือ จะฟ้องกันอยู่แล้ว จะไปเข้าข้างเขาเพื่อ ไม่เข้าข้างนะคะ เราไม่เข้าข้างใครทั้งสิ้น 

และสิ่งที่เราทำคือพยายามทวงความยุติธรรมมาโดยตลอด หลายคนถามว่าทำไมเวลาไลฟ์ขายของไม่พูดเรื่องโม คือเราไม่พูดอยู่แล้ว ไม่เอาแสงตรงนี้มาหาเงิน และบอกเลยว่าค่าตัวออกรายการแอนนาเอาไปทำบุญหมด 

คนที่เข้ามาว่า ถามก่อนดูเจตนาการว่าแอนนาเจตนาอะไร ซึ่งเจตนาของแอนนาคือต้องการให้ทุกคนติดตามคดี ต้องการให้คดีเป็นกระแสอยู่ ต้องการพลังในโซเชียล เข้าไปดันแฮชแท็กในทวิตเตอร์ 

ซึ่งตอนที่เราเห็นโมมันคนละเวลากัน และตอนนั้นตำรวจยังไม่สรุปคดีถ้าเราออกมาพูดก่อนแล้วมันเสียรูปคดี เราต้องรับผิดชอบ เข้าใจใช่มั้ย ตอนนี้ตำรวจออกมาพูดแล้ว เราก็พูดได้ในส่วนที่เราพูด 

และอัยการก็ให้สอบเพิ่มอีก 20 ประเด็น ดังนั้นอะไรที่เราสงสัย เราไม่เคยหยุดตามหาความจริง ดังนั้นใครก็ตามที่จะมาปั่น บอกก่อนทุกคนที่ออกมาเกี่ยวกับคดีเรื่องนี้ พูดแบบไม่โกหกนะ ทุกคนอยู่ในอันตรายหมด 

ไม่มีใครอยากเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง แต่แอนนาพูดไว้แล้วว่า เพื่อนตายทั้งคนถ้าวันนี้ต้องตายเพราะมีใครมายิง มาทำร้ายร่างกาย หรือมีใครมาเล่นสกปรก หรือใช้วิธีอะไรก็ตาม เราก็ไม่สนใจ 

คนที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่แอนนา ฮิปโป พูดเดิ้ล โม อมีนา อยู่ ไม่รู้หรอกว่าพวกเราต้องเสี่ยงกับอะไรบ้าง จะมาพูดว่าไปเข้าข้างเขาเพราะกลัว ถ้ากลัวไม่พูดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว 

สิ่งที่เราทำ เราไม่กลัวที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อน สังเกตมั้ยเลื่อนไปดูนะ ข่าวไหนที่กลั่นกรองแล้วแอนนาจะแชร์ตลอด แต่อะไรที่มันไม่ชัวร์เราดูแล้วไม่ใช่เราไม่เชื่อ เราก็ไม่แชร์ ข่าวอะไรที่แอนนาลงแอนนากรองมาเรียบร้อยแล้ว

ส่วนสภาพศพคนถามว่าทำไมไม่เห็นบาดแผล แอนนาสงสัยเหมือนที่ทุกคนสงสัย ตอนที่ทุกคนถามแอนนา แอนนาก็ไปถามกับทางนิติเวช ว่าทำไมตอนแรกที่ร่างโมขึ้นจากน้ำ ทำไมไม่เห็นบาดแผล

คำตอบที่ได้คือ โมเป็นคนผิวขาว ตอนที่ขึ้นจากน้ำก็เลยยังไม่เห็นริ้วแผล แต่พอระยะเวลาผ่านไป ร่างกายเปลี่ยนสี สีของร่างกายเริ่มเข้มขึ้น ก็เลยเริ่มเห็นบาดแผลมากขึ้น

ซึ่งเราก็มีคำถามอยู่ในใจว่า บาดแผลเกิดขึ้นได้อย่างไรตั้งมากมายขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลข้างขา ตรงริ้ว ข้อพับ ตรงไหนที่เป็นบาดแผลเราก็ถาม

