ต่อ ธนภพ ใจหายประกาศปิดนาดาว รับอยากโดนจีบเข้าสังกัด


ให้คะแนน


แชร์

ไทยรัฐออนไลน์

11 พ.ค. 2565 19:15 น.

หลังจากที่ ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ได้ประกาศยุติบทบาทของบริษัท ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาและดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่างๆ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ข่าวนี้ทำเอาแฟนๆ ตกใจไม่น้อย

ล่าสุดพระเอกหนุ่ม ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร นักแสดงเบอร์ต้นๆ ของนาดาวฯ ที่อยู่ในสังกัดมานานได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวกับทางวันบันเทิง โดยเผยว่า

ตอนแรกที่รู้ก็ตกใจ จริงๆ มันก็มีความใจหาย มันไม่ใช่การคุยอธิบายกันครั้งสองครั้ง เราอธิบายกันมาเรื่อยๆ  มันเลยทำให้สุดท้ายวันนี้พอมันเกิดขึ้นจริง ผมรู้สึกว่าผมโอเค เพราะผมรู้เหตุผล

แล้วมันไม่ใช่การกระทำแบบที่พวกเราไม่มีเหตุผล ผมเข้าใจ ที่จริงเรื่องแบบนี้มันไม่สามารถคุยกันในคืนเดียวได้หรอกครับ จริงๆ แล้วมันมีการคุยกัน แต่ว่าเป็นการคุยกันภายใน

พอมีข่าวออกไป หลายคนก็เป็นห่วงเด็กๆ ในค่าย?
ผมขอบคุณแทนทุกคนครับที่เป็นห่วงกัน จริงๆ พวกผมก็เป็นห่วงตัวเองเช่นกัน พูดตามตรงก็เป็นห่วงอยู่แล้วในหน้าที่การงาน เอาส่วนตัวผมแล้วกัน ผมรู้สึกว่ามันถึงจุดที่เราก็โตขึ้นแล้ว มันไม่แปลกเลยถ้าวันนี้เราจะต้องเริ่มเดินด้วยสองเท้าเราเอง มันก็ปกติแหละ

ถามว่าผมจะเดินยังไงต่อไปก็คิดๆ อยู่ครับ แต่ว่าผมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจแบบฟันธงขนาดนั้นว่าเราจะเอายังไง เพราะยังเปิดโอกาสให้ตัวเองได้คิดได้ทบทวนจริงๆ ก่อนว่าเราอยากเมเนจตัวเองยังไง ถามว่าได้คุยกับน้องๆมั้ย ก็มีคุยครับ แต่ว่าส่วนใหญ่ผมทำงาน ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กับคนอื่นเท่าไหร่

สำหรับไม่ว่าใครจะพูดยังไง ต่อให้นาดาวจะปิดหรือไม่ปิดหรือยังอยู่มั้ยก็ตาม นี่คือบ้านผมเท่านั้น ผมมองอย่างนั้น แล้วความคิดนี้ไม่เคยเปลี่ยน ผมโตมากับที่นี่ ผมถูกที่นี่ให้กำเนิด ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ แล้วผมก็เชื่อว่าพี่ๆ เขาไม่ได้ไปไหน

ต่อให้ไม่มีส่วนที่ดูแลศิลปินแล้ว แต่มันไม่ได้แปลว่าเขาไม่ใช่พี่เรา เขายังเป็นพี่เราและเป็นคนที่ทำให้รู้สึกว่าถ้าเราต้องการคำปรึกษาก็ยังนึกถึงเขาอยู่ดี และผมยังเชื่อด้วยว่าเขาก็คือคนที่พร้อมให้คำปรึกษาเรา นาดาวไม่ใช่บริษัท นาดาวคือคนมากกว่าสำหรับผม

พอมีประกาศออกมาแบบนี้ หลายคนพุ่งเป้าว่าอาจจะมีคนมาจีบๆ เรา?
อยากโดนจีบครับ (ยิ้ม) ผมรู้สึกว่าอย่างพี่ๆ ที่ทำงานกับผมอยู่แล้ว เราคุยกันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว สำหรับผมสิ่งสำคัญมันไม่ใช่สัญญาด้วยซ้ำ ให้ใจล้วนๆ เลย ผมว่ามันเรื่องเล็ก สุดท้ายมีสัญญาแต่ไม่มีใจมันก็ทำอะไรไม่ได้ ตัวผมเองก็ยังจะตั้งใจทำงานให้แฟนๆ ต่อไปครับ

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2390101
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2390101