เสนาหอย เคลียร์ปมทะเลาะ เปิ้ล นาคร วิถีชีวิตต่างกัน ยากจะกลับมาร่วมงาน


ให้คะแนน


แชร์

ไทยรัฐออนไลน์

26 พ.ค. 2565 16:42 น.

ตำนานชาวแก๊ง สาระแน ที่เป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกันจนใหญ่โต แต่ก็ต้องสะดุดเส้นทางธุรกิจ ปิดตำนานเพื่อนรักเพื่อนสนิท จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อในอดีต งานนี้วันเวลาเปลี่ยนไป พิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา แห่งรายการดัง โต๊ะหนูแหม่ม ทางช่องเวิร์คพอยท์ ขอล้วงลึกถึงความสัมพันธ์ของ เสนาหอย กับประเด็นดังในตำนานว่า ณ ปัจจุบัน เสนาหอย พร้อมกลับมาคุยกับรุ่นพี่คนสนิทอย่าง เปิ้ล นาคร ได้สนิทใจเหมือนเดิมหรือยัง

ขออนุญาตถาม ถ้าต้องคุยหรือว่าร่วมงานกับ เปิ้ล นาคร?

“ผมว่าไม่น่าจะได้ร่วมงานกัน (พร้อมหรือว่าไม่พร้อม) ผมพร้อมที่จะทำอะไรทุกอย่าง แต่ว่ามันไม่ใช้คำว่าพร้อมนะครับ เรารู้สึกว่าถ้าทำไปมันก็คงไม่ดี ความรู้สึกของเราที่เคยทำกัน มันก็น่าจะออกมาไม่ดี ตอนนี้ชีวิตผมหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ เขาเรียกว่าการดำเนินชีวิต หรือว่าคาแรกเตอร์ก็แล้วแต่ หรือว่าอะไรหลายๆ อย่างในตัวผมมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่างผมกับคุณวิลลี่ มองหน้ากันแล้วแบบว่าเราคงไม่เป็นเจ้าของรายการกันแล้วนะ เฮ้ย..เราพร้อมเป็นลูกจ้างแล้วหรือเปล่าวะ”

อย่าง แหม่มเอง หลายคนคิดว่าเรากับ แหม่ม คัทลียา กลับมาคุยกันหรือยัง คุยกันได้ไหม ของเราเคลียร์แล้ว เราคุยกันได้กอดกันได้สนิทใจ แล้วถ้า พี่เปิ้ล กับ หอย จะมีภาพนี้ไหม?

“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตเป็นยังไง ผมว่ามันยังไม่ถึงเวลาหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ (เราจะได้เห็นภาพนี้ไหม) ผมว่าเราคงไม่ได้ร่วมงานอะไรกัน แต่ว่าความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนที่มันดูดำๆ ตอนนี้ก็เริ่มเทา มันเริ่มจาง เดี๋ยวมันก็คงขาว มันต้องใช้เวลา คือจริงๆ แล้วสุดท้ายเหมือนเราดำเนินชีวิตไม่เหมือนกันแล้ว เขาก็ทำแบบของเขา มันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไปทำรายการคงไม่ ตอนนี้ผมมีความสุขกับการทำยูทูบรายการเกี่ยวกับสัตว์ที่เราชอบกันของคุณวิลลี่ ส่วนเกษตรของผม”

แต่เราก็รักกันได้หนิ?

“ผมไม่ได้เกลียดเขา (ถ้าตอนนี้พี่เปิ้ลดูอยู่อยากจะบอกอะไรเขา) คือก็อยากให้เขาทำอะไรก็แล้วแต่ ตามอย่างที่เขาชอบใจ ผมเห็นเขาตั้งใจทำรายการสอนลูกขับเจ็ตสกี ตอนนี้ผมได้ข่าวว่าเขาได้รับอุบัติเหตุอยู่โรงพยาบาล ก็รู้สึกเป็นห่วงนะพี่นะ การเป็นห่วงคือมันเป็นอารมณ์ที่เราเป็นห่วงที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้

แต่จริงๆ เรากับเขาดำเนินชีวิตไม่เหมือนกันแล้ว ทำอะไรก็ไม่ใช่เหมือนกันแล้ว มันไม่ใช่แค่ผม คุณวิลลี่ก็เหมือนกัน คือตอนนี้เราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราก็คอยมอง ไม่ใช่ว่าไม่มองเลย เห็นพี่เขาไปทำนี่ เห็นพี่เขาไปทำร้านอาหาร ก็ส่องกันได้ แต่ก็ไม่ร่วมงานกันอยู่แล้ว มันค่อนข้างยาก มันไม่ใช่ไทม์มิ่งนี้แล้ว จะเห็นหน้ากันต้องโกรธเกลียดแค้น ห้ำหั่นกัน มันไม่ใช่ เราไม่เคยคิดแบบนั้นอยู่แล้ว”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2402795
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2402795