ซึ่งเขาบอกว่าตกท้ายเรือ เราก็คิดว่าทำไมตกท้ายเรือแผลมันเยอะจัง เพราะเรือมันแล่นออกไปเลย แต่ถ้าทุกคนถามว่าทำไมไม่พูดก่อนหน้านี้

ตอนนั้นตำรวจยังไม่สรุปคดี เราไม่พูด เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะสรุปออกมาแบบไหน ถ้าพูดไปแล้วแล้วมีผลต่อรูปคดี คนรับทัวร์คือใคร ดิฉัน ดังนั้นอะไรก็ตามถ้าจะออกมาพูดมันต้องชัวร์แล้ว 

และใครก็ตามที่มาบอกว่าเพื่อนๆ เปลี่ยนไป เพื่อนๆ ไม่เปลี่ยนค่ะ โม อมีนา สั่งหุ่นมาถ้าต้องตกท้ายเรือต้องตกท่าไหนถึงจะเป็นแผล เรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้ พูดแล้วก็เกิดอันตรายต่อตัวเรา แต่เมื่อวานนี้ที่เรายอมพูด

เพราะอย่างน้อยคดีจะได้รับการขับเคลื่อน คนจะได้กลับมาสนใจว่า 20 ประเด็นที่อัยการตีกลับมาคืออะไร เข้าใจใช่มั้ย 

ตอนแรกบอกจำไม่ได้ จนต้องยืนยันรอยสัก ก็ถูกต้อง ตอนแรกที่เห็นโมครั้งแรก เราจำโมไม่ได้เลย เพราะว่าตอนนั้นร่างกายผ่านไปหลายชั่วโมง เจอโมตอน 11 โมง เราไปหาที่สถาบันนิติเวชตอน 6 โมงเย็น 

เราไปเห็นจริงๆ จะมืดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นเราไม่เคยเห็นรูปตอนที่โมขึ้นมาจากน้ำตอนแรก เราไม่เห็นรูปนั้นเลย เรามาเจอรูปนั้นก่อนหน้าที่ตำรวจจะสรุปคดีไม่นาน 

เรายังถามกลับไปเลยว่า ทำไมพี่ๆ ไม่เอารูปนี้ให้ประชาชนดู เขายืนยันว่ารูปนี้อยู่ในหลักฐาน ไม่สามารถเอามาเปิดเผยได้ 

ไม่มีใครโอเคอยู่แล้วกับการสรุปสำนวนคดีตอนนี้ ไม่มีใครโอเค ที่เราออกมาพูดกัน เราต้องการให้โซเชียลดันแฮชแท็กให้หน่อยเท่านั้นเอง 

ก่อนที่แอนนาจะให้คุยกับ นุช ซึ่งเป็นเพื่อนแก๊งชั้น 2 ของโม มีการคุยกันเป็นระยะๆ เรื่องคดีอัปเดตตลอด ไม่เคยปล่อย แต่ไม่พูดถ้าไม่ชัวร์ 

ไม่มีใครเห็นรูปที่คุณหมอนิติเวชถ่ายตอนแรกเลย ไม่มีใครเห็น ลองเรียกร้องกันดูก็ได้เผื่อเขาเอามาเปิดเผย แต่ถ้าเปิดเผยแล้วจะมีผลต่อรูปคดีก็ไม่อยากให้เปิดเผย 

ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ตอนสรุปสำนวนคดีเรายังนอนร้องไห้อยู่เลย สงสารโม จากไปแล้วก็ควรได้รับความยุติธรรมบ้าง เราไม่ได้ว่าตำรวจนะ แต่มันควรจะมีข้อมูลที่มากกว่านี้

จนเมื่อวานที่อัยการตีกลับ 20 ประเด็น เรารู้สึกดีใจมากว่าสิ่งที่เราสงสัยเขาเอาไปถามให้ตำรวจไปสืบต่อแล้ว เป็นสิ่งที่เราโอเคขึ้น แต่จะให้พูดว่าเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุเราพูดไม่ได้ 

เรื่องแตงโมมือกำทรายแอนนาไม่เห็นรูป แอนนาจะบอกนะคะว่า อะไรก็ตามที่เป็นคดีและถ้าเรามีหลักฐานที่ชัดเจนและคิดว่ามันเป็นถูกต้อง เป็นประเด็นที่เราต้องขยี้ ต้องพูด ต้องถาม จงทำ

แต่อะไรที่เป็นหลักฐานที่คนสร้างขึ้น อยากได้แสง อยากได้ซีน อย่าเอามาลง เพราะคนที่ตามอยู่เขาอยากได้ความจริง เรื่องโทรศัพท์แตงโม แอนนาก็สงสัยเหมือนกัน 

ส่วนเรื่องที่แอนนาเคยพูดว่าไม่ใช่ฆาตกรรม 100% ต้องบอกว่าครั้งแรกเลย เราไม่คิดว่าจะทำร้ายโมได้ แต่พอเรามารู้ตอนหลังๆ เราก็เลยไม่ขอตีประเด็นว่าจะเป็นฆาตกรรมหรือไม่ฆาตกรรม ขอรอดูเรื่อยๆ 

เราไม่เคยปล่อยให้คดีนี้เงียบนะคะ ใครที่บอกว่าเพื่อนเปลี่ยนไป สิ่งที่ทำ ทำเพื่อโมมาตลอด รับแมวมาเลี้ยงเพราะรักโม บริจาครถเพราะรักโม ทุกวันนี้ยังตามคดีโม เพราะไม่อยากให้คดีเงียบ 

ส่วนเรื่องสภาพศพหลังจากที่ได้เห็นภาพ เราแค่รู้สึกว่า คนจมน้ำ 3 วัน ทำไมร่างกายไม่บมไม่อืด เราสงสัยแค่ว่า น้ำมันเชี่ยวจัง แต่ร่างโมเจอที่เดิม นี่คือสิ่งที่เราสงสัย ว่าจะไม่พูดล่ะ 

ทัวร์จะลง ตำรวจจะลง อะไรจะลงก็ช่างมัน พูดเลยล่ะกัน ถ้าคนได้เห็นรูปตอนแรก ตอนที่คุณหมอสถาบันนิติเวชถ่าย จะเหมือนคนนอนหลับ ร่างกายบวมเล็กน้อย

และสิ่งที่เราและเพื่อนๆ สงสัยตอนที่เจอรูปนั้น คือ คนจมน้ำ 3 วันทำไมสภาพเหมือนคนนอนหลับ น้ำเชี่ยวแรงมาก แค่ศพเจอที่เดิม มันเป็นไปได้แค่ไหน เราแปลกใจมาก 

ขาสวย ขาวสวย ไม่มีการบวม การอืด เราคิดแบบนี้นะคะ อันนี้คือสิ่งที่เราสงสัย แต่เราไม่พูดตรงๆ เพราะถ้าพูดไปอาจจะกระทบคดี เราก็เซฟตัวเองไม่ให้โดนฟ้อง เพราะถ้าโดนฟ้องจะพูดได้น้อยลง 

แอนนาพูดได้เพราะยังไม่ได้โดนฟ้องจากใคร แต่ถ้าโดนฟ้องและพูดอยู่ นั่นหมายความว่าเราไม่เกรงกลัวอำนาจศาล เลยเลี่ยงๆ เข้าใจหรือยัง ที่พูดว่าสภาพโมเหมือนคนนอนหลับ เก็ตกันหรือยัง พูดตรงๆ จะได้จบและหายสงสัยกัน

สภาพโมบวมน้ำเล็กน้อย สภาพขายังดูสวยอยู่ จุดที่เจอไม่ไกลจากจุดที่ตกเรือ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลแรงมาก ทำไมเจออยู่ที่เดิม ไปติดกับอะไรอยู่รึเปล่า แล้วถ้าติดทำไมไม่มีบาดแผล

และทำไมบาดแผลเป็นแผลคล้ายโดนของมีคม หน้าโมไม่เปลี่ยนมาก เปลี่ยนเล็กน้อย ต่างกับตอนที่กู้ภัยถ่ายมาก มีอะไรจะมาอัปเดตต่อ